วันที่ 13 ตุลา จู่ๆก็นึกรำคาญอยากไปผ่าซีสที่หัวแม่มือ
ประชุมสาขาหลักสูตรและการสอนเสร็จเรียบร้อย ข้าพเจ้าสวมวิญญาณคุณปู่เย็น
เฒ่าทรนง...ไม่ยอมขอร้องใคร ด้วยเกรงใจเขา... ไปโรงพยาบาลศรีพัฒน์ เคาน์เตอร์บอก
ไปชั้น 13 ห้องเบอร์ 13 นะคะหมอศัลยกรรมอยู่ค่ะ
ตัดสินใจผ่าตัดเล็ก ไม่ยุ่งอยากแต่อย่างใด คุณหมอพุดตาน ท่านแสนจะใจดี
เจ็บแปล้บเดียวตอนฉีดยาชา พอหัวแม่มือ(ข้างซ้าย)เจ็บ ตอนแรกๆ ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่โห...ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยซะแล้ว เพิ่งทราบเองแหละว่า 4 นิ้วที่เหลือทำท่าจะไม่มีแรงเอากะเขา
เก้ๆ กัง ๆ หยิบจับอะไรก็ไม่ถนัด เจ็บนิ้วหัวแม่มือทำไมทำงานไม่ถนัด เผลอๆจะโดนน้ำ โดนทิ่มตำเอา
ง่ายๆ คุณหมอสั่งไว้ห้ามเปียกน้ำ โดนน้ำเด็ดขาด
นิ้วหัวแม่มือ กำลังสอนให้เรารู้ ให้เราคิดถึงความจริงตามธรรมชาติว่าเปรียบเป็นหัวหน้าหรือจ่าฝูง
ยามที่ไม่มีบาดแผลเรามีความรู้สึกว่า ไม่เห็นมีความสำคัญอะไร สี่นิ้วที่เหลือก็น่าจะทำงานได้
เหมือนเราหมั่นไส้หัวหน้าเรานะแหละ แต่จริงๆแล้ว หยิบจับอะไร นิ้วหัวแม่มือทรงพลังยิ่งใหญ่
ที่คอยช่วย คอยประคอง
สังคมไทยให้ความสำคัญของผู้นำ และหัวหน้า แต่บางทีทีมงานก็ลดเครดิตคนเป็นหัวหน้าเอาง่ายๆ
เพียงแค่ไม่ถูกใจ ไม่ใช่คนที่ฉันเลือก ไม่ใช่คนที่ฉันรัก ยุทธการเสียดสี เลื่อยขา หักหน้า และ
ทำอย่างไรก็ได้ที่จะเหนือกว่า ให้คนอื่นเห็นว่าหัวหน้าคนนี้มีแค่ หัว กับ หน้า เท่านั้น
แต่ความจริงหัวกับหน้านั่นแหละสำคัญยิ่ง เพราะหัวเป็นส่วนคิด ที่ต้องใช้ปัญญาบารมี องค์กรใด
มีหัวหน้าที่ไม่ใช้ปัญญาก็ย่อมรู้ดีว่า ความวิบัติเกิดขึ้นอย่างไร หน้าเป็นสัญลักษณ์เป็นตัวแทนของ
องค์กร เป็นความสง่างามขององค์กร เพราะฉะนั้น ถ้าเราได้หัวหน้าดี ผู้นำดี ไม่ว่าระดับหน่วยงานเล็กๆ
จนถึงระดับชาติ เราก็พลอยได้รับการยอมรับไปด้วย
ในทัศนะส่วนตัว คนไทยไม่ค่อยยอมรับบทบาทของผู้นำ สังคมไทยใครเป็นผู้นำหรือเป็นหัวหน้า
ต้องพกยาทำใจ และยาปวดหายไว้หลายๆโหล
หรือท่านว่าไม่จริง ดิสเครดิตผู้นำมาก ๆ ดูสิไม่ทันไรเขมรเริ่มอหังการ สั่งให้ถอยทหารภายใน 24
ชั่วโมง ดู้ ดู ดูมันทำดิ ทั้ง ๆที่อดีต เขมรคือเมืองขึ้นของประเทศไทย
ก็..เพราะเราขาดผู้นำที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นใจ นายกรัฐมนตรีคนไหนๆ ก็ไม่เคยถูกใจ
สักคน ไล่มาสิบอบช้ำตามๆกัน เอ๊ะ!!!!!! เขียนเรื่องหัวแม่มืออยู่ดีๆ ไหงไปยุ่งกะการเมืองกะเขา
อิ อิ จบเอย
สวัสดีค่ะ
ได้แง่คิดที่ดีจริงๆ ค่ะ จากประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ สามารถต่อยอดออกมาเป็นมุมมองที่น่าสนใจ และให้แนวคิดที่ดีในการทำงานด้วย
ขอบคุณมากนะคะ ^_^
ตอบ คุณมะปรางเปรี้ยว
ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม
ความวุ่นวายของการเมืองและสังคม ผสมเศรษฐกิจที่รุมเร้า
ฝ่ายการศึกษาน่าจะมีบทบาทในการช่วยแก้ไข
หรืออาจจะเป็นจำเลยเสียเอง ก็ม่ายรู้ สินะคะ
เอาใจช่วยหัวหน้าทุกท่าน
โดยเฉพาะสุภาพสตรี(คนเก่ง)
เช่นหัวหน้าลำดวน นะคะ
ส่งข่าวถึงน้องปอยบ้างหรือไม่
สวัสดีค่ะอาจารย์อนงค์ศิริ
หนูเรียนวิชาการศึกษาและการมีส่วนร่วมในสถานศึกษา วันอังคาร ตอนเที่ยงนะคะ
หนูดีใจมากที่มีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์
เพื่อนหนูเคยเรียนกับอาจารย์เมื่อเทอมที่แล้วบอกว่าอาจารย์เป็นคนที่เก่ง มีความรู้ความสามารถ เชื่อว่าเมื่อหนูได้เรียนกับอาจารย์คงจะได้รับความรู้และประสบการณ์ดีๆ มากมายที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน เพราะวันข้างหน้าเราก็จะได้มีโอกาสเป็นคุณครูคนหนึ่ง ยังไงเทอมนี้ลูกศิษย์คนนี้จะตั้งใจเรียนและพยายามเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด จะพยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ เพราะหนูเชื่อว่าคนที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงย่อมได้สิ่งดีๆ ตอบแทนเสมอ
อุบลรัตน์ สักแกแก้ว
สวัสดีค่ะอาจารย์อนงค์ศิริ
ไม่มีโอกาสได้มาทักทายครูนานแล้ว มัวยุ่งกับการเรียน หวังว่าครูคงสบายดีนะคะ เทอมนี้น่าเสียดายที่ไม่ได้เรียนกับครู แต่สิ่งที่ครูเคยสอนและเคยให้ข้อคิด รวมทั้งความรู้และประสบการณ์ดีๆ ที่เคยได้รับจากครู ยังคงอยู่ในใจของลูกศิษย์คนนี้เสมอ
จากใจศิษย์คนเดิม
น้ำทิพย์ สานา
ตอบ อุบลรัตน์ สักแกแก้ว
ครูดีใจและภูมิใจจัง ที่มีศิษย์เผ็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
และแวะมาเยี่ยม ปั๊บผญา เชื่อมั่นว่าครุสอนศิษย์ด้วยใจ
เราช่วยกันสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ร่วมกันนะคะ
การเรียนย่อมมีความหมาย และผลลัพท์ย่อมชื่นใจ
หวังว่าศิษย์จะมีความสุขกับ Go to know ตลอดไป
ตอบ น้ำทิพย์ ศิษย์รัก
ดีใจจังเลยที่เห็นศิษยืแวะมาเยี่ยม
และดีใจมากๆ ที่ศิษย์ยังคิดถึงครู คิดถึงบรรยากาศในการเรียนรู้ในอดีต
เทอมนี้ศิษย์ของครูคงประสบความสำเร็จในการเรียน(เช่นเคย)ใช่ไหมคะ
ถึงไม่ได้เจอกันในห้องเรียน
ก็สามารถเข้ามาถาม มาคุยกะครูที่ Blog นี้ได้ทุกเวลา
บอกเพื่อนๆ ของหนูด้วยว่าครูคิดถึง
ตอบ คุณทนัน ภิวงศ์งาม
เยี่ยมสุดๆเลยค่ะ
นิ้วมือสอนให้เรียนรู้ เปรียบเป็นบุคลากรในองค์กร และรวมพลัง สมานฉันท์
ร่วมกัน"ชูกำปั้น"...ลุย !!!
คิดได้ไกลกว่า เสียอีก โห !!! ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงและ
ขออนุญาตนำไปสอนศิษย์ต่อนะคะ
ขอบคุณ..คุณทนัน ภิวงศ์งาม และอาจารย์เจ้าของบล๊อกนะคับที่ช่วยเติมเต็มจนมีความรู้เพิ่มพูนก้ใช่ซิคับเรียนครูก้ต้องมีความรู้มากขืนปล่อยให้นักเรียนมีความรู้มากกว่าเราจะไปสอนอะไรได้ แต่....ก้อีกนั่นล่ะคนทุกคนรับรู้ต่างกันดังนั้นสิ่งที่เรารู้คนอื่นอาจไม่รู้คนที่รู้เราอาจไม่รู้มีอะไรเอามาแลกเปลี่ยนกันดีกว่าเก็บไว้ร่างกายเปื่อยพุพังไปก้ไม่มีประโยชน์อะไรสู้เอามาแลกเปลี่ยนจุนเจือกันถึงมีไม่มากนักคนที่เข้ามาอาจจะมีไม่มาก.....คนที่ได้เข้ามาอ่านอย่างน้อยก้ช่วยให้เขาได้เรียนรู้อยู่อยู่ที่เขาอีกทีว่าจะรับไปเอยะหรือน้อยขอบคุณนะคราบบสำหรับบทความดีและแง่คิดดี......