"หมอกุ” ผู้ผันสมุนไพรรักษาคน สู่ สมุนไพรเพื่อเกษตรอินทรีย์ (๑)


คิดว่าน่าจะได้ฤกษ์นำเรื่องของ “หมอกุ – ดำรงศักดิ์ ชุมแสงพันธุ์” แห่ง บ้านสมุนไพรไท มาถ่ายทอดให้ได้เห็นถึงวิธีคิด และ วิธีทำ ของผู้ที่กล้าจะแตกต่างและเดินออกจากกระแสหลักด้วยมั่นใจในความรู้ที่มีและความรู้ที่จะแสวงหามาได้ บวกกับความดีของตนและครอบครัวที่ยึดในหลักคุณธรรม เมตตาธรรม

ผู้เขียนได้อ่านเรื่องราวความสนใจในการทำเกษตรอินทรีย์ใน G2K พบว่ามีมากมาย และมีปัญหาซ้ำๆกัน คือ ชาวบ้าน/ชุมชนกับวิธีคิดที่จะเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ แต่ไม่กล้า ไม่แน่ใจในการที่จะเปลี่ยนโดยที่เพื่อนเกษตรกรส่วนใหญ่ที่อยู่รอบยังทำตามกระแสหลักเคมีนิยม ทั้งๆที่รู้เต็มอกว่าเคมีนั้นอันตราย ขนาดตัวเองก็ยังไม่กล้าบริโภคข้าวหรือผลิตผลเกษตรที่ตัวเองปลูก แต่ความอยากได้เงินเลี้ยงชีพ ก็จำใจต้องผลิตเพื่อขาย ไม่สนใจว่าใครจะกินแล้วจะป่วยหรือตาย ไม่เห็นเสียอย่าง เป็นวิธีทำ วิธีคิด ที่ไม่มีเรื่องของการรู้คุณ เกื้อกูลธรรมชาติ และมีคุณธรรมใดๆเลย หรือเราต้องยอมรับวิธีแห่งวิถีทุนนิยมทุกวันนี้

 

นอกจากนี้เกษตรกรที่หลงทางชีวิตเหล่านี้ก็ยังหลอกตัวเอง ด้วยการขายข้าว พืชผักที่เต็มไปด้วยการใช้สารเคมี ได้เงินมาก็นำไปซื้อ ข้าว ซื้อผักที่ตลาด เมื่อถูกถามว่าแล้วไม่กลัวหรือว่า คนอื่นเขาจะนำพืชที่ปลูกด้วยวิธีการเดียวกันมาขายให้เรา เขาก็ตอบว่าก็สงสัยอยู่ แต่เมื่อไม่เห็น ไม่รู้ แล้วมันสบายใจกว่าที่จะบริโภคของตัวเอง คำตอบเหล่านี้ผู้เขียนไม่ได้ยกเมฆ แต่เกษตรกร และนักวิชาการที่ทำงานในพื้นที่เป็นผู้มาเล่าจากสิ่งที่เขาได้พบจริงๆ ผู้เขียนได้รับรู้เรื่องนี้มาหลายปีตั้งแต่ลงพื้นที่กรณีศึกษาในภาคกลางเก็บข้อมูลเขียนวิทยานิพนธ์ และเพิ่งได้อ่านคำพูดทำนองนี้ในบล็อกที่ดร.แสวง รวยสูงเนิน เล่าไว้จากได้พบจากชาวบ้านเองในแถบอีสาน อยู่คนละที่ แต่คิดอย่างเดียวกันเลย

 

 

เรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนนึกถึงกรณีศึกษาหลายๆเรื่องที่ได้ไปศึกษา หนึ่งในนั้นคือเรื่องราวจาก “หมอกุ – ดำรงศักดิ์ ชุมแสงพันธุ์” แห่ง บ้านสมุนไพรไท จังหวัดระยอง ที่สามารถเป็นคำตอบและตัวอย่างของการทำเกษตรอินทรีย์ที่สามารถตอบปัญหาสำคัญที่ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ลังเลที่จะมาทำการเกษตรแบบไม่ใช้สารเคมี เช่น

 

 

·        หากฉันเปลี่ยนมาทำเกษตรไม่ใช้ยา ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี แมลงจากที่รอบข้างก็ต้องพากันมารุมกินผลผลิตของฉันสนุกไปน่ะซี และปริมาณผลผลิตก็ต้องสู้คนที่ใช้ปุ๋ยเคมีไม่ได้

 

·        พวกสมุนไพรที่ใช้ไล่แมลงที่ใช้ๆกันทั่วไป ไม่ค่อยได้ผลจริง เพราะไม่แรงพอที่จะฆ่าหรือไล่แมลง ทำๆไปก็จะเสียเวลาเปล่า หาเงินไม่ทันใช้หนี้ธกส.

 

การได้มีโอกาสเรียนรู้จาก “หมอกุ” ว่าวัชพืชทุกอย่าง มีประโยชน์ไม่เพียงเป็นสมุนไพรรักษาคน แต่ยังนำมาใช้กับการทำปุ๋ย ทำฮอร์โมนอินทรีย์ได้ด้วย สิ่งนี้ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เขียนเปิดตา เปิดใจ มองเห็นพืชพรรณที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า “หญ้า หรือ วัชพืช” ว่าช่างน่าสนใจ จึงเป็นที่มาของการไปด้อมๆมองๆถ่ายรูปพืชที่ท่าน้ำ แล้วมาหาข้อมูลว่าคือพืชอะไร มีประโยชน์อย่างไร แล้วได้นำมาลงเล่าสู่กันในบล็อก Riverlifeอยู่เนืองๆ

 

จึงคิดว่าน่าจะได้ฤกษ์นำเรื่องของ “หมอกุ – ดำรงศักดิ์ ชุมแสงพันธุ์” แห่ง บ้านสมุนไพรไท มาถ่ายทอดให้ได้เห็นถึงวิธีคิด และ วิธีทำ ของผู้ที่กล้าจะแตกต่างและเดินออกจากกระแสหลักด้วยมั่นใจในความรู้ที่มีและความรู้ที่จะแสวงหามาได้ บวกกับความดีของตนและครอบครัวที่ยึดในหลักคุณธรรม เมตตาธรรม

 

เมื่อไม่นานได้ดูข่าวโทรทัศน์เรื่องเกษตรกรแห่งหนึ่งมีความคิดสร้างสรรค์ที่น่าสนใจมากโดยนำ น้ำพริกแกง มาละลายน้ำแล้วกรองเอาน้ำใสๆ ไปฉีดพ่นไล่แมลง แทนยาฆ่าแมลงที่แพงขึ้นทุกวันโดยเฉพาะยุคน้ำมันราคาทะยานยั้งไม่อยู่ ประหยัดไปได้มาก หากแมลงมากก็จะผสมน้ำส้มสายชูและยาฉุน(ยาเส้น)ลงไปด้วย แมลงคงจะแสบร้อนจนทนไม่ได้ต้องหนีไปให้พ้น เขาบอกว่าฉีดพ่นกันแค่สองครั้งเท่านั้นต่อการปลูกข้าวหนึ่งรอบ ได้ผลจริงๆและประหยัดไปกว่าครึ่ง คนก็ไม่ได้รับอันตราย ไม่มีสารเคมีตกค้างเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

 

นี่เป็นการใช้สมุนไพรไทยแท้ๆ ลองคิดดูว่า ในเครื่องแกง มีสมุนไพรกี่ชนิด ล้วนหาได้ง่ายในท้องถิ่น

 

การใช้สมุนไพรจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและได้ผลจริง แต่ต้องใช้อย่างมีความรู้จริง อยากให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักวิธีการที่ “หมอกุ” ท่านใช้ เป็นวิธีการจากผู้ที่นำความรู้ด้านสมุนไพรที่ใช้รักษาการเจ็บป่วย ช่วยชีวิตคน มาปรับใช้เพื่อการทำเกษตรอินทรีย์

 ******

คุณ ดำรงศักดิ์ หรือ หมอกุ เป็นหมอยาสมุนไพรที่มีความรู้ความชำนาญสูงได้รับการยอมรับนับถือในละแวกบ้าน คลองเขต ตำบล ป่ายุบใน ระยอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมากให้รอดชีวิตจากการถูกงูพิษร้ายแรงกัด เนื่องจากแถบในแถบนั้นมีงูพิษร้ายอยู่ชุกชุม

 

เดิม หมอกุ มีอาชีพหลักในการทำไร่อ้อย-มันสำปะหลังเหมือนกับชาวบ้านจำนวนมากในละแวกนั้น แต่ต่อมารู้สึกเบื่อหน่ายกับการถูกเอารัดเอาเปรียบและการช่วยเหลืออย่างไม่จริงใจของนายทุนและรัฐจึงเลิกอาชีพทำไร่ หันมาทำการเกษตรแบบไร่นาสวนผสมเพราะมีพื้นที่ราว ๑๗๐ไร่ และยังคงใช้ความรู้ด้านสมุนไพรช่วยเหลือผู้คนต่อไป หมอกุ แบ่งพื้นที่ทำนา-ปลูกข้าว ปลูกผัก ผลไม้ ทำบ่อปลาและปลูกสมุนไพรที่ต้องใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ แต่เมื่อเริ่มต้น ยังคงใช้เคมีเพื่อการเกษตรทั้งปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืช

 

ในปี ๒๕๓๘ หมอกุ ได้มีโอกาสไปร่วมประชุมเกี่ยวกับเรื่อง โครงการพระราชดำริและการทำเกษตรอินทรีย์ ทำให้มาสะท้อนถึงชีวิตของตนในการใช้เคมีในการทำเกษตร น้องสาวก็เสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็งซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากการสัมผัสเคมีมาก การใช้สารเคมียังทำให้มีต้นทุนการผลิตสูงและที่สำคัญทำให้ฉุกคิดว่า เราเป็นหมอช่วยคนแท้ ๆ แต่กลับเอายาพิษหรือสารเคมีใส่ปากคนไข้ เพราะสมุนไพรที่ผมใช้เป็นยามันก็ดูดซึมปุ๋ยเคมีเข้าไป ถึงจะเอาไปตากแห้งก็ยังมีสารพิษตกค้างอยู่ดี ในปี ๒๕๔๒ ในพื้นที่เกษตรของหมอกุจึงยกเลิกการใช้สารเคมีโดยสิ้นเชิง

 

มาติดตามกันต่อในตอนหน้าว่า “หมอกุ” คิดอะไรต่อ และ ทำอย่างไร จนผลงานประจักษ์เลื่องลือจน บ้านสมุนไพรไท ของท่านกลายเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของผู้ที่แสวงหาความรู้การทำเกษตรอินทรีย์จากผู้คนทั้งต่างถิ่น และต่างประเทศ และการเป็นผู้สร้างสรรค์และสืบสานภูมิปัญญาที่คิดค้น-ค้นพบ อย่างต่อเนื่องเป็นที่ยอมรับของสังคมและชุมชน จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย ปี พ.ศ. ๒๕๔๖

หมายเลขบันทึก: 196189เขียนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2008 10:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
  • ดีจังเลยครับพี่นุช
  • พยายามส่งเสริมให้ชาวบ้านแถวๆๆไร่พนมทวนทำเหมือนกัน
  • เข้าใจว่า
  • คงมีหนังสือเล่มนี้
  • ของ สกศ
  • ใช่ไหมครับ
  •  “ครูภูมิปัญญาไทย ปี พ.ศ. ๒๕๔๖

เมื่อไม่นานได้ดูข่าวโทรทัศน์เรื่องเกษตรกรแห่งหนึ่งมีความคิดสร้างสรรค์ที่น่าสนใจมากโดยนำ น้ำพริกแกง มาละลายน้ำแล้วกรองเอาน้ำใสๆ ไปฉีดพ่นไล่แมลง แทนยาฆ่าแมลงที่แพงขึ้นทุกวันโดยเฉพาะยุคน้ำมันราคาทะยานยั้งไม่อยู่ ประหยัดไปได้มาก หากแมลงมากก็จะผสมน้ำส้มสายชูและยาฉุน(ยาเส้น)ลงไปด้วย แมลงคงจะแสบร้อนจนทนไม่ได้ต้องหนีไปให้พ้น

น่าสนใจดีนะคะ ^^  จะลองเอาไปใช้มั่ง...  ขอบพระคุณพี่นุชค่ะ

สวัสดีค่ะพี่นุช

  • ดีใจที่คุณหมอกุ เป็นที่รู้จักและได้บำเพ็ญประโยชน์ให้ประเทศชาติ ร่วมกับหลาย ๆ หน่ยวงาน
  • คนไม่มีรากเป็นคณะทำงานที่ได้ไปประเมินคุณหมอกุ เพื่อรับกรยกย่องเป็นครูภูมิปัญญาไทย และเป็นผู้เขียนรายงานประวัติของท่านลงในหนังสือครูภูมิปัญญาไทย ภาคกลางและตะวันออก รุ่นที่ 3 ปี 2546 ค่ะ
  • เคยไปเยี่ยมท่านหลายครั้ง และได้ชิมมังคุดของท่านด้วย...คิดแล้วสุขใจและอดจะปิติไม่ได้ที่มีส่วนในการเชิดชู...คนดี...ครูภูมิปัญญาไทย .. พลังแผ่นดิน ค่ะ
  • ขอบคุณพี่นุชที่นำเรื่องของครูภูมิปัญญาไทยมาเผยแพร่ค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์P ขจิต ฝอยทอง  และคุณ P คนไม่มีราก ตอบด้วยกัน เพราะพูดถึงหนังสือเล่มเดียวกันค่ะ พี่ก็ได้มีโอกาสพบท่านในพื้นที่เวลาท่านทำงาน ได้เห็นบรรยากาศการต้อนรับคณะเยาวชน ได้เห็นการทำงานของคนในครอบครัวท่าน รู้สึกประทับใจมากและไม่เคยเห็นวิธีคิด วิธีทำในการทำเกษตรอินทรีย์แบบนี้ (อาจเป็นเพราะพี่เองก็เห็นน้อยด้วย) เลยอยากเข้าใจวิธีคิด วิธีการบูรณาการความรู้ ที่จะทำให้เกษตรกรพึ่งตนเองได้ คนทำก็มีสุขภาพดี ผู้บริโภคก็มีสุขภาพดี กรณีศึกษานี้เป็นหนึ่งในเก้าเรื่องที่พี่เลือกศึกษาวิเคราะห์ค่ะ

เป็นเรื่องที่ต้องคิดกันต่อว่า ทำอย่างไรเราจึงจะขยายความรู้-ความดีที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ให้คนที่สนใจ หรือยังไม่สนใจนัก ได้เห็นทางเลือกนะคะ

หากอาจารย์ขจิตชวนชาวบ้านแถวพนมทวนมาในแนวเกษตรอินทรีย์ได้ถือว่าเป็นกุศลแก่แผ่นดินมากเลยค่ะ

ค่ะคุณต้อมP  เนปาลี พี่ก็คิดว่าน่าสนใจมาก ยังนึกชมนักข่าวว่าเขามี"ตา" มองเห็นความสำคัญของเรื่องอย่างนี้ ดีมากๆเลยค่ะ

พี่ก็ว่าจะลองดูเหมือนกันค่ะ แต่สงสัยคุณต้อมจะได้ลองทำก่อนพี่ล่ะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ หมอกุอยู่ที่ระยองด้วย อยากพาพ่อไปเยี่ยม บ้านสมุนไพรไท จังค่ะ จะได้นำมาใช้ที่สวนเล็กๆที่บ้าน

สวัสดีครับ

สารปราบแมลงสูตร เครื่องแกงเผ็ดนี้ ผมขอยืนยันอีกคนครับว่าสามารถ ขับไล่และทำลายแมลงได้โดยเฉพาะ เพลี้ยอ่อน ที่มาดูดน้ำเลี้ยง ผักกินใบ ถั่วฝักยาว ฯลฯ

ผักที่ต้องเก็บเกี่ยวทุกวัน เช่น แตง ถั่วฝักยาว เกษตรกรมักใช้สารเคมีประเภทดูดซึม สารก็จะล่องลอยอยู่ในต้นผัก เมื่อเราซื้อผักมากินก็ได้ของแถมมาด้วย

แต่การใช้ เครื่องแกงเผ็ด จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยขึ้นครับ

หากจะให้ดีกว่านี้ก็ต้องหาพริกที่มีความเผ็ดมากๆ หรือใช้เมล็ดพริกเยอะๆ บดรวมลงำแครับ

พี่จะไปที่อีเมลคุณมัทP มัทนา นะคะจะไปทิ้งที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของลูกสาวหมอกุไว้ให้จะได้ติดต่อกันได้

ดีใจที่คุณมัทสนใจจะปลูกพืชที่บ้านในแนวทางนี้ พี่ว่าจะเป็นตัวอย่างให้เพื่อนฝูงของเราเห็นและขยายแนวคิด วิธีการนี้ให้กว้างขวางขึ้นนะคะ

สวัสดีค่ะคุณP  ลุงพูน ขอบคุณมากค่ะที่ผู้รู้จริง ทำจริงมาช่วยยืนยันเรื่องการใช้น้ำพริกแกง ซึ่งคิดว่าเป็นอะไรที่ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมาหั่น สับ ซอย ต้มเอง ใครๆก็ทำได้ เห็นในทีวีแล้วปิ๊งมากเลยค่ะ ทีนี้แม่ค้าขายเครื่องแกงคงขายดีเพิ่มขึ้นนะคะ

สวัสดีค่ะ พี่นุช สุดดวงใจของน้อง

* วันนี้น้องเพิ่งไปคุยกับชาวบ้านเช่นกันค่ะ

* และกระแส ธรรมชาติก็มาแรง พอๆกับ

* ความไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ อย่างพี่นุชกล่าวค่ะ

* ขอบคุณบันทึกนี้นะคะ ... จะไปอ่านก่อนค่ะ

....

  ขอบคุณภาพ คุณแดนไท ค่ะ

ขอบคุณน้องปูP  poo ที่อุตส่าห์มารายงานตัวก่อนไปอ่าน

ภาพดอกบัวบานสวยจังค่ะ

พี่เตรียมภาพสำหรับเรื่องใหม่ในบล็อกRiverLife รับรองถูกใจสาวโรแมนติค ขอทานข้าวกลางวันก่อนนะคะ

เฮ้อ วันนี้อากาศดีจริงๆ อยากชวนน้องปูมานั่งทานข้าวกลางวันด้วยกันที่ศาลาจัง วันนี้ทานเผื่อไปก่อนก็แล้วกัน

เปลี่ยนภาพใหม่เป็นภาพอะไรคะนั่น พี่ใส่แว่นแล้วก็ยังดูไม่ออกเลยค่ะ

ปกติก็ทำสวนครัวเล็กๆอยู่ที่บ้านค่ะ ไม่ได้ใช้สารเคมีเลย แต่เรื่อง ยากำจัดแมลงสูตร แกงเผ้ดนี่เพิ่งเคยทราบค่ะ จะขอไปลองดูค่ะ

คุณพี่ศศินันท์P Sasinand สนใจสูตรน้ำพริกแกงเผ็ดเหมือนหลายๆคนที่ได้ยินเรื่องนี้ค่ะ เขาใช้นำ้พริกแกงแดงนะคะ นุชว่าง่ายดี ได้ผล ใช้กับสวนครัวเล็กๆของเราท่าจะดีมากเลยค่ะ

อ้อเคยไปดูงานที่บ้านหมอกุมาแล้วค่ะ ดีมากๆเลยค่ะท่านให้ประโยชน์ในเรื่องต่างๆ อาทิ สมุนไพรใกล้ตัว พรรณไม้ต่างๆ

ตอนที่ไปมาหมอกุท่านป่วยต้องนั่งรถเข็นมาสอนรื่องต่างๆอีกกระทั่งท่านยังสอนให้ลุกของท่านเดินรอยตามท่านไม่น่าเช่อว่าลูกๆของท่านซึ่งยังอยู่ในช่วงที่เป็นวัยรุ่นจะมาสนใจในเรื่องเกษตร หมอกุได้มีการเรียนในป่าโดยนำชมพรรณไม้ต่างๆโดยมี พี่นิด พี่พร และคนอื่นๆมาแนะนำเรามันสนุกมากๆเลยค่ะ รอดูสิค่ะคุณจะรู้สิดีมากๆเลยค่ะ

ขอบพระคุณบันทึกดีๆของอาจารย์ครับ

ทำให้ผมได้คำถามตรงใจที่นำไปถามคุณหมอกุเมื่อสัปดาห์ก่อน ^^

สวัสดีท่านอาจารย์ที่เคารพทุกๆท่าน พอดีเปิดเข้ามาดูข้อมูลเกี่ยวกับพืชสมุนไพรเพราะว่าจะไปศึกษาดูงานที่บ้านอาจารย์หมอกุกับสมาคมการแพทย์แผนไทยจังหวัดราชบุรี ก็เลยอยากหาข้อมูลก่อนฮ๊ะ ต้องขอประธานโทษไว้ก่อนฮ๊ะ

ครั้งแรกของการเข้าสัมผัสบรรยากาศที่ไร่ของหมอกุ อยากบอกว่าประทับใจมากค่ะ ชีวิตความเป็นอยู่

แบบวิถีชาวบ้านดูมีความสุขมากๆ เคยได้อ่านเรื่ิงราว เคยได้ยินเขาเล่าว่า แต่ไม่เคยได้มาสัมผัส 

อยากมีโอกาสไปอีกเป็นครั้งที่สอง ที่สาม.........ค่ะ จะต้องไปอีกให้ได้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท