เขียนถึงคนของหัวใจจากไชยะบูลี: (๑๒) ล่องแม่น้ำโขงเยี่ยมชุมชนลาวเทิง


ผมรู้สึกเหมือนขึ้นเครื่องย้อนเวลา

 คนของหัวใจ.....

ผมยังใช้เรือเร็วลำเดิม ล่องผ่านสายน้ำเกาะแก่งเส้นทางเดิม และทุกเกลียวคลื่นทุกกระแสน้ำวนทุกโขดหินที่เรือแล่นผ่าน ผมก็ยังคิดถึงคุณเหมือนเดิมครับ 

วันนี้เราไปเยี่ยมหมู่บ้านพี่น้องลาวเทิงกันนะครับ ผมแยกพี่น้องลาวลุ่ม-เทิง-สูงออกจากกันด้วยภาษาพูดครับ พี่น้องลาวลุ่มคือกลุ่มที่พูดภาษาไท-ลาว ส่วนพี่น้องลาวเทิงคือกลุ่มที่พูดภาษามอญ-เขมร และสหายชาวลาวสูงจะพูดภาษาในตระกูลจีน-ธิเบตครับ (ผมแยกตามหลักของนักมานุษยวิทยาสาขาดินและปุ๋ยนะครับ) 

หมู่บ้านที่เราจะไปวันนี้ อยู่ริมแม่น้ำโขงฝั่งเมืองนานทางตอนใต้บ้านท่าเดื่อลงไปทางแก่งใหญ่ครับ เราตั้งใจจะแวะบ้านโคกใหญ่ ห้วยหีบ ห้วยเดื่อ ห้วยซอง และสุดท้ายจะแวะบ้านพี่น้องชาวลาวลุ่มบ้านปากลานครับ ผมทำใจและเตรียมแรงเผื่อเอาไว้แล้วครับว่าวันนี้ต้องปีนป่ายตลิ่งที่สูงชันแสนสาหัสอีกครั้ง

 บ้านเรือนพี่น้องชาวลาวเทิง บ้านโคกใหญ่ เมืองนาน 

บ้านนกพิราบ 

สภาพบ้านเรือนของพี่น้องลาวเทิง ดูออกได้อย่างชัดเจนว่ามีความพอเพียง ความเรียบง่ายสูงกว่าของพี่น้องชาวลาวลุ่ม บ้านเรือนจำนวนมากยังเป็นเรือนฝาไม้ไผ่ หลังคามุงหญ้าคา รอบๆ บริเวณบ้านเรือน  มักมีเล้าข้าว คอกไก่ และบ้านนกครับ พี่น้องชาวลาวแถบนี้นิยมเลี้ยงนกพิราบไว้เป็นอาหารครับ สงสัยได้รับอิทธิพลมาจากทางจีน นี่หากว่าพาพี่น้องมาอยู่แถวท้องสนามหลวงบ้านเรา คงดักนกพิราบกันสนุกน่าดูนะคุณครับ 

ในหมู่บ้านมีสนามเปตองด้วยนะครับคุณ แสดงว่ากีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมของพี่น้องคนลาวอย่างแท้จริง เรียกว่าเข้าถึงคนทุกระดับเลยครับ 

วันนี้ตรงกับขึ้นสามค่ำ ที่หมู่บ้านพบคนนั่งคุยกันเป็นกลุ่มๆ ทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้ใหญ่ เด็ก และผู้เฒ่า ผมนึกในใจว่าคงจะมีงานเทศกาลประเพณีอะไรสักอย่าง ไม่พ้นต้องรับน้ำใจอีกหลายจอกแล้วสิหนอ แต่ไม่ใช่ครับ รอดตัวไป นายบ้านและแนวโฮมที่มาต้อนรับบอกว่า วันนี้เป็นวันค้ำ บรรดาชาวบ้านมีฮีตว่าวันค้ำนี่ต้องอยู่บ้านทำงานซ่อมแซมบ้านเรือน ทำความสะอาดบ้านช่อง เขาห้ามออกไปทำไร่ ออกไปป่า หรือออกไปร่อนทองครับ แต่ว่าจะออกไปหาปลาในแม่น้ำโขงนี่ได้อยู่ ในเดือนหนึ่งนี่พี่น้องลาวเทิงจะมีวันค้ำอยู่สามวันครับคุณ คือวันขึ้นสามค่ำ วันเดือนเพ็ญ และวันเดือนดับ

ผมว่าเป็นการดีที่ฮีตครอง ได้ช่วยให้พี่น้องได้มีเวลาพักผ่อนจากงานในไร่ มาดูแลบ้านเรือน แต่ก็ยังงงๆ ว่าพี่น้องลาวเทิงนับถือผีไม่รู้จักพระ แต่ทำไมมาอิงวันค้ำตามวันพระไปได้ ผมคงต้องหาเหตุผลดูเมื่อมีโอกาส แล้วจะเล่าให้คุณฟังครับ

 แม่เฒ่าชาวยวน นำผ้ามาแลกเปลี่ยนสินค้า 

แม่เรือนลาวเทิง นุ่งผ้าซิ่นยวน เล่าว่าเอาไก่แลกเอาเจ็ดตัว 

ที่บ้านห้วยหีบ หมู่บ้านที่ผมต้องปีนตลิ่งสูงชัน และยาวที่สุด แต่สำหรับเจ้าถิ่นแล้วดูเหมือนไม่เป็นปัญหาเลย ผมต้องหลีกทางให้เด็กๆตัวน้อยๆ แบกกระสอบทรายขึ้นจากท่า แซงผมขึ้นไปคนแล้วคนเล่า เมื่อโผล่พ้นตลิ่งสูงไปได้ ผมเห็นคนกลุ่มใหญ่กำลังช่วยกันปลูกบ้านใหม่หลังหนึ่ง รำพึงกับตัวเองว่า นี่เองประโยชน์ของวันค้ำ

มองไปในกลุ่มผู้หญิงแล้วยิ่งแปลกใจที่เห็นหลายคนนุ่งผ้าซิ่นมุกของชาวยวน นึกว่าจะได้เจอญาติชาวยวนโยนกในหมู่บ้านนี้อีก แต่ไม่ใช่ นายบ้านเล่าว่ามีชาวยวนจากฝั่งไชยะบุรีเอามาขาย เอามาแลกเปลี่ยนสินค้า 

ได้รายละเอียดกระจ่างชัดในตอนที่จะเดินลงไปที่เรือ ผมเห็นแม่เฒ่าสองคน หาบเอาถุงย่ามในใหญ่ขึ้นมาจากท่าน้ำอย่างคล่องแคล่ว นึกถึงภาพที่ตัวเองคลานขึ้นมาเมื่อครู่แล้วอดชมเชยแม่เฒ่าทั้งสองไม่ได้ครับคุณ ผมใช้เสน่ห์อ้อนผู้สูงวัยอีกครั้งได้ถ่ายรูป และได้ถามไถ่ พอทราบว่ามาจากบ้านยวนนาคูณเลยใช้ภาษาคำเมืองเจียงใหม่กันอย่างสนุกสนาน ยายเล่าว่าทำอาชีพนี้มาตั้งแต่สาวๆ ว่างจากนายายจะทอผ้าซิ่น ผ้าตาโก้ง พอรวบรวมได้แล้วยายก็จะหาบรอนแรมมาตามบ้านชาวลาวเทิงซึ่งทอผ้าไม่ค่อยเป็น บางครั้งก็ขายเป็นเงิน บ่อยครั้งก็แลกเปลี่ยนกับยาสูบ เป็ด ไก่ บางคราวก็แลกกับข้าวไร่(อันนี้หากได้มากยายขนไปไม่ไหว ลูกเสี่ยวหลานเสี่ยวก็จะขนไปส่งให้ที่บ้านยายเอง) 

ผมว่าเหมือนกับผมได้ย้อนเวลากลับไปยังยุคที่มีแต่การแลกเปลี่ยนสินค้านะครับคุณ หากเป็นเช่นนั้นจริง มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราคงลำบาก เพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยน

ก่อนกลับยายกำนัลผ้าตาโก้งสีสวยให้ผมผืนหนึ่ง บอกว่าให้เอาไปคล้องคอสาวที่ฮัก ยายบอกว่าในบุญยวนเขาทำอย่างนี้กัน (ผมรู้แล้วละว่าจะเอาไปคล้องใคร) ผมตอบแทนยายด้วยธนบัตรลาวใบละห้าสิบพันกีบสองใบ ผมว่ายังน้อยเกินไปหากเทียบกับน้ำใจ และคำอวยพรที่เหมือนได้รับจากญาติผู้ใหญ่

  หิ้งบุญคุณพ่อแม่ของชาวลาวเทิง 

พรรคพวกหมดแรงนั่งรอผมอยู่ที่ท่าน้ำบ้านห้วยซอง ปล่อยให้ผมตะกายขึ้นตลิ่งไปลำพัง เมื่อมาถึงหมู่บ้าน ผมถูกตำรวจบ้านพาไปสอบถามพูดคุยกันที่บ้านผู้เฒ่าแนวโฮม แต่ไม่มีปัญหาอะไร พี่น้องลาวเทิงกับพี่น้องโซ่ดงหลวงของผมนับเลข มวย บา ไปร ปวน คล้ายๆกัน ผมสร้างมิตรภาพได้อย่างรวดเร็ว

ผมเหลือบเห็นที่ข้างฝามีหิ้งบูชาที่แปลกตา ผู้เฒ่าแนวโฮม บอกว่าเป็นหิ้งบุญคุณพ่อแม่บรรพบุรุษ บนหิ้งมีท่อดูดเหล้าไห มีกระบวยตักเหล้าครับ เห็นแปลกดีเลยขออนุญาตเขาถ่ายรูปมาอวดคุณครับ 

คนของหัวใจ วันนี้ผมเต็มอิ่มในสิ่งที่ผ่านพบจริงๆครับ  

มื้อเย็นผมปล่อยให้เพื่อนร่วมงานชาวลาวไปเล่นผู้สาวที่ร้านปิ้งแป้(แพะ) ส่วนตัวผมกินข้าวเย็นกับคุณลุงคุณป้าเจ้าของเรือนพักหุมพัน ป้าทำเอาะหลามนกเป้าเลี้ยงอำลาผมด้วยครับ กินไปก็นึกถึงแม่ไปครับคุณ เอาะหลามนกเป้าหลวงพระบางช่างเหมือนกับแกงแคนกเจียงใหม่ที่แม่เคยทำให้กินแท้ๆ 

คิดถึงคุณนะครับ 

เรือนพักหุมพัน เมืองนาน

มังกอน ๒๕๕๑          

หมายเลขบันทึก: 162159เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2008 18:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้ว เหมือนได้ไปล่องแม่น้ำโขงอีกครั้ง

จำได้ว่า เคยล่องเรือ จากสิบสองปันนา มาที่เชียงแสน

ได้รสชาดของการล่องเรือในแม่น้ำขนาดใหญ่

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับคุณเป ลี่ ยน

               ชีวิตพวกเขาน่าสนใจครับ...คล้ายประเทศไทยเมื่อ ๓๐ ปีก่อนน่าจะได้นะครับ...สงบเงียบ มีความสุข

                                                      ขอบคุณครับ

สวัสดีครับคุณP

ขอบคุณที่มาเยือนบันทึกครับ แม่น้ำโขงกำลังต้อง การคนดูแลครับ แต่ละประเทศจ้องจะดัดแปลงแม่น้ำโขงให้เกิดประโยชน์ส่วนตน โดยละเลยคนน้อยๆที่จะต้องถูกรบกวนวิถีชีวิต ช่วยกันคิดถึงแม่น้ำโขง และผู้คนที่พึ่งพิงแม่น้ำโขงครับ

สวัสดีครับP

ผมเหมือนกับหลุดเข้าไปในโลกอดีต ที่เวลาหยุดเดินได้สักสามสี่สิบปีเชียวครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีเจ้า อา เป-ลี่-ยน

ตำรวจบ้านของบ้านเค้านี่ขยันขันแข็งดีจริงๆ นะคะ ไปบ้านไหน ก็มีตำรวจบ้าน ใครไปใครมาตำรวจบ้านก็ต้องมาสอดส่องดูแล

มาชื่นชมบรรยากาศการเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่าและภาพถ่ายคะ

ขอบคุณมากเจ้า

---^.^---

  • ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ไม่เคยไปเที่ยวเลยอยากไปมั่งจัง
  • สวัสดีครับอ้าย เป-ลี่-ยน
  • ตามอ่านบันทึกครับ
  • อาจเป็นเพราะความห่างไกล และระบบการปกครองในอดีต  ที่ช่วยรักษาความเป็นตัวของตัวเองของพี่น้องลาวเทิงไว้นะครับ
  • ตอนที่ผมคุยกับพี่น้องกะเหรี่ยงที่แม่แจ่ม  เขาก็เรียกพวกเราว่า "โยน" หรือ "โยนก" เหมือนกันเลยครับ
  • สวัสดีครับ
  • แวะมาเยี่ยม ได้ความรู้สึกดี ๆ กลับคืนมาเยอะเลยครับ
  • ขอให้มีความสุขสนุกกับการทำงานนะครับ

สวัสดีครับ

ปี้อ้ายP 

พ่อน้องไผ่P

คนงามเมืองสองแควP

หลานพิมพ์P

ขอบคุณที่มาเยือนครับ

ชุมชนลาวเทิง มีความพอเพียงสูงมากมากครับ ชอบทำไร่ เก็บของป่า แต่ไม่ถนัดปลูกผักริมน้ำโขง ร่อนทองก็ไม่ค่อยทำ

เห็นภาพคุณยายชาวยวน มาแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวขมุ พาให้นึกถึงยุคที่คนไทเริ่มเข้ามาตั้งรกรากในดินแดนของชาวขมุครับ คงได้รับการต้อนรับ และมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างนี้

สวัสดีค่ะคุณ paleeyon

อ่านตรงนี้ "ผม ว่าเหมือนกับผมได้ย้อนเวลากลับไปยังยุคที่มีแต่การแลกเปลี่ยนสินค้านะครับ คุณ หากเป็นเช่นนั้นจริง มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราคงลำบาก เพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยน " แล้วนึกถึงความคิดที่ผ่านเข้ามาในหัวครั้งหนึ่งว่า  โลกเรายามนี้ ถ้าไฟฟ้าดับ ไม่มีใช้ ... คนอย่างตัวเองคงตายก่อน 5555 เพราะไม่มีทักษะในการดำรงชีวิตแบบนี้เลย...  เห็นได้ชัดเลยนะคะว่าพัฒนาการของมนุษย์มักถูกใช้มาทำลายล้างมนุษย์กันเองเสมอ ไม่ทางตรง(แบบอาวุธ) ก็ทางอ้อม(แบบไฟฟ้ากับอาหารถุง) นี่แหละค่ะ 

ปู๋ปล๋าแลกเกลือ บ๊ะเขือแลกข้าว บ๊ะถั่วฝักยาว แลกจิ๊น
เกื้อกั๋นไปเติง น้ำเผิ้งน้ำมิ้น บ่หมีสุดสิ้น แลกมา
มีตังหน่อไม้ ใหญ่หน้อยกะหลา แลกกั๋นไปมา ล้านนาแบบเบ้า
เอาผักแลกปล๋า ครัวยาแลกข้าว ฮีตฮอยหมู่เฮา สุขล้ำ
ปี้น้องก็หลาย นั่งยายจ้วยก๊ำ แลกจิ๊แลกจ้ำ กั๋นไป
มาเถิงวันนี้ บ่มีตี้ไหน เหลียวผ่อตังใด ใจ๊เงินหมดเสี้ยง ใจ๊เงินหมดเสี้ยง.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท