"ไมตรีจิต"

เดือนพฤษภาคมของทุกปีมีความสำคัญกับชีวิตของอุ่นเอื้อมากคะ เพราะในวันที่ 13 พฤษภาคม 2508 เป็นวันที่ผู้หญิงและผู้ชาย 2 คนที่รักอุ่นเอื้อมากที่สุดตกลงใจกันเข้าสู่การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

 

ผู้หญิงมีชื่อเล่นว่าจิต ผู้ชายใช้ชื่อจริงว่าไมตรี ก็ได้กลายมาเป็นคุณแม่กับคุณพ่อของอุ่นเอื้อ เมื่อนำชื่อท่านทั้งสองมาเชื่อมเป็นคำ ได้เป็นคำที่ดีมีความหมาย "ไมตรีจิต" อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น คำนี้มีความหมายดีใช่มั้ยคะ

 

คุณพ่อกับคุณแม่ของอุ่นเอื้อได้ทำหน้าที่ของท่านได้ดีที่สุดสมกับชื่อของท่านที่มอบความรัก มอบไมตรีจิตแก่ลูกคนนี้มาตลอด 38 ปี หลายๆครั้งคุณพ่อจะทำให้อุ่นน้ำตาคลอโดยการที่ท่านมักจะพูดว่า "พ่อให้ลูกได้ทุกอย่าง ยกเว้นดาวกับเดือน ชีวิตของพ่อก็ให้ลูกได้ พ่อตายแทนลูกได้" หรือคำว่า "ถ้าลูกมีความสุข พ่อก็มีความสุข" ส่วนคุณแม่ก็เป็นผู้หญิงเหล็กขยันทำงานมากๆไม่มีวันหยุด ไม่มีวันลาพักผ่อน ลากิจเหมือนข้าราชการ คุณพ่อกับคุณแม่ช่วยกันทำงานทุกวัน ทำงานค้าขายกัน 2 คนตื่นตี 3 มาตลอดเวลา 35 ปี

 

ถึงแม้ว่า ณ ขณะนี้ท่านทั้งสองไม่ได้ค้าขายแล้ว ท่านเพิ่งเลิกกิจการไปเมื่อต้นปี 2543 ท่านทั้งสองก็ยังขยันทำงานบ้าน ช่วยเลี้ยงหลานสาว 2 คนซึ่งเป็นลูกของน้องสาวของอุ่นเอื้อ ท่านยังบอกว่าไม่ต้องจ้างคนทำงานช่วยท่าน เพื่อจะได้ประหยัดเงินให้น้องสาวของอุ่นเอื้อ อุ่นเอื้อและน้องสาวโชคดีมากๆๆคะที่เกิดเป็นลูกสาวของคุณพ่อคุณแม่ "ไมตรีจิต" ผู้ที่มีแต่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูกเสมอมา ลูกขอกราบแทบเท้าคุณพ่อคุณแม่ ด้วยรักจากใจลูกคะ

[วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--]

สวัสดีครับหมอ มาทอดไมตรี มีมิตรไมตรีกับหมอครับ

[ภญ.ดร. อารยา ศรีไพโรจน์]

สวัสดีค่ะคุณวอญ่า ขอบพระคุณสำหรับมิตรไมตรีที่มอบให้ค่ะ หนูเป็นหมอยาค่ะ

[อยากรู้]

แล้วคุณพ่อทราบหรือยังว่า คุณลูกมีความสุข แนวไหน วิธีใด

ไมตรีจิตแสนอบอุ่น

ประทับใจคุณอุ่นเอื้อ

ท่านทำให้เราเชื่อ

ท่านทำเพื่อลูกที่รัก

บุญคุณท่านไพศาล

ผ่านเนิ่นนานได้ประจักษ์

ลูกน้อยที่ฟูมฟัก

เป็นที่รักของผองชน.....

มีร้อยล้านสามารถซื้อนาฬิกา สวยโอ่อ่าเหนือใครหาใดเหมือน แต่ที่ซื้อไม่ได้อย่าลืมเลือน คือ เวลา ที่เลื่อนเคลื่อนผ่านไป มองออกไปไกลตัวทำไมเล่า มองเข้ามาที่ตัวเราดีกว่าไหม มองออกไปไกลตัวมองทำไม มองข้างในตัวตนค้นตัวเรา....