การสร้างคุณธรรมจริยธรรม ธรรมาภิบาลสำหรับทรัพยากรมนุษย์ สอนโดย ดร.อรพินท์ สพโชคชัย--------------------------------------------- การอยู่ร่วมกันของสังคมมนุษย์โดยธรรมชาตินั้นจะเกิดการปรับตัวตามบริบทที่แวดล้อมกลุ่มคนภายนอก เช่น สภาพของทรัพยากรธรรมชาติ สภาพดินน้ำอากาศ สภาวะภายนอก เช่น สภาพของทรัพยากรธรรมชาติ สภาพดินน้ำ อากาศ สภาวะภายนอกนี้ไม่แน่นอนเกิดการแปรปรวนเปลี่ยนแปลงได้บางครั้งทำให้เกิดความกล้า ต่อภัยทางธรรมชาติทำให้เกิดความกลัวจากสภาวะภายนอกส่งผลไปยังสภาวะภายในคือ จิตใจ การคิด การปฏิบัติ จากส่วนบุคคลมารวมกันเป็นของส่วนร่วม ทำให้เกิดกำหนดกฎกติกา ของการอยู่ร่วมกัน มีนที่มีบุคลิกความเป็นผู้นำเกิดขึ้นจากภาวะทางธรรมชาตินั้น จึงมีคนเลือกเป็นผู้นำ ทำหน้าที่ปกครองดูแลผู้อยู่ร่วมกันในกลุ่มตามกฎกติกาที่กำหนดนั้นบทบาทผู้นำมีอำนาจมาก ก็จะกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อประโยชน์ของกลุ่มตน ทำให้ไม่เกิดความเป็นธรรมแก่กลุ่มอื่น เมื่อสังคมโลกเข้าสู่ยุควิทยาศาสตร์การเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกมีผลต่อการปกครองของผู้นำในแต่ละกลุ่ม เกิดการรวมตัวกันเป็นรัฐ เป็นประเทศ กฎกติกาการอยู่ร่วมกันเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะแวดล้อมภายนอก เมื่อโลกเป็นยุคทุนนิยมการเอารัดเอาเปรียบ เอาชนะธรรมชาติ ส่งผลต่อการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมของคนกับสิ่งแวดล้อมที่ระบบการคิดการปฏิบัติเปลี่ยนไปเป็นเมื่อผลประโยชน์ของตนเองของกลุ่มตนของประเทศตนการอยู่ร่วมกันขาดคุณธรรมและจริยธรรมส่งผลต่อปัญหาสังคม ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่แสดงให้เห็นอยู่ทั่วไปทั่วโลก จะหันมาสนใจเรื่องการมีคุณธรรม จริยธรรม การมีธรรมาภิบาล และเริ่มดำเนินการให้เป็นจริงหลังปี 2540 ที่เกิดวิกฤตฟองสบู่ โลกยุคโลกาภิวัฒน์ ทั่วโลกมีการติดต่อสัมพันธ์เข้ากันอย่างไร้พรมแดนเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกโลกหนึ่ง อีกซีกโลกหนึ่งมีผลกระทบเกิดขึ้น “ เด็ดดอกไม้กระเทือนถึงดวงดาว” วันนี้ในเรื่องเศรษฐกิจเป็นเศรษฐกิจเสรี เกิดกรรวมกลุ่มเศรษฐกิจของโลก เช่น กลุ่ม APAC กลุ่มยูโร เกิดการเปิดตัวเสรีทางการค้า (FTA) ประเทศค้ามีผลต่อคนในประเทศ การทำสัญญาต่อกันจะต้องอาศัยความมีคุณธรรมจริยธรรมความโปร่งใส ซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบกัน ซึ่งจริงๆแล้วคือการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินการนั่นเอง ดังนั้นสังคมต้องเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้เกิดการยอมรับในผลผลิตที่ไม่ทำร้ายกัน คือ ไม่ทำร้ายสุขภาพสังคม สิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องสัมพันกับการเมืองการปกครองที่จะออกกฎระเบียบที่ปฏิบัติร่วมกัน และทำตามข้อตกลงที่ทำร่วมกัน และต้องเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไม่เอารัดเอาเปรียบกน เอื้อประโยชน์ต่อตนเอง สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ให้ดังนั้นซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทำให้สิ่งที่เห็นแก่ประโยชน์ของตนโดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับผู้อื่น การผลักดันให้คนในสังคมมีคุณธรรม จริยธรรม จะเป็นเรื่องที่เป็นกระแสที่สำคัญในขณะนี้และในอนาคต การให้องค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนเป็นองค์กร ที่มีหลักธรรมภิบาลก็เป็นเรื่องทีอยู่ในข้อกำหนดทำงานร่วมกันขององค์กรต่างๆ ในองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งก็มีผลต่อการเป็น Good Governmence ขององค์กรในประเทศไทย แต่สถานการณ์ปัจจุบันขององค์กรภาคราชการในประเทศไทยยังมีภาพรวมที่สะเทือนความไม่มีความโปร่งใสตั้งแต่ระดับเล็กไปถึงระดับใหญ่ ทั้งด้านวัฒนธรรมไทยเป็นสังคมระบบ อุปถัมภ์ การขอร้องให้ช่วยเหลือ การมีสินไหมค่าตอบแทนให้แก่กันเป็นที่มาของคอคอรัปชั่นได้ ถึงแม้ว่าในวันนี้การประเมินผลการปฏิบัติราชการขององค์กรภาคราชการจะประเมินในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม การธรรมาภิบาลแต่เนื่องจากยังมีกระบวนทัศน์แบบเดิมๆ คือ ช่วยเหลือเกื้อกูลผิดเป็นถูกผิดมากเป็นผิดน้อยกันอยู่ก็ไม่สามารถทำให้คนในองค์กรแก้ใขปรับปรุงอย่างถอนรากถอนโคนได้ แต่กลัวจะเห็นตัวอย่างที่ทำผิดแล้วถูกอีกด้วยซ้ำไปอย่างเช่นการประเมินผลเลื่อนลำดับตำแหน่งต้องมีการประเมินด้านคุณธรรม จริยธรรม แต่ผู้ประเมินผลงานเป็นคนในหน่วยงานเดียวกันก็ไม่ประเมินผลตามความเป็นจริงให้คะแนนแต่ละข้อโดยไม่ได้ดูพฤติกรรมที่เป็นจริงให้คะแนนตามความรู้สึก ที่เห็นชัดเจนคือผู้ได้รับการประเมิน เมาเหล้าในเวลาราชการแท้ๆพาคนประเมินไปกินอาหารกลางวันพร้อมน้ำดื่มทีมีแอลกอฮอร์ อีกต่างหาก แต่คะแนนด้านคุณธรรมจริยธรรมก็ผ่านข้าพเจ้านึกในใจว่าให้มีการประเมินข้อนี้กันทำไม นี่คือปัญหาของการที่ไม่สามารถทำให้เรื่องคุณภาพจริยธรรมเป็นจริงได้เพราะเรื่องของการประเมินที่ผิดพลาดไม่เอาจริง ไม่ได้แก้ไขทั้งระบบ คิดดีแต่ทำไม่ถูก ซึ่งจะเห็นเช่นนี้อยู่เสมอๆ ในวงราชการ การจะทำให้คนในหน่วยงานราชการมีความคิดจิตสำนึกและปฏิบัติตนเป็นคนที่มีคุณธรรม จริยรรมนั้นขณะนี้หน่วยงานต้องดำเนินการ แต่ที่เห็นส่วนมาก คือ เชิญวิทยากรมาบรรยายให้ฟังว่าคุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาลคืออะไร มีหลักการอย่างไร ทำไมต้องทำ เป็นเช่นนี้กันทุกที่แล้วจะทำให้คนมีคุณธรรมได้อย่างไรเพราะผิดหลักการเรียนรู้ของมนุษย์ที่ต้องเรียนรู้จากการปฏิบัติการต้องการให้คนมีคุณธรรมจริยธรรมเป็นเรื่องสำคัญถ้าต้องการทำให้เกิดขึ้นอย่างจริงจัง งานสำเร็จต้อง คิดใหม่ ทำใหม่ บริหารจัดการใหม่ ให้การเรียนรู้ไม่ใช่ให้ความรู้ การดำเนินการให้องค์กร มีธรรมาภิบาล ให้คนมีคุณธรรม จริยธรรม ในประเทศโดยต้องดำเนินการให้เกิดขึ้นทุกสัดส่วน ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นเข้าระดับประเทศให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการปฏิบัติ ต้องเริ่มต้นจากการปรับกระบวนทัศน์ของคนในองค์กรต้องทุ่มเทเวลาและงบประมาณให้เกิดขึ้นในองค์กรโดยเฉพาะปรับเปลี่ยนชีวิตประเมินผลเสียใหม่ เอาจริงจังกับเรื่องกำหนด API และวัดผลตาม KPI ปรับปรุงบุคคลที่ควรจะทำการวัดผลจัดระดับของผู้ได้รับการประเมิน เช่นผู้บริหารองค์กรควรจะประเมินผลงานจากการปฏิบัติงานของคนในองค์กร สภาวะภายในขององค์กร ซึ่งขณะนี้ก็เป็นเช่นนั้นแต่ระบบอุปถัมภ์ในเรื่องการประเมินยังคงอยู่ถึงแม้จะติดเครื่องมือดี วิธีการดี ก็ควรแก้ไขได้ยากจึงต้องปรับบุคคลที่จะมาประเมินโดยไม่ใช้คนในหน่วยงานเดียวกันแต่เป็นคนที่เป็นกลางจริงๆ จึงต้องฝึกอบรมบุคคลที่เป็นผู้ประเมินอย่างจริงจังด้วย ควรแก้ไขระบบอุปถัมภ์ด้วยความรู้สึกรัก ชอบ เห็นใจสงสาร พวกกัน ออกไปเป็นเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดินต้องได้คนดีอยู่ในองค์กร จึงต้องเริ่มต้นที่การศึกษา การให้การเรียนรู้แก่คนทุกกลุ่ม ตั้งแต่เด็ก ถึงผู้สูงอายุ ผู้เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ ต้องปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง อุษา เทียนทอง