ตั้งแต่มีนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีการจัดสรรงบประมาณลงมาที่ CUP โดยผ่านโรงพยาบาล ในระยะแรก ๆ พวกเราที่ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ที่จะได้มีงบประมาณมาให้เราได้ทำโครงการต่าง ๆ ในระยะแรก ๆ CUP ปากพะยูน มีการจัดสรรงบ PP โดยการให้สถานีอนามัยในสังกัดเขียนโครงการเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณางบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของ CUP มีรูปแบบการจัดสรรงบ PP.เมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้วก็จะเสนอคณะกรรมการ CUP Board เพื่อพิจารณาอนุมัติ ข้อเสียคือบางสถานีอนามัยที่ไม่ได้เขียนโครงการก็จะไม่ได้รับงบประมาณ หลังจากนั้นก็ปรับรูปแบบโดยการจัดสรรตามหัวประชากร โดยจัดสรรเงินให้ก่อนแล้วเขียนโครงการทีหลัง จุดอ่อนคือบางแห่งได้เงินไปแล้วเบี้ยว ไม่เขียนโครงการ หลังจากนั้นก็ปรับรูปแบบใหม่ คืองบประมาณที่ได้รับทั้งหมด จะแบ่งเป็น 5 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 สำหรับจัดหาวัสดุ อุปกรณ์สำหรับการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคจัดสรรให้หน่วยงานในสังกัด
ส่วนที่ 2 สนับสนุนเพื่อการบริหารจัดการและติดตามประเมินผลงบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของสถานีอนามัยในสังกัด แก่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ
ส่วนที่ 3 สนับสนุนเพื่อการจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่เป็นโครงการ Top down ระดับ CUP (โครงการจากยุทธศาสตร์ของ CUP)
ส่วนที่ 4 จัดสรรให้สถานีอนามัยและโรงพยาบาล ซึ่งในส่วที่ 4 จะจัดสรรเป็น 2 ส่วนคือ
4.1 จัดสรรตามหัวประชากรในพื้นที่รับผิดชอบ
4.2 จัดสรรตามผลการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคซึ่งจะมีการกำหนด KPI และกำหนดแต้มคะแนน ปลายปี ใครทำได้เท่าไรก็จัดสรรตามผลงานนั้น ๆ
ส่วนที่ 5 กันไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อใช้สำหรับการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในภาวะฉุกเฉินระดับอำเภอ เช่นเกิดภาวะอุทกภัย เกิดโรคระบาด ฯลฯ (ซึ่งถ้าปลายปีไม่มีเหตูการณ์หรือสภาวะฉุกเฉิน กีจัดสรรเพื่อกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคตามความเหมาะสม)
แต่ละพื้นที่ คงมีรูปแบบการบริหารจัดการงบส่วนนี้แตกต่างกัน งบส่วนนี้เป็นงบที่จัดสรรเพื่อกำรดำเนินงานในพื้นที่ซึ่งจะพยามจัดสรรให้ถึงระดับพื้นที่ให้มากที่สุด เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งรูปแบบการพยายามบริหารจัดการนั้นแต่ละวิธีคงมีจุดอ่อน จุดแข็งแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบริบทของพื้นที่ ครั้งหน้าจะมาเล่ารูปแบบ จุดอ่อน จุดแข็งของรูปแบบที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่ง สปสช.ได้จัดสรรแยกเป็น PP.Fac & PP.COM ด้วย
การทำงานเชิงรุกด้วยการป้องกันและส่งเสริมนับเป็นกลยุทธที่สำคัญของการบริการปฐมภูมิที่ PCU โดยผ่านการบริหารโดย CUP ในปัจจุบันควรให้ความสำคัญและมีแนวทางการสนับสนุนที่ชัดเจน และถ้าบวกกับยุทธศาสตร์การพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน การสร้างหุ้นส่วนหรือภคีการทำงานกับองค์กรชุมชนน่าจะเป็นหนทางหนึ่งของการทำงานให้บรรลุเป้าประสงค์ครับ
ปี 2557 งบเหมาจ่่าย 288 .88 บาท เพิ่มจากปี 2556 232 .56 บาท และมีงบที่เหลือบริหารโดยสาชาเขต / จังหวัด 21. 38 บาท /คน ที่ภาคประชาชน เครือข่าย 9 ด้าน สามารถเขียนโครงการไปใช้ งบประมาณตัวนี้ได้ ในปี 2557 ช่วยกันผลักดันให้ ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสิทธิ์กัน...คัพปากพะยูน