ภาษาลูกครึ่ง?


ภาษาไทยเราร่ำรวย ไม่อับจนทางภาษา

   ภาษาลูกครึ่ง ...ครึ่งไทย-ครึ่งฝรั่ง

     พูดแล้วเก๋ เท่   จริงหรือ?

                    ผมเคยไปฟังวิทยากรท่านหนึ่ง(ขออนุญาตที่ไม่เอ่ยนาม เพราะไม่รู้จะเอ่ยไปทำไม)  ท่านบรรยายเป็นภาษาอย่างนี้ครับ

                  "โอเคครับ ถ้าท่านไปช้อปปิ้งแถวๆ เดอะมอลล์ท่าพระตอน วีคเอ็นด์จะเห็นว่าผู้คนมากมายมาซื้อของรุสต๊อกช่วง     แกรนด์เซลโดยมีพริตตี้พรีเซ้นต์สินค้าแบรนด์เนมข้างถนน ทั้งๆ ที่บริเวณนั้นรถราก็ไม่โฟลว์ ผมเสียเวลาอยู่บนแท็กซี่อยู่นานทั้งๆ ที่ผมกลับจากมีทติ้งกำลังจะไปจองตั๋วคอนเสิร์ต ในช่วงฮอลิเดย์ บอสส์ผมก็โทร.มาคอนเฟิร์มเรื่องงานว่าอยากให้    เพอร์เฟคต์ที่สุด หมดมู้ดครับ งานนี้ท่าจะเฟลครับ ครั้นผมจะกลับออฟฟิศ ไปนั่งหน้าคอมพ์ก็ขยับไปไหนไม่ได้ ลูกค้าก็โทร.มารีเควสเรื่องออเดอร์ ผมให้ลูกน้องซีร็อกซ์ก็เฟล  ลูกค้าก็อยากบินมาไฟร้ต์หน้า อยากให้ผมเช็คอินโฮเต็ลด้วย ตอนแรกกะจะเซอร์ไพรส์ผม เขาเป็นโปรดิวเซอร์ที่ค่อนข้างไฮคราส เข้าออกสปอร์ตคลับเป็นว่าเล่น งานนี้ผมคงหมดฟอร์ม ดีว่าจองเรสตัวรองท์ไว้แล้วนะครับ  นี่แหละคือบิสสิเนสที่ค่อนข้างบีซี่มากๆ "

                ฟังแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ "เวียนเฮด ปวดฮาร์ท" ไหมครับ ทุกวันนี้คนไทยใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษปนกับคำภาษาไทยอย่างคล่องแคล่ว โดยคิดว่าไม่มีคำไทยใช้  แท้จริงแล้วเรามีคำไทยใช้แต่คงขี้เกียจพูดคำไทยยาวๆ กระมัง จึงใช้ "ภาษาลูกครึ่ง" อย่างนี้ 

               ความจริงจะเป็นเรื่องจริงจัง (ซีเรียส - คำนี้ก็พูดกันมากจนติดปากคนไทยไปแล้ว)   ก็ได้ครับ เพราะเมื่อเรามีคำไทยใช้ก็ควรใช้ ใช้แล้วก็ไพเราะได้ใจความดี ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้จนพูดติดปากกลายเป็นเรื่องธรรมดาไป ความบริสุทธิ์ทางภาษาก็จะเพี้ยนเปลี่ยนไป ลองนึกดูว่าถ้าคนไทยส่วนใหญ่ใช้ภาษาลูกครึ่งต่อไปนานๆ  ก็อาจไม่มีคำไทยหลงเหลืออยู่เลยก็เป็นได้ครับ

               ท่านทั้งหลายว่าอย่างไร ?  ช่วยกันคิดหาวิธีการรณรงค์ให้คนไทยหันกลับมาใช้คำไทยดีกว่าไหม ? ใครมีความคิดดีๆ ก็เขียนมาได้ครับ

              ผมจะทิ้งปัญหานี้ไว้นะครับ ก่อนอื่นท่านช่วยหาคำภาษาอังกฤษของคำทับศัพท์ข้างบนให้ก่อนครับ เราจะได้รู้ว่าเราทับศัพท์กันอย่างไร เพื่อประโยชน์ในการเขียนคำทับศัพท์เหล่านี้ให้ถูกต้องครับ

             ต่อไปลองช่วยกันหาคำไทยมาใช้แทนคำทับศัพท์เหล่านี้หน่อย ผมคิดว่าคงไม่ยาก  เมื่อเรียบเรียงใหม่แล้วโดยไม่มีคำทับศัพท์หลงเหลืออยู่ท่านจะเห็นว่า "ภาษาไทยเราร่ำรวย" ครับ คือมีคำใช้ในภาษามากมาย "ไม่อับจน" จนต้องยืมภาษาเขามาใช้หรอกครับ

            เริ่มปฏิบัติการได้เลยครับ

             

 

หมายเลขบันทึก: 121634เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2007 00:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 11:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
ยกมือยอมรับผิดค่ะ ติดภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะใช้กับคำศัพท์เฉพาะทาง เช่น เลย์เอ้าท์ อาร์ตเวิร์ค เม้าส์ โน๊ตบุค โลจิสติก คอมพิวเตอร์ โปรแกรม อินเทอร์เน็ต เช็คอิน แท็กซี่ เมนู เช็คบิล ฯลฯ คำพวกนี้หาคำแทนให้ได้ความหมายกระชับยากค่ะ พูดคำอื่นเดี๋ยวต้องอธิบายเพิ่มอีกสิบคำจะเสียเวลาไปใหญ่

อย่างที่บริษัทถ้าจะเรียก โปรดิวเซอร์ เป็นคำอะไรแทน ยังนึกไม่ออกเลยค่ะ อาจารย์น่าจะลองทำรายการออกมาว่า คำไหนที่คนไทยติดปากเรียกเป็นภาษาอังกฤษ แล้วจับคู่ดูสิว่า...ภาษาไทยที่แปลออกมามันจะทำให้คนเข้าใจได้ขนาดไหนค่ะ หลายคนอาจจะอยากใช้แต่นึกคำศัพท์ไทยไม่ออก หรือใช้แล้วอาจทำให้เข้าใจความหมายคลาดเคลื่อนไปค่ะ

คุณ Little Jazz  ครับ

       กรณีเป็นศัพท์เฉพาะวงการที่ใช้สื่อสารเพื่อความเข้าใจในการทำงานอย่างรวดเร็วในองค์กร

       ใช้เถิดครับ    ไม่ผิดกฏิกาแต่อย่างใด  แต่กรณีใช้สื่อสารอย่างเป็นทางการกับคนทั่วไปที่มิได้อยู่ในแวดวงวิชาการ อาชีพ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจศัพท์นั้นๆ ทั้งหมด จึงมีความจำเป็นต้องใช้คำภาษาไทยที่มีอยู่

       ถ้าหาคำไทยในลักษณะเป็นคำศัพท์ หรือคำนิยามสั้นๆ ไม่ได้  ก็ให้ใช้ภาษาอธิบายยาวขึ้นสักนิดน่าจะเข้าใจได้ดีกว่า  ไม่เสียเวลาอะไรเลย  แต่กลับมีข้อดีที่เราได้รักษาคำไทยเอาไว้ได้

      คำภาษาอังกฤษหลายคำยังไม่มีการบัญญัติศัพท์ไว้ หรือบัญญัติแล้วแต่ไม่เป็นที่แพร่หลายหรือคนไทยไม่นิยมใช้ ก็ให้ใช้ทับศัพท์ไปก่อน เช่น  เม้าส์ จะใช้ "ตัวหนู" หรือ "เครื่องชี้ปฏิบัติการ" ก็ดูจะไม่เข้าท่าครับ ตกลงก็ต้องใช้ เม้าส์ กันมาจนถึงปัจจุบัน แม้แต่คำว่า "คอมพิวเตอร์" เราก็ยังใช้ติดปากอยู่ทุกวันนี้ ส่วน "อินเทอร์เน็ต"  เห็นมีคนใช้ว่า "เครือข่ายข้อมูล" ก็ดูจะเข้าท่าเหมือนกัน  ดังนั้น การจะใช้คำภาษาอังกฤษใด ก็ต้องดูว่าสามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่ ในสถานการณ์ใดควรใช้หรือไม่ควรใช้ 

       ผมจะไปค้นคว้านำมาแจ้งแถลงไขกันอีกทีครับ เรื่องนี้ต้องขยายกันอีกมาก

 

สวัสดีค่ะ พี่กรเพชร

ชอบใจบันทึกนี้มากที่สุดเลยค่ะ  แอมแปร์เคยบอกในที่ประชุมว่าถ้าใครคิดคำไทย"คำเดียว" แทนคำว่า  O.K.  ได้ จะมีรางวัลอย่างงาม 

สงสัยรางวัลจะระทึกขวัญไปหน่อย  เลยยังไม่มีใครยอมคิดให้ออกจนบัดนี้  คนถามเองก็ยังคิดไม่ออกเลยค่ะ
: )

สวัสดีค่ะ  เป็นบันทึกที่สะท้อนสังคมไทยในปัจจุบันได้ดีมากเลยค่ะ ปัจจุบันสังคมเป็นเอามาก เอาภาษาอื่นมาปนจนฟังแทบจะไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว5

น้องแอมแปร์

     O.K. แปลว่าตกลง 

     -คุณไปกับผมไหมครับ           O.K. ค่ะ

     O.K. แปลว่า   ลุยได้เลย

     - เฮ้ย! ไอ้นั่นมองหน้าข้าว่ะ  เอามันเลยไหม?

    O.K.  ได้เลย

    O.K.  แปลว่า  ยอมแล้ว

    - คุณจะยอมแต่งงานกับผมไหมครับ?

    O.K. ค่ะ

 

    O.K.  จึงแปลไปตามสถานการณ์ ครับ  ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการพูด  O.K. ไหมครับ

 

คุณ ดวงดาว ครับ

              ขอบคุณครับที่ชม

              ถูกต้องแล้วครับ  ตราบใดเรายังรับเทคโนโลยีของตะวันตกหรือต่างชาติเข้ามา ศัพท์ภาษาของเขาก็เข้ามาปะปน และถ้าไม่คิดคำภาษาไทยขึ้นใช้เรียกสิ่งเหล่านี้ เราก็คงรับภาษานั้นๆ เข้ามาใช้ จนงงไปหมดแล้วครับ

คนไทยในปัจจุบันมีการใช้ภาษาต่างประเทศมาปนกับภาษาไทยจนทำให้คิดว่าคำภาษาต่างประเทศนั้นเป็นคำภาษาไทยไปแล้ว ดิฉันคิดว่าถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ คำไทยบางคำอาจจะหายไปได้นะค่ะ

 

ผมเห็นด้วยครับเกี่ยวกับวัยรุ่นที่ใช้คำผิดๆสู้ใช้คำไทยแท้ยังแนวกว่าเลยครับผม

นายฮาบีบูเลาะ มะแซ
ผมเห็นด้วยครับเกี่ยวกับวัยรุ่นที่ใช้คำผิดๆสู้ใช้คำไทยแท้ยังแนวกว่าเลยครับผม

คุณจารุวรรณ ครับ

                เป็นธรรมชาติ ที่สรรพสิ่งย่อมมีเปลี่ยนแปรไป  เมื่อคนใช้ภาษาก็คือมนุษย์ โลกติดต่อกันก็ย่อมถ่ายทอดรับส่งถึงกันได้ ภาษาหนึ่งย่อมไปปนในอีกภาษาหนึ่งได้ หากแต่ผู้ใช้ต้องตระหนัก และรักษษถ้อยคำของตนไว้บ้าง  ไม่ใช่รับภาษาอื่นแล้วเลิกใช้ภาษาของตัว วันหนึ่งภาษาของตนก็จะหายไปอย่างที่เรากำลังห่วงกัน ฃ่วยกันหน่อยครับ

คุณ....

         เห็นด้วยครับว่า "แนว" กว่า

คุณฮาบีบูเลาะ  มะแซ

                 ทราบชื่อพอดีเลยครับ  ช่วยกันนะครับ

  • สวัสดีค่ะ ..

ต้อมเป็นเด็กบ้านนอก  ชอบอู้คำเมืองด้วย  แต่เพื่อน ๆ จะพูดภาษากลางปนคำเมือง หรือปนภาษาอังกฤษ โดยที่บางที  ต้อมว่าพวกเขาเองก็ยังไม่ทราบความหมายของศัพท์เหล่านั้นได้ถ่องแท้ด้วยซ้ำไป  เอ..หรือบางที  เพราะพวกเขาอยากจะพูดเพราะคิดว่าเท่  ก็ไม่รู้เนอะ  ^_^

 

คุณ Pต้อมครับ

            ขอบคุณมากที่เข้ามา อู้กำเมืองก่ได้ครับ แม้ผมบ่ใจ้คนเมือง แต่ก่อู้พอได้ พอปะแล้ด น่าฮักๆ ครับ แล้วผมจะเข้าไปแวะทักทายนะครับ

สวัสดีนะค่ะ

วันนี้ได้มีโอกาสได้แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน ได้ความรู้และความเพลินเพลิดไม่น้อย

ต้องขออนุโมทนาบุญด้วย ตอนนี้ทางเรากำลังเตรียมโครงการสอนภาษาไทยให้ต่างชาติ รวมถึงเด็กไทยที่เติบโตในต่างประเทศด้วย (ออสเตรเลีย) เลยเข้ามาศึกษาข้อมูล ต้องขอขอบคุณมากค่ะ คงต้องขอคำปรึกษาอีกมาก ต้องรบกวนหน่อยนะค่ะ

เห็นด้วยกับคุณฮาบีบูเลาะ ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท