เขียนถึงคนของหัวใจจากไชยะบูลี: (๘) คนตักหินตักทราย น้ำฮ้ายปลาหลาย


แม่น้ำโขงได้นำพาทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์มาให้พี่น้อง

 ถึงคนของหัวใจ

วันนี้ผมไปคุยกับคนตักทรายมาครับ จึงตั้งใจที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของพวกเขาให้คุณได้รู้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรในแม่น้ำโขงที่เอื้อประโยชน์ให้พี่น้องได้พึ่งพา แถมด้วยเรื่องราวการจับปลาอีกเรื่องหนึ่งครับ

 

เด็กสาวนักเรียนบ้านท่าเดื่อมารับเหมาตักทรายในวันหยุด

<p> แม่บ้านกำลังตักทรายขึ้นรถ เอาเรือตักหินมาขายที่บ้านโคกตม</p><p>ทรายและหินกรวดในแม่น้ำโขงกำลังเป็นที่ต้องการของคนที่อยู่ไกลจากแม่น้ำ เนื่องจากกระแสความนิยมเฮือนก่อ(บ้านก่ออิฐ)กำลังแพร่หลาย แต่ผมกลับเป็นห่วงบ้านแบบโบราณใต้ถุนสูงของพี่น้องคนลาวแล้วละสิ  ช่างเถอะเนาะคุณ เราเคยคุยกันว่าเราควรทำตัวเป็นผู้ผ่านทาง ทุกสิ่งให้มันเป็นไปตามพลวัตรของสังคมนี่นา</p><p>พี่น้องบ้านท่าเดื่อ และบ้านปากคอน ได้พึ่งพาทรัพยากรที่แม่น้ำโขงได้นำพามาให้อีกครั้ง พวกเขาได้มีอาชีพตักหินตักทรายขึ้นรถครับ ครอบครัวที่มีเรือพากันไปขนหินมาจากหาดหินทางเหนือน้ำ มาขายให้กับเจ้าของท่าทราย แม่บ้านหญิงสาวที่ไม่มีเรือรวมกลุ่มกันมารับเหมาตักทรายขึ้นรถบรรทุก เด็กนักเรียนมารับจ้างตักทรายในวันหยุด ล้วนก่อให้เกิดรายรับที่น่าพอใจทีเดียวครับ </p><p>แต่ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือทางเมืองนานสามารถเก็บภาษีจากเจ้าของท่าทรายได้ถึงปีละ ๘๐ ล้านกีบครับที่น่าชื่นชมก็คือบ้านเขายังคงกระจายรายได้สู่ชมชน โดยการไม่ใช้รถจักรมาตักทราย และไม่ใช้เรือดูดทรายครับ ในส่วนของแม่บ้าน และเด็กๆก็มีความอดทนสูงเหลือเกิน ตัวเล็กๆแต่ทำงานหนักท่ามกลางแดดกล้า และฝุ่นทราย</p><p> ขว้างแห(ทอดแห)หาปลาหน้าแก่ง</p><p>มีคนเคยบอกว่าถ้ามีน้ำมาก ปลาจะมากตาม ผมเห็นด้วยส่วนเดียวครับคุณ เพราะจากการพูดคุยกับพี่น้องแถบนี้ โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กๆแล้วพวกเธอถนัดการหาปลาในช่วงน้ำน้อยครับ โดยเฉพาะฤดูที่ปลาอพยพขึ้นเหนือในราวเดือนมีนาเมษา พวกเธอบอกว่าถือสวิงไปรอตักบริเวณหน้าแก่งวันหนึ่งได้หลายกระบุงเอาหมักทำปลาร้าไว้กินไว้ฝากพี่น้องไว้แลกข้าวแลกผ้านุ่ง </p><p>พี่น้องบอกว่าน้ำฮ้าย(หมายถึงน้ำเชี่ยวไหลแรงบริเวณแก่ง)ปลาหลาย เป็นที่หาปลาในฤดูแล้งได้มากกว่าที่อื่น ต้องมีการจับจองและผลัดเปลี่ยนกันให้อยู่ในทำเลที่ดีนี้ เป็นความรู้ใหม่นะคุณ ถือว่าเป็นด้านดีของแก่งที่ผมเกือบจะไม่รอดมาคิดถึงคุณ </p><p>หมี่พันก้วยที่เมืองนาน</p><p>ก่อนกลับที่พักผมพาคุณแวะชิม หมี่พันก้วยในหมู่บ้านที่เมืองนานครับ ถามหลายครั้งคนขาย และทีมงานก็ตอบชื่อนี้ครับ ห่อด้วยใบผักกาดขาวข้างในมี แตงกวา ขนมจีน ถั่วลิสงทอด หอมแดงทอด ผักชี และเครื่องปรุงที่ทำจากข้าวคั่วบดปรุงรสหวานนำเผ็ดเล็กน้อย  สนนราคา หกก้อนหนึ่งพันกีบครับ</p><p>วันนี้ผมกินผักสดตามคำสั่งคุณแล้วนะครับ</p><p>คิดถึงครับ </p><p>เรือนพักหุมพัน เมืองนาน</p><p>มังกอน ๒๕๕๑ </p>

หมายเลขบันทึก: 161928เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2008 18:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
อยากได้เรื่อง ไส้เดือนริมโขงนะครับ

สวัสดีเจ้า อา เป ลี่ ยน

มองดูเหมือนเป็นการทำงานที่เปลืองทรัพยากร ทั้งแรงงาน และเวลา แต่หากมองในมุมที่อาบอก หิน ทราย ก็จะถูกใช้อย่างคุ้มค่าและมีรายได้กระจายสู่ชุมชน ถ้าปล่อยให้ใช้ระบบทุนนิยมเข้ามาจัดการกับทรัพยากรเหมือนบ้านเรา  อีกไม่นานก็คง...เหมือนบ้านเรา :(

สนุกกับการเดินทางนะคะ

---^.^---

 

อาวเปลี่ยน

ยิ่งอ่านยิ่งอยากไปเดินทางในลาว มากกว่า การไปเสียบเรียบแล้วสิ

บ้านใต้ถุนสูง ป้าแดง ก็ชอบมาก อยากทำเถียงนา แต่ว่างบไม่มีเลย

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท