ธรรมฐิต
พระ(มหา) วิชิต ชิต สมถวิล(ฐิตธมฺโม)

..ว่างเบา..ก่อนเข้าโลง..


เมื่อคืนฝนตกหนักเกือบชั่วโมง  นั่งดูฝนที่กระหน่ำมาจากฝากฟ้า

อย่างเงียบสงบ  แต่ในใจพลันคิดถึงความตายขึ้นมาทันท่วงที

ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ธรรมฐิตคิดระลึกถึงมันอยู่เนืองๆ

เพราะในเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เราทุกชีวิตต้องได้รับ

ก็ต้องทำความรู้จักกับมันไว้ทุกเมื่อเชื่อวัน  เพราะไม่รูว่าจะได้รับวันไหน

เลยต้องเรียนรู้ไว้ก่อนจะได้เผชิญหน้ากะมันอย่างเพื่อนรักที่แสนดี

แต่ก่อนจะได้รับมันในขณะมีลมหายใจอยู่นี้แหละ

เราก็ควรจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์กะตัวและคนรอบข้างบ้างละ

ในวันหนึ่งไม่มากก็น้อยควรทำสิ่งที่ดีไว้บ้าง

ก่อนที่เราท่านจะไม่มีโอกาสได้ทำ

........

เคียงเอ๋ย  เคียงร่าง  อยู่ข้างศพ

เย็นยะเยียบเงียบสงบสลบไสล

มีจิ้งหรีดกรีดเสียงสำเนียงไพร

น้อมส่งใจจดจ่อมรณา

คนเอ๋ยคนเราก็เท่านี้

ไม่เห็นมีสิ่งใดควรใฝ่หา

กิน  กาม  เกียรติ  เก่ง  โก้  ในโลกา

คือมายาของชีวิตอนิจจัง

ลวดลายลีลาในหล้าโลก

เศร้าโศกสุขสมอารมณ์หวัง

ชั่วครู่ชั่วคราวมิยาวยัง

จะจริงจังกับอะไรในชีวิต

ปล่อยเอ๋ยปล่อยวางเสียบ้างเถิด

รู้กำหนดลดละสละสิทธิ์

แจกจ่ายเจือจานสมานมิตร

เพื่อชีวิต “ ว่างเบา” ก่อนเข้าโลง

ธรรมะสวัสดีขอรับ..

คำสำคัญ (Tags): #ธรรมฐิต
หมายเลขบันทึก: 299699เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2009 06:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดียามคะ วันนี้และเมื่อวานครูโมเมย์ไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่คะ เนื่องจากไม่สบายด้วยอาการป่วยไข้ทางกายและทางใจ

     - ป่วยไข้ทางกายเนื่องจากเป็นไข้หวัด

     - ป่วยไข้ทางใจก็คือโรคเครียดจากหน้าที่การงานและเรื่องเรียนของครูโมเมย์เองคะ ช่วงนี้ก็เลยไม่ได้ติดตามเรื่องเล่าจากเพื่อน G2K เลย เอาไว้ให้หายดีแล้วครูโมเมย์จะมาขอรับข้อคิดดี ๆ ใหม่นะคะ

อ่านกี่ครั้งก็ยังใช่เลยคะ "ความสำเร็จอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น"

ป่วยกายอย่างเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว

แล้วจะป่วยใจทำไมอีกละคุณครู..

โรคใจหมอรักษาไม่หายมีแต่เราเท่านั้นที่เป็นหมอที่ดีที่สุด..

..ความเครียดความกังวลบางอย่างถึงเรารู้ว่ามีทางที่จะแก้ไขมันได้

ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวล..  ควรนำวิธีที่จะแก้ไขมันมาใช้เมื่อถึงเวลา

กลับกัน..ความเครียดความกังวลบางอย่างเรารู้ว่าไม่มีทางแก้ไขมันได้อย่างแน่นอน  แล้วจะไปกังวลให้หนักสมองทำไมเล่า..

เรามีแต่ได้กับได้หากมองให้ถูกเหลี่ยมถูกมุม..

สู้ๆๆต่อไปขอรับคุณครู..

ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ครูโมเมย์ก็พยายามทำให้ได้คะ ช่วงนี้ก็ลาพักผ่อนสักระยะนะคะ

นมัสการค่ะ...หลวงพี่

สดับรับฟังธรรมะ...เพื่อน้อมนำปฏิบัติให้ใจเจือจางแห่งการแบกสัมภาระ...เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องวางทุกอย่างลง จิตใจจะได้สงบอย่างแท้จริงเจ้าค่ะ...

"ปล่อยเอ๋ยปล่อยวางเสียบ้างเถิด

รู้กำหนดลดละสละสิทธิ์

แจกจ่ายเจือจานสมานมิตร

เพื่อชีวิต “ ว่างเบา” ก่อนเข้าโลง"

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ

เป็นธรรมอันงามยิ่งแล้ว สาธุ

นมัสการครับ

ประเด็นนี้น่าสนครับ

โดยปกติคนเวลาตายจะแบมือ เหมือนบอกไรบางอย่างว่า กู วางหมดแล้ว

แต่คนที่เป็น กลับจับดอกไม้ธุปเทียนยัดใส่มือ กลัวเหมือนว่าคนตายจะไม่ถึงพระพุทธฯ

...ลืมนึกว่ายัดเยียดให้คนตายไปถึงพระพุทธฯ แต่คนเป็นไม่ได้จัดการตัวเอง

มิ หนำซ้ำยังจับคนตายอ้าปากยัดเหรียญลงไปอีก เท่านั้นไม่พอ จับถอดผ้าอาบน้ำขับสีอย่างดี

เหมือนจะบอกว่าถือเอาไว้มาก ๆ ยึดเอาไว้มาก ๆ นะ กำเอาไว้แน่นๆ (เอะ ! บอกใคร ???? ห้า ๆๆ)

สาธุอาจารย์viJ..

ให้รู้จักวางก็ยังดีขอรับจะได้ผ่อนคลายบ้างบางเวลา..

ขออนุโมทนาขอรับ..พี่นก..

ไม่ใช่งดงามที่ธรรมแต่ใจพี่นกต่างหากที่งดงาม..

 

อ้าวเจษ..อยู่ฝรั่งเศสบายดีเนาะ..

คนจำพวกนี้แหละที่เป็นครูสอนใจเราอย่างดีเยี่ยมละเจษ..

กลับมาคงได้ถกกันยาวละคราวนี้..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท