"ชดเชย" วิถีการดำเนินชีวิตเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้...


นอกจากจะทำให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยสานความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันให้มากขึ้นด้วยครับ...

             เหตุที่องค์ความรู้และแหล่งของการเข้าถึงข้อมูลความรู้มีมากมาย และด้วยขีดจำกัดของความแตกต่างระหว่างบุคคลไม่ว่าจะเป็น เพศ อาชีพและระดับการศึกษา ทำให้หลายครั้งที่การเข้าถึงแหล่งความรู้ หรือการเพิ่มการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นทำได้ยาก...

             "การชดเชย" ระหว่างกันและกันจึงเป็นอีกหนึ่ง "วิถี" การดำเนินชีวิตที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้ที่เกิดขึ้นได้ดีที่เดียวครับ...

            

                 ดังเช่นตัวอย่างนี้ครับผม...

             ภรรยา: ชอบที่จะมีความรู้ใหม่ ๆ เห็นหนังสือที่ออกใหม่หรือหนังสือขายดีตามร้านหนังสือไม่ได้ ต้องซื้อมา แต่ตัวเองอ่านหนังสือไม่ได้นาน อ่านได้หน้าสองหน้าก็หลับ เลยให้คุณสามีซึ่งเป็นคนที่อ่านหนังสือไวช่วยอ่านแล้วมาสรุปให้ตัวเองฟัง...

             สามี: ซึ่งไม่ชอบดูทีวีแต่ก็อยากอัปเดทอะไรใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ก็ขอให้คุณภรรยาช่วยอัปเดทเรื่องราวใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นให้ฟัง เนื่องจากคุณภรรยาชอบนั่งเฝ้าอยู่หน้าจอทีวีเป็นประจำอยู่แล้ว...

             ผมว่า...การเรียนรู้ที่จะใช้ความแตกต่างระหว่างกันให้เกิดประโยชน์ เพื่อช่วยเพิ่มการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นก็เป็นวิธีที่น่าสนใจนะครับ นอกจากจะทำให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยสานความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันให้เพิ่มมากขึ้นด้วยครับ...

 

หมายเลขบันทึก: 258342เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2009 11:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)

สวัสดีค่ะ

  • เปิดเครื่องเป็นรอบที่ ๒
  • อ่านบันทึกนี้..ได้การบ้านอีกแล้วนะคะ
  • คือว่า..พี่คิมเป็นคนติดกาแฟค่ะ เคยดื่มมากวันละ ๕- ๖ ครั้งค่ะ
  • จึง..เปิดร้านขายกาแฟ
  • ทำให้เพื่อนที่ไม่เคยดื่มกาแฟ..หันมาดื่มกาแฟ..เพราะทำอร่อยค่ะ (อยากคุย..อวดบ้างน่ะ)
  • นี่แหละนะคะ..เขาว่าโลกแห่งการเรียนรู้จุดประกายความคิดเสมอ
  • ขอขอบคุณค่ะ

ครับ...พี่คิม P

จะมีโอกาสทานกาแฟฝีมือพี่คิมบ้างมั้ยน้อ...

ไว้ผมจะรออ่านการบ้านพี่คิมนะครับ...

ขอบคุณมากครับผม...

 

เป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยค่ะ

เป็นการชดเชยที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน

อ่านบันทึกนี้แล้วต้องอมยิ้มอีกแล้ว เห็นภาพเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ครับ...น้องลูกปลา

"ชดเชย" เพื่อ "เติมเต็ม" อีกหนึ่งวิถีแห่งการลดความ "เหลื่อมล้ำ" ทางความรู้นะครับ...

ขอบคุณครับผม...

สวัสดีค่ะพี่

มุมมองของพี่เป็นบวกเสมอเลยค่ะ มาบอกว่าชอบค่ะ อ่านแล้วยิ้ม เชื่อว่าหลายท่านคงยิ้มเช่นกัน

ขอบคุณมุมมองชีวิตดีๆ ค่ะ

ครับ...น้องสี่ซี P

มองด้านดี ๆ ของสิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่เราได้พบเพื่อการสร้างสรรค์นะครับ...

ขอบคุณมากครับผม...

 

ครับ...น้องสี่ซี P

พี่ส่งเมล์ไปอีกรอบแล้วครับ...

สงสัยมีปัญหาที่ระบบเพราะเมื่อวานพี่ก็ส่งตอบไปแล้วครับ...

พี่ขออนุญาติลบคอมเมนต์นะครับ...

เพราะมันมีตัวหนังสือประหลาดเยอะ...

ขอบคุณครับผม...

สลามน้องดิเดก

"ชดเชย" วิถีการดำเนินชีวิตเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้...

เป็นเรื่องที่เราๆทำอยู่แต่ไม่รู้ว่านี้แหละมันคือการลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้

ร้านน้ำชาบ้านเรา น่าจะเรียกเวทีลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้ได้น่ะ

ขอบคุณค่ะพี่

สี่กำลังจะแจ้งพี่เหมือนกันค่ะว่าขอนุญาตลบ comment ที่สี่เขียนออกไป และเขียน comment เพื่อแจ้งใหม่อีกครั้งค่ะ

เป็นความผิดสี่เองค่ะ copy มาไม่ระวังจึงเป็นเช่นนี้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ครับ...บังหีม P

โรงน้ำชาบ้านเราถือเป็น World Cafe ได้นะครับ...

แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ฉบับชาวบ้านครับผม...

ขอบคุณมากครับ...

 

อีกครั้งครับ...น้องสี่ซี P

หากได้รับเมลล์แล้ว รบกวน reply บอกด้วยนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

ขอบคุณค่ะพี่ สี่ได้รับเรียบร้อยแล้วค่ะ และตอบกลับแล้วค่ะ ^__^

สวัสดีค่ะพี่ Mr.Direct

     อาร์มอ่านมุมมองของพี่แล้วดีมากเลยค่ะ

ช่วยกันแลกเปลี่ยนเพื่อเติมเต็ม รวมถึงทำให้ความสัมพันธ์

กระชับขึ้นอีกค่ะ

ขอบคุณค่ะ ^_^

วันนี้ผมนั่งรถไปประชุมที่ มสส. ได้ โน๊ตประเด็น "ความเหลื่อมล้ำ" ไว้เป็นหน้ากระดาษเลยทีเดียว..

ผมมองในหลายมิติ และ โยงใย ย้อนกลับมาที่ตนเอง

จะลองเขียนดู

รูปภาพประกอบคุ้นๆจังนะครับ

ครับ...น้องสี่ซี P

หากมีโอกาสคงได้เจอกันในงานนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

ครับ...น้องอาร์ม P

เป็นมุมมองง่าย ๆ ธรรมดา ๆ นะครับ...

บางครั้งปัญหาระดับชาติ แต่เรามองและพยายามช่วยกันแก้ไขในมุมเล็ก ๆ ของเราได้นะครับ...

ขอบคุณมากครับผม...

สวัสดีค่ะ

  • ก่อนไปออกกำลังกาย..ไปขี่เสือค่ะ
  • แวะ..มาหาเพื่อนคุยก่อน
  • เพื่อนพี่คิมเขาเรียนเอกภาษาไทย..แต่ขี้เกียจอ่านหนังสือ
  • เขาจะยืมหนังสือห้องสมุดมาให้พี่คิมอ่าน
  • แล้วเล่าให้ฟังค่ะ...ยังไม่พอช่วยวิจารณ์อีกต่างหาก
  • ขอบคุณค่ะ...ไปละ

ครับ...เพื่อนเอก P

จะรออ่านบันทึกความเหลื่อมล้ำแบบโยงใยหลายมิตินะครับ...

ภาพ World Cafe at Chatuchak Station Krab...

ขอบคุณครับผม...

ครับ...พี่คิม P

เป็นเพื่อนกันก็ต้องร่วมด้วยช่วยกันครับผม...

ออกกำลังกายให้สนุกนะครับ...

ขอบคุณมากครับ...

อ่านแล้วมีความสุขนะค่ะกับสามีภรรยาคู่นี้

ครับ...คุณศรีวิรัตน์

ยืมวิถีชีวิตของสามี ภรรยา คู่หนึ่งมาเป็นตัวอย่างของการชดเชยความเหลื่อมล้ำทางความรู้ครับผม...

ขอบคุณมากครับ...

ดีค่ะ เติมเต็มให้แก่กันและกัน เพื่อก้าวข้าวความเหลื่อมล้ำทางความรู้

พี่อีกคนค่ะที่ชอบข่าวเรื่องการเมืองแต่ขี้เกียจติดตามข่าว ก็ถามสามีที่บ้าน

ส่วนคนที่บ้านก็ชอบอธิบายให้จนเข้าใจ

ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้าไปเยี่ยม

ครับ...พี่อรวรรณ P

เริ่มต้นที่ตัวเรา ครอบครัว คนรอบข้าง และต่อ ๆ ไปจถึงสังคมที่ใหญ่ขึ้นนะครับ...

ดีจังครับถือว่าได้ประโยชน์ทั้งคนถามและคนอธิบายนะครับ...

ขอบคุณเช่นกันครับผม...

 

 

ชดเชยเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงาน ลดความเหลื่อมล้ำ อีกวิถีหนึ่งที่อธิบายให้พี่เข้าใจเพิ่มขึ้นสำหรับ Knowledge divide ค่ะ

ครับ...พี่ดาว P

ไว้จะรออ่านบันทึกที่พี่ดาวกำลังจะคลอดเกี่ยวกับ knowledge divide ครับผม...

ขอบคุณมากครับ...

สวัสดีคะคุณดิเรก

ช่วยกันอ่านช่วยกันติดตาม

ใช้คนในครอบครัวนี้แหละคะ ลดความเหลื้อมล้ำทางความรู้ (ไม่คุ้นคำนี้แปลยาก ต้องแปลไทยเป็นไทยแล้วมาแปลเป็นอีสานอีก)

เพิ่มเติมความรู้ให้กันและกัน พ่อพี่ประกายจะชอบอ่านหนังสือ ฟังข่าว อยากได้ความรู้ทางด้านการเมืองเพิ่มไปบอกพ่อ พ่อจะสรุปและวิเคราะห์ให้ฟัง จนเข้าใจ

ครับ...พี่ประกาย P

คนรุ่นพ่อแม่นี่เขามีประสบการณ์ มีความรู้ตกผลึกมากมายนะครับ...

พร้อมถ่ายทอดให้ลูก ๆ หลาน ๆ อยู่แล้ว...

ขอบคุณมากครับผม...

"องค์ความรู้และแหล่งของการเข้าถึงข้อมูลความรู้มีมากมาย และด้วยขีดจำกัดของความแตกต่างระหว่างบุคคลไม่ว่าจะเป็น เพศ อาชีพและระดับการศึกษา ทำให้หลายครั้งที่การเข้าถึงแหล่งความรู้ หรือการเพิ่มการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นทำได้ยาก"

เป็นข้อสรุปที่ที่ดีและตรงมากค่ะ

แต่ละคนมีปัญหาต่างกัน  ของคุณและครอบครัวถือว่าสมดุลนะคะ  ช่วยกันเรียนรู้ ดีจังค่ะ

ดิฉันมีปัญหาเรื่องการจัดการเวลา และ ความหลากหลายของความอยากรู้ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "จับจด"

ยกตัวอย่างมาแลกเปลี่ยน 

  • ทุกเช้าดิฉันใช้เวลา 10 นาทีนั่งหน้าคอม  เก็บข่าว บทความ ใน area ที่สนใจบันทึกไว้ในห้องสมุดส่วนตัวในเครื่อง โดยยังไม่ได้อ่าน "ละเอียด"  ผลคือ ไม่ค่อยได้เข้าไปอ่าน
  • เพราะไม่ค่อยว่างไปร้านหนังสือ ทำให้ซื้อหนังสือมาตุนไว้คราวละมากๆ  และ เปิดอ่านเล่มละนิดละหน่อย กองสุมไว้ในตู้ "รออ่าน" และมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เป็นตัวอย่างของความ "จับจด"  ที่แก้ไม่หาย

ครับ...คุณ nui P

ข้อจำกัดเรื่องเวลาก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งนะครับ...

ตุนความรู้และหนังสือที่เราสนใจไว้ก่อน เมื่อมีเวลาก็ทยอยอ่านและเรียนรู้ไปครับ...

ขอบคุณมากครับผม...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท