ยินสำเนียง ยลภาพจังหวะชีวิตชนบทหงสา


เมืองหงสา เป็นอำเภอหนึ่ง ของแขวงไชยบุรี สปป ลาว อยู่ห่างจากชายแดนจังหวัดน่านสามสิบห้ากม.

วันอาทิตย์ของผมที่เมืองหงสาถือเป็นวันว่าง ไม่ต้องไปนั่งทำงานที่สำนักงาน ส่วนวันอื่นๆอีกหกวันเป็นวันทำการผมมีภารกิจตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าไปจนถึงห้าหกโมงเย็น ทุกวันอาทิตย์ผมจะตื่นเช้ากว่าปกติไปเดินหาซื้อขนม(ข้าวต้มหัวหงอก ขนมปาด) และผลไม้(กล้วยน้ำว้าหรือกล้วยง้าวยืนพื้น)ที่ตลาด ซื้อผักแว่น ผักเสี้ยวกับถั่วเน่าแคปมาแวะให้แม่ครัวที่ร้านเจ้าประจำทำเมนูพิเศษให้ กลับมาบ้านพักซักถุงเท้ารองเท้า แล้วนั่งๆนอนๆกินขนม เปิดคอมฯหาบทความต่างๆที่บันทึกจากโลกไซเบอร์ มาอ่านแบบเคี้ยวเอื้อง ครั้นใกล้เพลก็หิ้วท้องออกไปกินแกงใบผักแว่นที่ซื้อมาฝากร้านไว้เมื่อเช้า กลับมาต้มกาแฟสดกลิ่นหอมฟุ้งสำหรับรอบบ่าย จิบกาแฟอ่านหนังสือ แล้วก็ถึงกิจกรรมการเดินชมทุ่งอ้อมเมืองหงสาที่ผมรอคอยมาตลอดสัปดาห์

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมเลือกเส้นทางบ้านโพนสะอาด-ศรีบุญเรือง-ดอนชัย-กกกอก-บ้านแท่นคำ แล้วย้อนกลับมาทางเดิม ระยะทางประมาณแปดกิโลเมตร ตั้งชื่อเล่นๆว่าเส้นทางพิชิต(ใจสาว)บ้านแท่นฯ ราวสี่บ่ายโมง ผมก็หยิบย่ามคู่กายที่บรรจุกล้องถ่ายรูป กับผ้าพลาสติกกันฝน พร้อมออกเดินครับ

การเดินเล่นวันอาทิตย์ นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว สำหรับผมยังเป็นการผ่อนคลายหรือออกกำลัง ใจ ไปด้วย แต่ผมยังมีเป้าหมายพิเศษในการไปดูท้องไร่ท้องนา ดูแปลงปลูกข้าวกล้ากีบเดียว เผื่อจะประเทืองปัญญา ให้สามารถหาทางออก สำหรับภาระหนักอึ้งที่ผมต้องแบกรับไว้จนบ่าไหล่แทบลู่ แต่ก็เถอะทุกเรื่องราวต้องมีหนทาง   

ท้องทุ่งนาสองข้างทางเขียวสดใส ยอดข้าวพริ้วเริงระบำ ฝูงแมลงปอกางปีกเริงล้อลม พี่น้องชาวหงสาก้มๆเงยถอนหญ้าในนา เด็กน้อยส่งสำเนียงท้องถิ่นเจี๊ยวจ๊าวเล่นกันอย่างร่าเริงที่เถียงนา ตานั่งสานตุ้มสานไซมีหลานชายนั่งเรียนอยู่ข้างๆ เป็นภาพและเสียงที่ทำให้ผมลืมความร้อนของแสงแดดยามบ่ายไปได้อย่างไม่รู้ตัว ตามรายทางผมเห็นระบบเหมืองฝายที่เป็นภูมิปัญญาของคนท้องถิ่น เป็นระบบที่ดูแล้วมีประสิทธิผลสูงมาก การแบ่งปันน้ำแสดงให้เห็นถึงความเอื้อเฟื้อกันในหมู่เพื่อนบ้าน

ผมถึงบ้านแท่นเอาเกือบหกโมงเย็น พี่น้องบ้านแท่นกำลังจูงวัวควายกลับจากนา เด็กน้อยวิ่งตียางรถถีบเก่าเล่นบนทางเดิน แมวดำนอนขี้เซาที่ขั้นบันได ดอกชบาสีขาวสดบานอยู่ที่รั้วบ้าน เป็นภาพที่ผมบันทึกอย่างรวดเร็วก่อนหันหลังเดินกลับคืนสู่หงสา ก่อนกลับมีตำรวจบ้านท้าวหนึ่งมาทักว่า อ้ายมาอย่างใดข้อยบ่เห็นรถยนต์ ตอบเขาไปว่า ข้อยย่างหัดกายมา ผมเดินออกกำลังกายมา ผมเดินออกจากบ้านแท่นมากับกลุ่มเด็กชายรุ่นๆสามสี่คน แต่ละคนหาบเอาพวงตุ้มเอี่ยนออกมาดักปลาไหลคนละยี่สิบกว่าอัน มีโอกาสขอลองวางตุ้มอันหนึ่งเด็กๆช่วยกันสอนวิธีเลือกบ่อน วิธีเตรียมบ่อน เขามีวิธีการของเขาที่ผมไม่เคยรู้ ไม่รู้ว่าตุ้มอันนั้นจะได้ปลาไหลรึปล่าว พวกเขาบอกว่า มื้ออื่นเช้ามืดจั่งสิมากู้

เด็กๆเดินแยกเข้าไปวางตุ้มในเหมืองไส้ไก่ที่ลึกเข้าไปในทุ่ง ผมเลยโบกมือลา จ้ำเดินกลับตามทางเดิน สายลมยามเย็นพัดเย็นฉ่ำ ท้องฟ้าเริ่มโปรยสายฝน ผมรีบคลี่ผ้ายางออกคลุมตัว เสียงนกกระปูดร้องอืดๆ เสียงเขียดดังออดๆแอดๆ ยามโพล้เพล้กลางท้องทุ่งอยู่คนเดียวอย่างนี้ให้ความรู้สึกพิเศษที่ยากจะสัมผัสได้จากที่ใด

ทุ่มเศษๆผมเดินกลับมาถึงท้ายบ้านดอนชัย เดินไล่หลังแม่บ้านกับลูกสาวตัวน้อยที่หิ้วตะข้องใบโต นางน้อยบอกว่าเอาใส่แม่ไก่กับลูกเจี๊ยบไปเลี้ยงที่นาตอนเย็นก็พากลับบ้านด้วย แม่ลูกแวะอาบน้ำที่ท่าน้ำแก่นก่อนเข้าหมู่บ้าน ส่วนผมได้แต่(ใช้สายตา)บันทึกภาพสาวน้อยสาวใหญ่ที่กระโจมอกอาบน้ำกันอยู่ห้าหกคนก่อนเดินเข้าบ้านดอนชัย เดินตามทางเดินในหมู่บ้านยามเย็นเช่นนี้ ได้ยินเสียงได้สูดกลิ่น ได้เห็นภาพวิถีชนบทที่น่าประทับใจเหมือนกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อสี่สิบห้าปีก่อนโน้น เสียงกระดึงวัวควายพร้อมกลิ่นสาบจากคอก กลิ่นควันไฟที่ลอยอ้อยอิ่งจากกองหญ้าข้างคอกควาย เสียงแม่บ้านตะโกนเรียกให้ลูกน้อยหยุดเล่นซนที่ลานดินให้รีบไปอาบน้ำ เสียงตะโกนข้ามรั้วทักทายกัน เสียงตำน้ำพริก กลิ่นคั่วแกงจากเตาไฟ เสียงเพลงภาษาถิ่นจากวิทยุ ล้วนเป็นที่ผมคุ้นเคย แต่นานมาแล้ว

เดินผ่านวัดบ้านดอนชัย วัดเล็กๆที่แทรกตัวกลมกลืนกับบ้านของชาวบ้าน ผมต้องผ่อนฝีเท้าลงเมื่อได้ยินเสียงเณรน้อยหัดท่องบทสวดอยู่หน้าสิม สำเนียงเสียงสวดมนตร์ของเมืองหงสากับของชาวยวนเชียงใหม่บ้านผม ช่างใกล้เคียงกันเหลือเกิน

เป็นวันอาทิตย์ที่มีความสุขของผมอีกวันหนึ่ง ที่เมืองหงสา แขวงไชยะบุรี สปป ลาวครับ

 

หมายเลขบันทึก: 282144เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2009 15:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2012 20:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มาจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ถ้ามีภาพบรรยากาศการเดินทางมาฝากด้วยจะดีมาก ^__^

อ่านสำเนียง"อ้าย"สดใส

ดีใจ๋"อ้าย"มีสุข

ธรรมชาติหื้อ"อ้าย"หมดทุกข์

สนุกกับจีวิตเน้อ"อ้าย"

       กึ๊ดเติงหาครับ

                  รพี

อิอิ ไหนภาพค่ะ

แป่วววววววววววววววววววววววววววว

แต่บรรยายก็เห็นภาพค่ะ

สวัสดีครับท่านแวะมาสวัสดีไว้ก่อน แล้วจะย้อนไปซึมซับครับท่าน สบายดีครับท่าน

สวัสดีครับ ลุงเปลียน

ดีใจๆ ที่เห็นบันทึกของลุงหายเงียบไปนาน

ลุงสบายดีไหมครับ คิดถึงๆ

สวัสดีครับท่านเปลี่ยน ย้อนมาอ่านตอนดึกได้นึกตาม วิถีคนเมืองลาวก็เหมือนคล้ายชิวิตชนบทบ้านเราเมื่อ ห้าสิบปีก่อน วิถีชุมชนของคนไทยเปลี่ยนไปเมื่อเสาไฟฟ้าต้นแรกปักลงในหมู่บ้าน ตำนานโจเฝ้าสวนจากไปตอนไหนไม่ทันรู้

http://gotoknow.org/blog/bangheem/215092

สวัสดีครับคุณเป-ลี่-ยน

                 สบายดี...สุขภาพแข็งแรง เหมือนเดิมนะครับ...ไม่ได้คุยกันนานมากแล้ว...ภาพบรรยากาศสะท้อนสภาพความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายคงเดิม

                                                     โชคดีครับ

สวัสดีครับ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทาย แม้ว่าจะหายจากบล๊อคไปนาน

สวัสดีครับ 1. ครูต่างถิ่น บันทึกนี้ตั้งใจจะไม่ใส่รูปครับจะทดสอบวิชาพรรณาโวหารของตัวเอง ขอบคุณครับ

หวัดดี Mc 2. รพี กวีข้างถนน ฝากความระลึกถึงทางบ้านทุกๆคน

สวัสดีครับ 3. สุดสายป่าน อ่านบันทึกแล้วจินตนาการภาพเอาเองจะสวยงามกว่าครับ ฝีมือถ่ายภาพผมขาดๆเกินๆเลยไม่กล้านำมาลงครับ ขอบคุณครับ

สวัสดี หลานโย่ ว่างเมื่อไหร่มาเที่ยวหาลุงที่หงสาได้นะครับ

สวัสดีครับ ท่านวอญ่า ยังคิดถึงกันอยู่เสมอนะครับ คงได้ไปเยือนถิ่นทะเลน้อยสักวันครับ

สวัสดีครับพี่ใหญ่ ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับผม ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

  • ป้าคิมชอบอ่านบันทึกแบบนี้มาก ๆ เพราะเหมือนกับได้ไปด้วยตัวเอง
  • มีความรู้เชิงสารคดีอีกด้วย
  • มีเพื่อน..เขาบอกว่าเกิดที่หมู่บ้านดงเดือง ใกล้ ๆ หลวงพระบาง  แต่พ่อแม่ตายหมดตอนสงคราม
  • เขาถูกทหารอเมริกันนำขึ้นเครื่องมาไว้ที่หนองคาย  ปัจจุบันเขาไปติดตามหาบ้านดงเดืองแต่ไม่พบไม่เจอใครเลย
  • น่าเศร้านะคะ  ฝากน้าเปลี่ยนออกตามด้วยคนค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้นะคะ  สู้ ๆ ๆ ๆ ๆ

สวัสดีครับ เห็นหน้าคุ้นๆ แวะมาเยี่ยมดูว่าใช่ไหม  อิอิ

กำลังว่าจะไปเที่ยวด้วย คนหวานๆ  อิอิ

  • สวัสดีครับอ้ายเป-ลี่-ยน
  • อ่านแล้วเห็นภาพ...
  • คงเหมือนเมื่อตอนเรายังอายุไม่มาก(เป็นละอ่อน)
  • อีกไม่นานก็คงถูกกลืนด้วยวัฒนธรรมอื่นที่เรียกว่า"สากล"
  • เสียดาย...
  • ขอบคุณสำหรับบทความที่มีคุณค่า
  • ..จะรอดูรูปปกอบครับ

สวัสดีครับครูคิม ดีใจที่ชอบบันทึกนี้ครับ เอาไว้มีโอกาสจะไปตามหาบ้านดงเดืองแถวหลวงพระบางดูครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีครับเจ้าพ่อเจียงแสน โครงการเยือนหงสาคงไม่แท้งนะครับ แต่หากใครไม่มาผมชวนเฮียล่องเรือมาจากห้วยทรายดีกว่า

สวีสดีพ่อน้องไผ่ อยากให้มาชมภาพเองครับ ถ้าว่างนะ เห็นชาวเฮฯท่านว่ากันอย่างนั้นครับ ฝากชวนหนุ่มร้อยเกาะเขยเมืองน่านตวยครับ

ครับ...
บันทึกของพี่ บอกย้ำผมเสมอว่า...
ไม่มีพื้นที่ใดในโลกปราศจากเรื่องเล่า..
และทุกพื้นที่ ก็เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ด้วยกันทั้งนั้น

....

เป็นกำลังใจให้ นะครับ

หวัดดีค่ะ

เผอิญได้เข้ามาอ่านบทความ จะรบกวนถามว่าตอนนี้ เมืองหงสากันดารมากมั้ยค่ะ มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้มั้ย

ถนนยังเป็นลูกรังมั้ย มีร้านค้าหรือเป่า รบกวนรอบได้มั้ย พอดีจะไปทำงานที่โรงไฟฟ้าหงสาค่ะ ตอบมาทาง[email protected]นะค่ะ ถ้ามีรึปส่งมาจะดีมากเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท