เพื่อนส่งเมล์มาให้อ่านลองอ่านกันดู
เมื่อเราโกรธ เราจะขาดสติยั้งคิดและเมื่อทุกอย่างสงบลง เรามักเสียใจกับสิ่งที่เราได้กระทำลงไป ในช่วงเวลาที่โกรธนั้นเสมอ ชีวิตของเราผ่านวันคืนมาเนิ่นนาน ผ่านอารมณ์โกรธครั้งแล้วครั้งเล่า บทเรียนเก่าๆวนเวียนมาเหมือนไม่รู้จบ เราเคยคิดบ้างไหมที่จะปรับปรุงตนเองให้มีจิตใจที่เยื่อกเย็นกว่านี้เสียที
เราแต่งงานกัน หลังจากที่รู้จักคบหากันมานานหลายปีเราแต่งงานกันเพราะคิดว่าเราเหมาะสมกัน และเข้าใจกันดี หลังจากแต่งงานเราเริ่มเห็นข้อเสียของกันและกันแม้กระทั่งข้อดีที่เคยเห็น ก็เริ่มจากหายไป เราทะเลาะกันเราขัดแย้งกัน กล่าวหาว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม แท้จริงแล้วไม่มีใครเปลี่ยนแปลง หากแต่ต่างฝ่ายต่างคืนกลับสู่สภาพเดิมต่างหาก สิ่งไม่ดีที่เคยปกปิดก็ได้เห็น สิ่งที่เคยฉาบไว้ให้ดีดีเด่นก็หลุดลอก ต่างฝ่ายต่างหลอกลวงกันและกันมาโดยตลอดและที่สำคัญคือ หลอกตัวเอง
เธอไม่กล้าไปไหนคนเดียวเพราะกลัวหลงทาง ฉันชอบไปไหนมาไหนเสมอทั้งที่ บางทีก็ไม่รู้ทาง ซึ่งบางครั้งฉันหลงทางจริงๆ แต่ฉันก็รู้จักถาม ฉันมีปาก ฉันมีขา ฉันมีกำลัง ฉันจึงไปได้ทุกแห่งหน เธอเคยเห็นคนตาบอดไหมเขาเร่ร่อนไปได้ทุกแห่งทั้งที่ตามองไม่เห็น ทำไมเขาไม่หลงทาง
เธอเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัย เธอพกพาอุดมการณ์ออกมาทำงาน เธอพกพาวิทยาการออกมาประกอบอาชีพ เธอมั่นใจว่าเธอคือ ผู้รู้ เพราะเธอคือบัณฑิตผู้ถือใบปริญญา เมื่อเธอได้ทำงาน อุดมการณ์ของเธอถูกเมิน วิทยาการแทบไม่ได้นำออกมาใช้ ไม่มีใครยอมรับเธอ ความคิดที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งให้เป็นไปดังใจเธอไม่ประสบผลสำเร็จ เธอโกรธแค้น ท้อแท้ เหนื่อยหน่าย และชิงชังผู้ที่อยู่ต่างแนวทางกับเธอ เธอไม่รู้หรอก ความรู้ที่เธอได้เรียนรู้มานั้นเป็นเพียงแค่บทเบื้องต้นเท่านั้น เธอยังจะต้องเรียนรู้อีกมากมาย เพราะที่นี่คือ มหาวิทยาลัยชีวิต ไม่มีตำรา ไม่มีอาจารย์ ไม่มีหลักเกณฑ์การให้คะแนนบัณฑิตผู้ถือใบปริญญาอย่างเธอ จึงไม่ต่างไปกว่าเด็กน้อยที่เริ่มหัดเดินเท่านั้นเอง
มีคนอยู่สองคน มีฐานะยากจน ครอบครัวขาดความอบอุ่นคนหนึ่งใช้ชีวิตเกเรมั่วสุมอบายมุข เขาบอกว่าเพราะพ่อแม่ไม่สนใจ เขาจึงเหมือนเรือที่ไร้หางเสือมองไปทางไหนก็มืดมน เขาจึงเป็นเขาอย่างทุกวันนี้และท้อแท้เต็มทีแล้ว อีกคนหนึ่ง มุมานะตั้งอกตั้งใจร่ำเรียนพยายามหารายได้เล็กๆน้อยๆช่วยตัวเอง เขาบอกว่าพ่อแม่ของเขาไม่ใส่ใจไยดี ครอบครัวมีแต่หนทางที่ตกต่ำ เขาไม่อยากย่ำอยู่กับที่ที่เป็นอยู่ จึงต้องพยายามผลักดันชีวิต ให้ก้าวไปข้างหน้า สู่วันที่ดีกว่าที่วาดหวังไว้ คนสองคน มีเหตุและผลที่จะเดินกันไปคนละทาง
ฉันเคยสูบบุหรี่เมื่อฉันมีคนรัก เขาขอร้องให้ฉันเลิกสูบ และฉันก็ทำตามนั้น ซึ่งไม่ใช่เพราะกลัวว่าเขาจะไม่รักฉัน ถ้าไม่ทำตามคำขอร้อง เพียงแต่ฉันเห็นว่า ในคำขอร้องนั้นมีทั้งเหตุและผลและเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความห่วงใยที่จริงใจจากเขา ฉันสามารถจำนนและยินยอมต่อทุกสิ่งที่คนรักของฉันเสนอมา ถ้าในสิ่งนั้นมีทั้งเหตุและผลและความปรารถนาดี ที่ไม่ทำร้ายฉันทั้งทางกายและจิตใจ ฉันไม่คิดว่ากำลังถูกจำกัดอิสรภาพหรือสิทธิ์ส่วนตัว ในทุกครั้งที่มีคนหยิบยื่นความปรารถนาดีมาให้ แต่ฉันคิดว่าพวกเขากำลังเปิดประตูบานใหม่ให้ฉันได้ทดลองก้าวออกไป ซึ่งฉันก็พร้อมจะรับพิจารณาด้วยตัวของฉันเองเสมอด้วยความขอบคุณ
ในทุกสนามแข่งขันผู้ที่ มีกำลังเหนือกว่าทั้งในด้านกำลังสมอง กำลังกาย กำลังทรัพย์ และกำลังใจ ย่อมเป็นผู้ที่ได้เปรียบและมักจะได้รับชัยชนะในที่สุด แต่ก็ไม่เสมอไปถ้าผู้ที่มีกำลังเหนือกว่านั้น ประเมินคุณค่าของคู่ต่อสู้ต่ำกว่าความเป็นจริงและตกอยู่ในความประมาท
บางครั้งการไม่กล้าเอ่ยคำปฏิเสธว่า “ไม่” ได้ทำให้คนบางคนตกอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ คนที่ไม่รู้จักการปฏิเสธบ่อยครั้งมักต้องเสียใจภายหลัง บ่อยครั้งที่ต้องทนอึดอัดจำยอม บ่อยครั้งที่ต้องสูญเสียอะไรไปง่ายๆ คำว่า ”ไม่” สั้นๆ แต่สำหรับบางคนหากจะให้เอ่ยคำคำนี้ออกมานับว่ายากยิ่งกว่าทลายภูเขา ทั้งที่สิ่งที่ขวางกั้นอยู่นั้นติดอยู่แค่คำว่า “เกรงใจ” เท่านั้นเอง
คุณละเกรงใจถูกที่ถูกทางแล้วหรือยัง.....
ขออนุญาตฝากเพลงค่ะ
อยากลืมกลับจำ The Hot Pepper Singers
http://www.ijigg.com/songs/V2BGD4FPB0
Unforgettable Memories สุรพล โทณะวณิก Jazz
http://www.ijigg.com/songs/V2CBAE0P0
สุข...ทุกข์... ก็เหมือนเราจูนคลื่นชีวิตของตัวเราเข้าไปหาสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข เน่าจะคล้ายๆ เราจูนหาคลื่นวิทยุเพื่อฟังเพลงที่เราถูกใจอยากจะฟังค่ะ http://gotoknow.org/blog/wasawatdeemarn/263048 อย่าไปคิดแทนใคร เพราะใจใครก็ย่อมไม่เหมือนกัน แม้กระทั่ง การฟังเพลง ... (ขออนุญาตค่ะ คุณธรรมฐิต และ พี่อาจารย์ wasawat...)
ขอบคุณค่ะ...
ในน้ำขุ่นย่อมมีน้ำใสเสมอ
ในทุกข์ก็ย่อมมีสุขขอรับ
สาธุ