อนงค์ศิริ
รองศาสตราจารย์ อนงค์ศิริ วิชาลัย

กำลังใจ...ใครว่าไม่สำคัญ


โลกกว้างไกล

การปฏิรูปการศึกษาพยายามจะก้าวไปพร้อมกับความเปลี่ยนไปของโลก

มีคำกล่าวว่า คนที่เปลี่ยนแปลงได้ยากที่สุดมี  3  กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือพระ

กลุ่มที่สอง คือครู  กลุ่มที่สาม (กลุ่มนี้ยากที่สุด)คือ ครูของครู แฮ่ม !!

เพราะอะไร ก็ทราบกันดี  แม้กระนั้นพวกเรากลุ่มคณาจารย์กลุ่มหนึ่ง

ได้รวมตัวกัน โดยการนำของคณบดีคณะครุศาสตร์  จัดตั้งศูนย์พัฒนา

ครูและบุคลากรทางการศึกษา ขึ้นมา เพื่อเป็นศูนย์ประสานความร่วม

มือในการพัฒนาสู่ครูมืออาชีพ   โดยเฉพาะทุกคนต้องเรียนรู้ไม่หยุดนิ่ง

วิชาการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ถ้าเราไม่เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้เรา

ก็ตามติดสถานการณ์ไม่ทัน

ในยามนี้  ยอมรับและยกย่องความคิดผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.

ที่มี Vision  และขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาอย่างต่อเนื่องจากใจ

ยอมรับว่า  ตอนที่เป็นศึกษานิเทศก์ ของ สปช./สพฐ. ได้รับการพัฒนา

อย่างต่อเนื่อง  ประสบการณ์ที่สั่งสมช่วยให้มองกว้าง มองไกลและ

อยากให้สังคมการเรียนรู้เกิดขึ้น  ทุก ๆคน ทุก ๆ เวลาและทุกๆสถานที่

แต่พอโอนสัญชาติมาเป็น"ไอ้พวกโอนย้าย"  นอกจากไม่มีโอกาส

ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ รับรู้อะไรใหม่ ๆ แล้ว  มีความรู้สึกว่ากำลังดิ่งจม

ไปสู่ทะเลมืดแห่งอวิชชา  เพราะพยายามที่จะชักชวนทุกๆคนมาร่วมกัน

ทำงาน ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และรวมพลังเพื่อเป็นทรัพยากรบุคคล

อันเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนครู และบุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหาร

แต่ค่อนข้างยาก  เพราะทุกคนยังติดยึด "ตัวกูของกู" ยังมีเขามีเรา

ค่อนข้างสูงมากๆ  ตัวตน(อัตตา) นี้แหละคือ ตัวร้ายที่จะบดบังปัญญา

ศูนย์พัฒนาครูได้เริ่มเชิญชวนคณาจารย์ มาร่วมเป็นวิทยากรและวิทยา

กรเครือข่าย  เสียงตอบรับค่อนข้างพอใจ รวบรวมใบสมัครได้ร่วมร้อย

คน นี่เป็นนิมิตหมายอันดีว่า ที่จริงเราก็มีใจดวงเดียวกัน ที่อยากจะ

พัฒนา เราเริ่มต้นบริการสังคมด้วยการเป็นหน่วยฝึกอบรมอาจารย์  3 

วิชาคณิตศาสตร์   ภาษาอังกฤษ  เราจัดอบรมการเขียนแผนและการ

ออกแบบการเรียนรู้  สำหรับครู ฮอด  เราจัดประชุมปฏิบัติการออกแบบ

การเรียนรู้แบบ(Backward  Design)ให้กับคณาจารย์และวิทยากรเครือ

ข่าย และเราร่วมเป็นวิทยากรและผู้ดำเนินการการสร้างเครือข่ายสังคม

การเรียนรู้ในกับศูนย์วิทยบริการ  และ เราจะก้าว เราจะก่อ ต่อๆ ไป

 แต่ก็นั่นแหละ  ในกลุ่มอคติก็ต่อต้านทุกรูปแบบชวนมาร่วมทำงานร่วม

กิจกรรมก็ไม่มา  หรือมาร่วมแต่ก็ตีรวน  ติไปหมดทุกเรื่องที่ขวางหน้า

ไม่ต้องการเห็นความสำเร็จขององค์กร  บนพื้นฐานของการแบ่งแยก   

และดูหมิ่นดูแคลนภูมิปัญญาของคนอื่น

คนทำงานโดนบีบคั้นทุกรูปแบบ  ฝ่ายบริหารที่ควรสนับสนุน ก็ไม่ใส่ใจ

ฝ่ายจ้องจับผิดก็ออกโรงทุกรูปแบบ  ในที่สุดก็เก็บข้อมูลเพียงเสี้ยว

ไปพูดตามอคติของตน  ที่มีพื้นฐานของการเหยียดฝูง  ทำอะไร

ผิดทั้งสิ้น (กะจะไม่ให้ผุดให้เกิด)  ขวัญและกำลังใจของใครจะต้านไหว

เปลวเทียน..ที่ต้านลม  ทีมงานเริ่มมีคำถามว่า...เราจะทำไปทำไม ?

ทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย ทั้งเสี่ยง และก็  ไม่คุ้มค่ากับการนำตุ้นทุนความดี

ที่สั่งสมมาตลอดชีวิต  แลกกับการทำงานในองค์กรที่ล้มเหลวในการ

บริหารจัดการ   ทีมเริ่มส่งสัญญาณ 

บทเรียนครั้งนี้  ได้คำตอบว่า.ขวัญและกำลังใจในการทำงานสำคัญ

ที่สุด  องค์กรใดปล่อยให้คนทำงานท้อแท้  ความสูญเสีย

ประมาณไม่ได้  ??????

"ความเพียร..จะไร้ผล                    ขณะตนชะตาทราม

ยามเมื่อชะตางาม                         พิริยะเพิ่มผดุงศรี

เฉกเช่นเพาะพืชพันธุ์                     อุตุธัญสาลี

ควรเลือกฤดูดี                                เฉพาะเมื่อผดุงกาล

เพาะปลูกฤดูแล้ง                           ฤๅจะสมประโยชน์สาร

กอร์ปกิจบ่ชอบวาร                         ฤๅจะสมมโนปอง

เพียรชอบวจีกาย                            มนหมาย ณ ธรรมครอง

มาตรแม้นมิสมปอง                        ก็จะยังกุศลมูล

ชีวิตและสังขาร                              ผิมลาญมลายสูญ

ดีชั่วจะก่อกูล                                  อนุสาวรีย์เรา

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ขวัญ
หมายเลขบันทึก: 101571เขียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2007 21:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 17:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

 

เป็นกำลังใจให้นะคะถึงหนูยังไม่ได้เป็นคุณครูแต่เข้าใจความรู้สึกอาจารย์ คุณแม่สอนว่า คนเราทำดีไว้ คนนี้ไม่ตอบแทนเรา แต่คนอื่นจะตอบแทนและทำดีกับเรา ถึงไม่มีอะไรเลย อยู่ดีกินดี สุขภาพแข็งแรง อยู่ในใจลูกศิษย์ตลอดไปนะคะ

 รักและเคารพ

หนูจอยลี่

นางสาวสุธาสินี กนกไพรวัลย์

สวัสดีค่ะอาจารย์อนงค์ศิริ หนูดีใจค่ะอาจารย์ที่ได้เรียนกับอาจารย์ หนูรียนกับอาจารย์วันอาทิตย์ค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะอาจารย์

นางสาวนิตยา ทุนเกิด

สวัสดีค่ะ อาจารย์อนงค์ศิริ

หนูเข้ามาเป็นครั้งที่สองแล้วนะค่ะ

อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นค่ะ

หนูขอให้อาจารย์สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะค่ะ

จริญา สุธรรมแจ่ม รหัส 49121432

เรียนอาจารย์อนงค์ศิริ

ข้าพเจ้านางสาวจริญา สุธรรมแจ่ม รหัสนักศึกษา 49121432 สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ เรียนกับอาจารย์วันพุท วิชาการนิเทศการศึกษา

คนเราเกิดมาต่างพ่อต่างแม่ ลักษณะนิสัยที่มีจึงแตกต่างกันไปด้วยไม่ว่าจะเป็นความคิด ความอ่าน เพราะยิ่งเรียนสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งคิกว่าตนเองดีกว่า มีความรู้มากกว่า ซะงั้น ส่วนใหญ่จะคิดว่าตนเองถูกเสมอและไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น หรือผู้อื่นทำได้ไม่ดีเท่าตนเอง (ดูถูก) จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง ปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้

i am ok. You are not ok.

You are ok.i am not ok.

i am ok.You are ok.

สวัสดีค่ะ หนูชื่อ น.ส.ยุพา แสนมี่หนูเรียนวันศุกร์ เวลา 15.00-17.00น.

หนูดีใจทีได้เรียนกับครูอีกหนูได้อ่านบทความนี้แล้วเป็นกำลังใจให้ครูนะค่ะแล้วหนูก็จะมีแรงใจที่เรียนและเป็นครูที่ดีในอนาคตค่ะ ขอบคุณค่ะ

รัตนาภรณ์ พร้อมรักษา

สวัสดีค่ะ.อาจารย์

วันนี้หนูเข้าดู หลายบทความเลย แต่ละบทความต่างมีสาระที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับฉบับนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับกำลังใจ ซึ่งกำลัง

ใจเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต ในโลกปัจจุบันของเรา เพราะถ้าโลกยิ่งพัฒนาก้าวไกลไปมากเท่าใด

กำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญมากเท่านั้น

ขอบคุณอาจารย์สำหรับกำลังใจที่มีให้กับศิษย์ในวันนี้นะค่ะ.... ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท