สาวสิงห์บุรี
นาง กุลภัสสรณ์ เจี๊ยบ พิทักษ์ศักดาชัย

หลักการในการคัดเลือกพนักงานใหม่ ที่คนทำ HR ควรรู้


หลักการในการคัดเลือกพนักงานใหม่ ที่คนทำ HR ควรรู้

หลักการในการคัดเลือกพนักงานใหม่ ที่คนทำ HR ควรรู้

หลักการในการคัดเลือกพนักงานใหม่ ที่คนทำ HR ควรรู้

 

ระบบการคัดเลือกผู้สมัครแบบใหม่นี้จะมุ่งเน้นการพยากรณ์ลักษณะนิสัยใจคอของเราจากพฤติกรรมในอดีตหรือพฤติกรรม ในปัจจุบันเราไม่สามารถเสแสร้งหรือแกล้งหลอกผู้ทำหน้าที่คัดเลือกได้ง่ายเหมือนในอดีต และเครื่องมือการคัดเลือกในปัจจุบันได้ถูกออกแบบมาเพื่อจับผิดผู้สมัครได้อย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าระบบการคัดเลือกสมัยใหม่เขาทำกันอย่างไร จึงขอยกตัวอย่างวิธีการคัดเลือกดังนี้

  • การสังเกตพฤติกรรม (Behavior Observation)
    ของผู้สมัครตั้งแต่เริ่มเข้ามาในองค์กร โดยจะมีผู้สังเกตพฤติกรรมของผู้สมัครตั้งแต่การสอบถามรปภ. หรือพนักงานต้อนรับ การวางตัวในขณะนั่งรอการเดินสำรวจสถานที่การพูดคุยกับผู้คนรอบข้าง ซึ่งบางครั้งอาจจะมีหน้าม้าแกล้งมานั่งใกล้ๆกับผู้สมัครเพื่อจะดูว่าผู้สมัครมีมนุษยสัมพันธ์เป็นอย่างไร นอกจากนี้อาจจะมีการสังเกตดูพฤติกรรมการรับประทานอาหารร่วมกันกับผู้สมัครรายอื่น สรุปว่าการสังเกตพฤติกรรมนี้เราไม่สามารถเสแสร้งได้นานและนิสัยที่แท้จริงของเราจะปรากฎให้เห็น ได้ไม่ยากไม่เหมือนอยู่ในห้องสัมภาษณ์ที่เราเตรียมตัวมาอย่างดี
  • การแสดงบทบาทสมมติ (Role Play)
    ผู้สมัครจะได้รับมอบหมายให้แสดงบทบาทสมมติตามหัวข้อที่กำหนด บางตำแหน่งอาจจะต้องแสดงบทบาทสมมติ ในการเจรจาต่อรองซึ่งองค์กรได้เตรียมคู่เจรจาไว้ให้เราเรียบร้อยพร้อมกับโจทย์ที่เขาต้องการบางตำแหน่งอาจจะให้เราแสดงบทบาทสมมติด้านการนำเสนอ เขาอาจจะให้เวลาเราเพียง 10 นาทีพร้อมอุปกรณ การนำเสนอ เช่น กระดาษ ปากกา แผ่นใส หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วให้เรานำเสนอตามโจทย์ที่กำหนดให้ภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที สิ่งที่เขาจะประเมินเราได้คือ การจัดเตรียมเอกสารว่าช้าเร็วเหมาะสมกับเรื่องหรือไม่ ทักษะการนำเสนอการสื่อสาร รวมถึงบุคลิกภาพในการนำเสนอ ถ้าเราไม่มีความสามารถในด้านนี้ จริงๆต่อให้เราเตรียมตัวดีอย่างไร เขาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเราไม่มีความสามารถ
  • บทบาททางสังคม (Social Role)
    บางองค์กรจะประเมินผู้สมัครโดยใช้กิจกรรมทางสังคมเข้ามาช่วย เช่น นำผู้สมัครไปเข้าแคมป์เพื่อประเมินความสามารถที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกำหนดบทบาทของตัวเองต่อสังคม การวางตัวในสังคม ภาวะผู้นำ ความมีน้ำใจ ทัศนคติในการทำงานเป็นทีม รวมถึงบางครั้งอาจจะมีการทดสอบความอดทนไปในตัวด้วยก็ได้ และ ผู้สมัครจะถูกติดตามประเมินตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่อยู่ในกลุ่มเวลาที่อยู่ในที่พักหรือแม้กระทั่งเวลารับประทานอาหาร ถ้าเป็นตำแหน่งผู้บริหารเราอาจจะถูกเชิญไปทั้งครอบครัวเพื่อดูลึกไปถึงพฤติกรรมและความสัมพันธ์ของครอบครัวด้วยก็ได้ เพราะสามารถดูได้ว่าสมาชิกในครอบครัวคนใดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้สมัคร รวมถึงดูพฤติกรรมของผู้สมัครคนนั้นๆจากความประพฤติของคนในครอบครัวก็ได้ บางองค์กรอาจจะเปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้ทดลองทำงานจริงในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อดูว่าเขามีความเหมาะสมกับสังคมการทำงานขององค์กรมากน้อยเพียงใด โดยเข้าไปคลุกคลีและทำงานกับกลุ่มที่จะต้องทำงานด้วยจริงๆ และ คะแนนส่วนหนึ่งจะมาจากเพื่อนร่วมงานที่ผู้สมัครได้เข้าไปทำงานด้วย
  • การสัมภาษณ์เชิงลึก (Depth Interview)
    การสัมภาษณ์แบบนี้มุ่งเน้นการเจาะลึกถึงพฤติกรรมในอดีตที่เคยเกิดขึ้น เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราตอบว่า "ใช่" "มี" หรือ"เป็น" นั้นจริงหรือไม่ เช่น เราบอกว่าเราเป็นคนที่มีความอดทนเขาจะถามเราต่อว่าคุณอดทนอย่างไร และขอให้เราเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ที่เราเคยเจอมาหนักที่สุดในอดีตคืออะไร ซึ่งคนส่วนมากมักจะเล่าในเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้วเท่านั้น ถ้าใครกุเรื่องขึ้นมามันจะไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำและมีโอกาสถูกจับผิดได้ง่าย สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์มักจะบันทึกการสัมภาษณ์แบบนี้ เขาจะเรียกว่าการบันทึก STAR
    • Situation หมายถึง เหตุการณ์อะไร เมื่อไหร่
    • Task หมายถึง งานอะไร
    • Action หมายถึง การกระทำของเราที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
    • Results หมายถึง ผลที่เกิดจากการกระทำของเราในเหตุการณ์นั้นๆ

เมื่อคณะกรรมการสัมภาษณ์บันทึกผลของคำถามทั้งหมดไว้แล้ว ก็สามารถนำเอาผลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับผู้สมัครรายอื่นๆ ได้ไม่ยากนัก เช่น จะดูว่าใครมีความอดทนมากกว่าใครก็ดูว่าเหตุการณ์ของใครมีความรุนแรงหรือหนักกว่ากัน บางคนอาจจะผ่านการฝึกความอดทนมาเพียงเรื่องเล็กๆแต่บางคนอาจจะผ่านเหตุการณ์ที่ต้องใช้ความอดทนสูงมากรูปแบบการคัดเลือกบุคคลแนวใหม่นี้ เริ่มได้รับการแพร่หลายในประเทศไทยเพราะส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลมาจากบริษัทข้ามชาติ ส่วนหนึ่งเป็นการตื่นตัวขององค์กรในประเทศไทยเองที่มักจะประสบปัญหาเรื่องคนอันมีผลสืบเนื่องมาจากระบบการคัดเลือกที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้ที่กำลังหางานหรือผู้ที่กำลังจะเปลี่ยนงาน จึงควรมีการเตรียมตัวระยะยาวมากกว่าการเตรียมตัวเพื่อการสัมภาษณ์เป็นครั้งๆไป

 

 

 
ที่มา : http://th.jobsdb.com/TH/
คำสำคัญ (Tags): #jeab
หมายเลขบันทึก: 272708เขียนเมื่อ 2 กรกฎาคม 2009 08:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 13:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เราต้องหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกใครสักคนที่จะมาร่วมงานกับเรา ใช่เลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท