ธรรมฐิต
พระ(มหา) วิชิต ชิต สมถวิล(ฐิตธมฺโม)

ร้องไห้กับชีวิต..


เช้านี้ตื่นมาสวดมนต์นั่งวิจัยลมเข้าออก

แผ่เมตตาให้แก่สรรพสิ่งอย่างเท่าเทียมกันตามปกติ

ลงเดินสูดบรรยากาศอันอบอวนไปด้วยกลิ่นไอธรรมชาติ

ฟังเสียงนกร้องซึ่งออกหากินตามวิถีเพื่อความอยู่รอด

ชีวิต(บางมุม)เริ่มต้นด้วยเรื่องที่ต้องปกปิดเพราะความละอาย

 หยัดยืนอยู่ด้วยเรื่องสับสนยุ่งยาก  และจบลงด้วยเรื่องเศร้า 

อนึ่งชีวิตนี้เริ่มต้นและจบลงด้วยเสียงคร่ำครวญ

ดั่งปริศนาแห่งการมาและการจากไปของเรา 

เมื่อลืมตาขึ้นดูโลกเป็นครั้งแรกเราก็ร้องไห้

 และเมื่อจะหลับตาลาโลกเราก็ร้องไห้อีก 

หรืออย่างน้อยก็เป็นสาเหตุให้คนอื่นหลั่งน้ำตา 

เด็กร้องไห้พร้อมด้วยกำมือแน่นเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาเกิดมา

เพื่อจะหน่วงเหนี่ยวยึดถือ  แต่เมื่อหลับตาลาโลกนั้น 

ทุกคนแบมือออกเหมือนจะเตือนให้ผู้อยู่เบื้องหลังสำนึก

 และเป็นพยานว่า(กู)เอาอะไรไปมิได้เลย

มีบทสวดบทหนึ่งใช้สวดในงานบุญครบร้อยวัน

ซึ่งแปลความเป็นไทยได้ว่า

..เปรียบเหมือนภูเขาหินทั้งลูก  สูงจรดฟ้า

 กลิ้งเข้ามาหาพร้อมกันทั้งสี่ทิศ

ย่อมบดขยี้สัตว์ทั้งหลายให้พินาศไป ฉันใด 

ความแก่และความตายก็ฉันนั้น  ย่อมครอบงำย่ำยีสัตว์ทั้งหลายไม่เว้นใครเลย  ไม่ว่ากษัตริย์ พราหมณ์  ไวศยะ ศูทร  จัณฑาล

หรือคนรับจ้างทิ้งขยะมูลฝอย  ความแก่และความตายนั้น

อันใคร ๆ จะเอาชนะด้วยกองทัพช้างม้า พลเดินเท้า ด้วยทรัพย์ 

หรือเวทมนตร์คาถาใด ๆ มิได้เลย  เพราะฉะนั้นบัณฑิตผู้พิจารณาเห็นประโยชน์

พึงมีศรัทธา(อันเปี่ยมด้วยปัญญา)

ในพระพุทธ

(ผู้รู้เท่าทันสรรพสิ่ง)

  พระธรรม 

(สรรพสิ่งที่ผู้รู้เท่าทันนำมาเปิดเผย)

และพระสงฆ์

(หมู่คณะบุคคลที่เรียนรู้ให้เท่าทันสรรพสิ่งที่ผู้รู้นำมาเปิดเผย

แล้วบอกต่อแก่มวลสรรพสัตว์บนพื้นพิภพนี้)

ประพฤติหน้าที่ด้วยกาย วาจา ใจ ย่อมได้รับการสรรเสริญ

   เวลานี้  ละจากเวลานี้ไปแล้ว   ย่อมบันเทิงในสถานที่ต่างๆ...

ธรรมะสวัสดีขอรับ

คำสำคัญ (Tags): #ธรรมฐิต
หมายเลขบันทึก: 293807เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2009 06:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

เข้ามารับธรรมะยามเช้าครับ

นมัสการ ท่านมหา ชิต

จริงตามีท่านมหาฯว่า เกิดก็ร้องให้ อยู่ก็ร้องให้ ตายเพื่อนที่เป็นห่วงก็ร้องให้

ตนร้องให้ก้สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ แต่ว่าต้องตายเสียก่อน

  • กราบนมัสการ  ท่านธรรมฐิต เจ้าค่ะ
  • มารับธรรมะยามเที่ยงค่ะ
  • "ชีวาเกิดมา           มีค่าแค่ไหน
    มาแล้วก็ไป           หาได้จีรัง
    เกิดมาเพื่อทุกข์     ไร้สุขสมหวัง
    เป็นเพราะกรรมบัง   หรือคลั่งอวิชชา"

นมัสการค่ะ...หลวงพี่

มารับธรรมะเจ้าค่ะ...

เด็กร้องไห้พร้อมด้วยกำมือแน่นเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาเกิดมา

เพื่อจะหน่วงเหนี่ยวยึดถือ แต่เมื่อหลับตาลาโลกนั้น

ทุกคนแบมือออกเหมือนจะเตือนให้ผู้อยู่เบื้องหลังสำนึก

และเป็นพยานว่า(กู)เอาอะไรไปมิได้เลย

-------------------

นมัสการลาเจ้าค่ะ

Pขออนุโมทนาขอรับท่านรอง..

Pกราบคารวะขอรับอาจารย์..

แต่คนส่วนมากไม่คิดอย่างนี้ในเวลาเขามีสุขนะขอรับ

สาธุขอรับ..

Pรับแล้วอย่าถือไว้นานๆนะขอรับอาจารย์..

นมัสการ ครับ

กำ = กรรม ?? ห้า ๆๆ

คนเราเวลากำถ่านร้อน ๆ มันดันรู้ว่าร้อนโดยอัตโนมัติ แล้วขว้างทิ้งโดยเร็ว

แต่กำบางอย่างรู้ทั้งรู้ว่าร้อน แต่กลับยิ่งกำแน่น สุดท้ายเลยยิ่ง กรรม

หรือที่ร้ายหนัก บางคนไม่รู้ว่าร้อน กลับยิ่งกำแน่นกว่า กรรม ก็เลยแน่นขึ้น

ธรรมชาติบางทีก็ตลก ไม่ยอมให้เรารับรู้กรรมบางอย่างโดยอัตโนมัติ

แล้วโยนทิ้ง โดยเร็วเหมือนถ่าน

ธรรมฐิตก็ว่าอย่างนั้นแหละเจษ..

ธรรมชาตินะไม่ตลกหรอกแต่ใจเรานี้แหละดันไปเล่นตลกกะมัน

ว่าไหมว่าที๋.DR.

- สิ่งที่อยู่ได้บนโลกนี้ได้ไปโดยไม่ดับสลายก็คือ ความดีของแต่ละคน

- เราควรทำดีในทุก ๆ วัน ให้เสมือนกับว่าวันนี้จะเป็นสุดท้ายของชีวิตเราคะ

นมัสการค่ะ

มาน้อมรับธรรมะค่ะ

สาธุ

Pถูกต้องแล้วขอรับคุณครู..

Pหายหน้าไปนานเลยนะขอรับ..

ขออนุโมทนาขอรับ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท