รักอย่างไรให้สร้างสรรค์ (ตอนที่ 2)


“แท้จริง อัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งได้ตรัสว่า ผู้ใดเป็นศัตรูกับวะลีของข้า แน่นอนข้าได้ประกาศสงครามกับเขาแล้ว และบ่าวของข้าจะไม่เข้าใกล้ชิดข้าด้วยสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นที่รักแก่ข้า ยิ่งไปกว่าสิ่งใดที่ข้าได้ลงเป็นฟัรฎูแก่เขา และบ่าวของข้ายังคงเข้าใกล้ชิดข้าด้วยการปฏิบัติสิ่งที่เป็นนะวาฟิล จนข้ารักเขา เมื่อข้ารักเขาแล้ว ข้าก็เป็นหูของเขาที่เขาใช้ฟัง เป็นตาของเขาที่เขาใช้มอง เป็นมือของเขาที่เขาใช้จับต้อง เป็นเท้าของเขาที่เขาใช้เดิน และหากเขาวอนขอต่อข้า ข้าก็จะให้เขา และหากเขาขอความคุ้มครอง ข้าก็จะคุ้มครองเขา... “

 

รักอัลลอฮฺ

          ความรักต่ออัลลอฮฺ หมายถึง รักและให้ความสำคัญกับสิ่งที่พระองค์รักให้ปฎิบัติ  ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่คนอื่นรังเกียจก็ตาม  และต้องเกลียดชังในสิ่งที่พระองค์ทรงรังเกียจ  ถึงแม้มนุษย์คนอื่นจะรักก็ตาม  

 อัลลอฮฺทรงตรัสว่า

                                               และบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นผู้ที่รักอัลลอฮฺมากยิ่งกว่า

                                                                                                       (อัลบากอเราะฮฺ : 165)

قل إن كان ءاباؤكم وأبنأكم وإخوانكم وأزواجكم وعشيرتكم وأموالٌ اقترفتموها وتجارةٌ تخشون كسادها ومساكن ترضونها أحبّ اليكم من الله ورسوله وجهادٍ فى سبيله فتربصوا حتى يأتى الله بأمره والله لايهدى القوم الفاسقين

 จงกล่าวเถิดมุหัมหมัด  หากแม้นบรรดาบิดาของพวกเจ้า  และลูกหลานของพวกเจ้า  และ พี่น้องของพวกเจ้า และบรรดาภรรยาของพวกเจ้า  และบรรดาเครือญาติของพวกเจ้า  และทรัพย์สมบัติที่พวกเจ้าขวนขวายมา  และการค้าที่พวกเจ้าเกรงว่าจะล่มจม  และบ้านเรือนที่พวกเจ้าพึงพอใจมัน  มากกว่ารักอัลลอฮฺ  รอซูล  และการญิฮาดในหนทางของพระองค์    พวกเจ้าจงรอคอยการลงโทษของอัลลอฮฺเถิด  และอัลลอฮฺจะไม่ทรงชี้นำกลุ่มชนที่เสียหาย  

อัลลอฮฺทรงตรัสว่า 

قل إن كنتم تحبّون الله فاتّبعوني يحببكم الله ويغفرلكم دنوبكم والله غفورّ رحيم

จงกล่าวเถิด (มุหัมหมัด) หากพวกเจ้ารักอัลลอฮฺ  พวกเจ้าจงตามฉัน  แล้วอัลลอฮฺจะรักท่าน  และพระองค์จะประทานอภัยโทษแก่พวกท่าน  และอัลลอฮฺทรงอภัยและเมตตา

หะดิษกุดซียฺ  รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ

“แท้จริง  อัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งได้ตรัสว่า  ผู้ใดเป็นศัตรูกับวะลีของข้า  แน่นอนข้าได้ประกาศสงครามกับเขาแล้ว  และบ่าวของข้าจะไม่เข้าใกล้ชิดข้าด้วยสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นที่รักแก่ข้า  ยิ่งไปกว่าสิ่งใดที่ข้าได้ลงเป็นฟัรฎูแก่เขา   และบ่าวของข้ายังคงเข้าใกล้ชิดข้าด้วยการปฏิบัติสิ่งที่เป็นนะวาฟิล  จนข้ารักเขา  เมื่อข้ารักเขาแล้ว  ข้าก็เป็นหูของเขาที่เขาใช้ฟัง   เป็นตาของเขาที่เขาใช้มอง  เป็นมือของเขาที่เขาใช้จับต้อง  เป็นเท้าของเขาที่เขาใช้เดิน  และหากเขาวอนขอต่อข้า  ข้าก็จะให้เขา  และหากเขาขอความคุ้มครอง  ข้าก็จะคุ้มครองเขา...    “                                                                                                                                                บุคอรียฺ

ทำอย่างไรให้อัลลอฮฺ(ซ.บ.)ทรงรัก

1. อ่านอัลกุรอานอย่างพินิจพิเคราะห์อยู่เสมอ  (5:15-16,20:124-126,65:10-11)

2. สร้างความใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺ(ซ.บ.)ด้วยการนมาซสุนัตต่างๆให้มาก เช่น สุนัตหน้า-หลัง สุนัตตะหัจญุด สุนัตฎุหา ฯลฯ  (25:63-64,73:1-6)

3. ดื่มด่ำอยู่กับการรำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งด้วย ลิ้น หัวใจ การคิดใคร่ครวญและการปฏิบัติ

4. หากมีการงานสองอย่างที่ต้องทำ ให้เลือกเอาการงานที่อัลลอฮฺ(ซ.บ.)รักก่อนการงานที่มนุษย์รัก

5. พิจารณา ใคร่ครวญในนามชื่อต่างๆของอัลลอฮฺ(ซ.บ.)และให้พินิจพิจารณาถึงความหมายที่สมบูรณ์ของพระนามเหล่านั้น

6. พิจารณาใคร่ครวญในนิอฺมัต ความโปรดปรานต่างๆที่อัลลอฮฺ(ซ.บ.)ทรงประทานให้มา  (3:190-191,13:4,56:68-70)

7. แสดงความเสียใจ สารภาพผิดต่อพระองค์และแสดงออกซึ่งความต้องการพึ่งพาพระองค์อยู่เสมอ  (3:135-136,4:110)

8. ปลีกเวลาอยู่กับอัลลอฮฺ(ซ.บ.)ตามลำพัง(คุลวะฮฺ) เพื่อมุนาญาตร้องขอต่อพระองค์  (4:69,6:68)

9. นั่งร่วมกับคนดีมีคุณธรรมทั้งหลาย  (4:69,6:68)

10. ห่างไกลจากสาเหตุที่จะมาขวางกั้นหัวใจของเรากับอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ซึ่งหมายถึงการทำบาปหรือสิ่งไร้สาระต่างๆ   (23:3)


รักรอซูล

          ท่านรอซูลกล่าวว่า  “ความศรัทธาของพวกท่านยังไม่สมบูรณ์  จนกว่า ฉัน จะเป็นที่รักยิ่งสำหรับเขา  มากกว่าลูก  บิดา มารดา  และมนุษย์ทุกคน”                                                                             มุสลิม

          ขณะที่ท่านรอซูลจับมือท่านอุมัร  บิน ค็อฏฏอบ   ท่านอุมัรได้กล่าวว่า “โอ้ท่านรอซูล  แท้จริงแล้วท่านเป็นที่รักของฉันมากกว่าสิ่งใด ๆ ทั้งมวลยกเว้นตัวฉันเอง”  ท่านรอซูลจึงตอบว่า “มิใช่เช่นนั้น    ขอสาบานด้วยผู้ครอบครองชีวิตฉัน (เจ้าจะไม่ศรัทธา)  จนกว่าฉันจะเป็นที่รักของเจ้ามากกว่าตัวเจ้าเอง”   ท่านอุมัรจึงกล่าวว่า   “ตอนนี้ท่านได้เป็นที่รักยิ่งต่อฉันมากกว่าตัวฉันเองแล้ว”                   บุคอรีย์

ท่านรอซูลกล่าวว่า 

"สามประการ ผู้ใดที่ปฏิบัติมัน เขาจะได้รับรสชาติความหอมหวานของอีมาน 

       (1) การที่อัลลอฮและรอซูลเป็นที่รักของเขาเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด 

       (2) การที่เขาจะรักใครคนหนึ่ง มิใช่อื่นใด นอกจากเพื่ออัลลอฮ 

       (3) เขาจะรังเกียจการกลับไปสู่กุฟรฺ(การปฏิเสธศรัทธา)ภายหลังจากที่ได้รับทจากอัลลอฮ เหมือนดังที่เขารังเกียจที่จะไปสู่ไฟนรก“                                               บันทึกโดย บุคอรี และมุสลิม

ความรักต่อผู้ศรัทธา

1. รักต่อบรรดาศอฮาบะฮฺ และ ตาบีอีน

2. รักบุพการี

3. รักสามี – ภรรยา

4. ความรักต่อบุคคลอื่น ๆ ที่เป็นไปเพื่ออัลลอฮ์

หะดิษ  กุดซีย์  กล่าวว่า  

"แท้จริงในปวงบ่าวของอัลลอฮนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขามิได้เป็นนบี และมิได้เป็นชะฮีด แต่บรรดานบี และบรรดาชะฮีดต่างต้องการมีสถานะอย่างพวกเขา เนื่องจากฐานะ(อันสูงส่ง) ที่พวกเขาได้รับจากอัลลอฮในวันกิยามะฮ" บรรดาซอฮาบะฮพากันถามว่า "โอ้ท่านรอซูลุลอฮ โปรดบอกพวกเราเถิดว่า พวกเขาเป็นใคร? ท่านกล่าวว่า "พวกเขาคือกลุ่มคนที่รักกันด้วยวิญญานแห่งอัลลอฮ ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่ได้มาจากสายเลือดเดียวกัน ไม่ได้มีทรัพย์สินเป็นผลประโยชน์ต่อกัน ขอสาบานด้วยอัลลอฮ แท้จริงบนใบหน้าของเขาจะมีรัศมี และแท้จริงพวกเขาจะอยู่บนแสงสว่าง พวกเขาจะไม่มีความหวาดกลัวในขณะที่ผู้คนมีความหวาดกลัวกัน และพวกเขาจะไม่มีความเศร้าในขณะที่ผู้คนโศกเศร้ากัน ..."           บันทึกโดยอบูดาวูด

ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า 

ในวันกิยามะฮ อัลลอฮจะทรงเรียกพวกเขาเข้าสู่ร่มเงาของพระองค์ "ไหน บรรดาผู้ที่รักกันด้วยความเกรียงไกรของฉัน วันนี้ ฉันจะให้พวกเขาอยู่ในร่มเงาของฉัน วันที่ซึ่งไม่มีร่มเงาใด นอกจากร่มเงาของฉัน"             บันทึกโดยมุสลิม


เติมความรักให้เต็มหัวใจ

1. ในวันกิยามะฮฺพวกเขาจะมีใบหน้าที่มีรัศมีอันเปล่งปลั่ง

2. บาปของเขาจะได้รับการอภัยแม้จะมีมากมายประดุจฟองน้ำในมหาสมุทร

3. ในวันกิยามะฮฺพวกเขาจะได้อยู่ภายใต้ร่มเงาอารัชของอัลลอฮฺ(ซ.บ.)

4. เขาจะได้รับความรักจากอัลลอฮฺ(ซ.บ.)

5. เขาจะได้เข้าสู่สรวงสวรรค์และอยู่ในความพึงพอพระทัยของพระองค์

6. เขาจะได้ลิ้มรสความหวานฉ่ำของอีมาน

  ทำอย่างไรให้เรารักกัน

1. บอกพี่น้องว่าเรารักเขา

2. ขอดุอาอฺให้พี่น้องลับหลัง โดยที่พี่น้องไม่รู้

3. แสดงออกด้วยความยินดี ยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อเจอพี่น้อง

4. สัมผัสมือสลาม

5. เยี่ยมเยียนกันและกันอย่างสม่ำเสมอ

6. กล่าวคำชื่นชมยินดีตามโอกาส

7. ให้ของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ

8. ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

9. ปฏิบัติตามสิทธิหน้าที่ที่พึงมีต่อพี่น้องให้สมบูรณ์

            โอ้!  คนหนุ่มสาวมุสลิมโปรดได้หันกลับมาสู่อ้อมกอดแห่งรักที่แท้จริงเถิด    รักที่เต็มไปด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ใจ   รักที่ถูกกำเนิมาจากอะกีดะฮฺที่บริสุทธิ์  รักที่มีน้ำหนักในตาชั่งของอัลลอฮฺในวันปรโลก  รักที่ได้รับการตอบแทนด้วยสรวงสวรรค์จากพระองค์  จะมีรักใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่ารักแห่งพระองค์อัลลอฮฺ


 

หมายเลขบันทึก: 224594เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2008 00:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 01:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สลามอ. ชารีกีน

นามสกุลคุ้นจัง

ครูเพียร สุมาลี เคยสอน ป. 4 ที่ รรบ้านบ่อแสนครับ

อัสสลามูอะลัยกุม...บังชากีรีน

สบายดีนะครับ

จำน้องบ่าวคนนี้ได้ไหมครับ

ผมอับดุลกอนี จาก ม.อิสลามยะลาครับ

แล้วค่อยคุยกันอีกครับ

วัสสลาม..

ลูกหลานครูเพียรพังงา

อัสลามุอะลัยกุมพี่ชาย อยากรู้ต้นตะกูลเดิมบรรพบุรุษของพวกเราเป็นคนที่ใหนคะ จากทายาทรุ่นที่8

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท