Princess Mononoke: Anime ในดวงใจตลอดกาล


ตั้งใจมานานหลายสัปดาห์แล้วว่าจะเขียนถึงเรื่อง Princess Mononoke ผลงาน Animation สุด Classic ของ Hayao Miyasaki ที่ออกฉายตั้งแต่ปี 1997 แล้วกลายเป็นตำนานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

โดยรวมแล้ว ผมเห็นว่าภาพยนต์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนิยาม "ความถูกต้อง" ผ่านพฤติกรรมของกลุ่มตัวละครสามสี่กลุ่ม

ตัวละครทุกกลุ่มดิ้นรนในทุกทางเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ของตัวเอง

กลุ่มของเลดี้อิโบชิ มีอาวุธชั้นเลิศ และครอบครองเทคโนโลยีการผลิตปืนไฟ กลุ่มนี้เป็นที่รวบตัวของคนชายขอบผู้ไม่มีที่ทางในสังคมอย่างกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อน กับหญิงงามเมืองผู้เดินออกจากซ่องมาสู่ชุมชนที่ไม่มีคนรังเกียจพวกเธอ เพื่อความอยู่รอดของคนชายขอบกลุ่มนี้ พวกเขายอมแตกหักกับสัตว์เทพเจ้าป่า เพื่อบุกแผ้วถางป่าไปครอบครองแหล่งทรัพยากรเหล็ก อันเป็นรากฐานการผลิดปืนไฟ โดยหวังว่าเมื่อกุมอำนาจการผลิตปืนไฟ ย่อมสามารถต่อรองแสวงหาที่ทางในสังคมให้กับกลุ่มคนชายขอบได้

เผ่าพันธุ์สัตว์เทพ ผู้ดูแคลนมนุษย์ เห็นว่ามนุษย์นั้นโลภโมโทสัน เห็นแก่ตัว และไม่รู้จักพอ เทพหมูป่ารวบรวมกำลังครั้งสุดท้ายเพื่อต่อกรกับมนุษย์ แม้จะเห็นอยู่ว่า หนทางที่จะชนะปืนไฟของอิโบชิจะริบหรี่ แต่ความดื้อรั้นและหยิ่งทนงของสัตว์เทพผู้สูงส่ง นั้นยอมตายดีกว่าจะยอมเห็นป่าแปดเปื้อนด้วยน้ำมือมนุษย์

กลุ่มรัฐบาลกลาง และแม่ทัพ รังเกียจคนชายขอบของเลดี้อิโบชิ แต่ก็ไม่มีอาวุธที่ทรงอานุภาพพอที่จะกำจัดกลุ่มของอิโบชิได้ ขณะเดียวกันก็อยากจะครอบครองทั้งเทคโนโลยีการผลิตปืนไฟ และแหล่งแร่เหล็ก

อะชิทากะ พระเอกของเรื่อง แม้ว่าแรกเริ่มนั้นก็แสวงหาความรอดของตนเองเพราะเขาต้องคำสาปจากพลังมืด แต่เมื่อได้มาเห็นสถานการณ์ความขัดแย้งเขาเกิดความสลดสังเวชใจ แทนที่จะดิ้นรนหาทางแก้คำสาป เขากลับทุ่มเทพลังทั้งหมดในการทำให้คู่กรณีหลายฝ่ายเห็นว่า สิ่งที่ควรจะกำจัด ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม หากแต่เป็นความโกรธ ความเกลียด หรือกิเลสในใจเรานั้นเอง

ส่วนตัวละครที่เป็นอิสระปราศจากภาวะบีบคั้นที่สุด คือวิญญาณป่า ซึ่งปรากฎกายในรูปกวางร้อยเขาในเวลากลางวัน และกลายร่างเป็นอสูรราตรี ในเวลากลางคืน นี่คือตัวแทนของธรรมชาติ ซึ่งครอบคลุมความปรากฎการณ์ทั้งหมด ปราศจากอคติ ปราศจากการตัดสินดี เลว หน้าที่ของมันมีอยู่อย่างเดียวคือเมื่อธรรมชาติเสียสมดุล มันจะปรับตัวให้เกิดสมดุลใหม่ การปรับตัวของมันนั้นส่งผลกระเทือนอย่างใหญ่หลวงต่อสิ่งมีชีวิตในอ้อมกอดของมันทั้งหมด

ความลึกซึ้งของหนังเรื่องนี้อยู่ที่มันสอนเราว่า ความดีความเลวนั้นยากจะนิยาม เห็นแก่ตัวนั้นเลวแน่ แต่การเบียดเบียนเผ่าพันธุ์อื่น เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ของตนเล่า เลวหรือดี การเบียดเบียนธรรมชาติเพื่อความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ เป็นเรื่องถูกต้องหรือ ยิ่งกว่านั้น มันบอกเราว่าธรรมชาติ ไม่สนดีเลว ไม่สนความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เมื่อถูกรบกวนถึงจุดที่เสียสมดุล...มันจะปรับเขาหาสมดุล

อยากเชิญชวนชาว gotoknow ดูหนังเรื่องนี้เหลือเกิน มีแง่มุมให้คิดให้คุยกันได้ไม่รู้จบครับ

มิยาซากิ ฮายาโอะ (แม้ว่าจะเป็นที่รู้จักจาก Anime รางวัลออสการ์ Spirited Away แต่ผมว่า Princess Mononoke คมคาย และอลังการกว่า) ผู้สร้างเรื่องนี้ สมควรได้รับการยกย่อง, Princess Mononoke สมควรได้รับการยกย่องว่าเป็นงานที่สอนธรรมะ โดยไม่ต้องเทศนา เพราะธรรมะคือธรรมชาติ คือกฎของธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราจะทำได้ก็คือ ทำลายความเห็นแก่ตัว เพื่อจะเข้าใจธรรมชาติอันยิ่งใหญ่นั้น

เรื่องนี้จึงกลายเป็น Anime ในดวงใจผมตลอดกาล ด้วยประการฉะนี้ครับ

 

หมายเลขบันทึก: 235036เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2009 19:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ไมัทชอบเรื่องนี้สุดๆ ด้วยเหตึผลเดียวกับพี่เลย

มัทดูแล้วสิ่งแรกที่ทำให้ติดใจมากคือ มันไม่้มีการแยกว่าพระเอกนั้นดีเลิศหรือนางร้ายนั้นเลวสุดขีด ไม่มีใครเลวทั้งหมด

มัทชอบเรื่องนี้กับ Totoro มากที่สุดในบรรดางานของ Gibli

อันดับ 3 ที่ประทับใจคือสะเทือนใจมากแต่ไม่ได้อยากดูซ้ำคือ grave of the fireflies (หนังบ้าอะไรเศร้าได้ขนาดนั้น)

ส่วนเรื่องล่าสุดของทีมเค้าคือ Ponyo ซึ่งมัทยังไม่ได้ดูเลย อยากดูมากเพราะมันเป็นปลา เหอะๆ เกี่ยวมั้ยเนี่ยะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท