สวัสดีค่ะ น้องเม้ง
พี่แอมป์นั่งมองภาพน้องเบิร์ดท้าวคางอมยิ้มในความเห็นข้างบนมาสามวันแล้ว .....คำตอบของเบิร์ดทำให้พี่แอมป์รู้สึกประทับใจเหลือเกิน
พี่แอมป์รู้สึกเหมือนที่น้องเม้งเคยพูดกับเบิร์ดนะคะ คำตอบของเบิร์ด จับเข้าที่ขั้วหัวใจพี่แอมป์เลย ....แล้วก็จับแน่นอยู่อย่างนั้น
มีจดหมายของเด็กๆ ที่เขียนถึงพี่อยู่สองฉบับที่เป็นแรงผลักดัน ทำให้พี่แอมป์มุ่งมั่นที่จะเป็น "ครู" ทั้งที่มาอยู่อุดมศึกษา
คำว่าอาจารย์เป็นอาชีพ แต่คำว่า"ครู" เป็นวิญญาณของเรา เป็นหน้าที่ที่เราต้องทำตลอดชีวิต (พี่แอมป์รู้สึกอย่างนั้น)
จดหมายฉบับแรก เด็กเขาเขียนเล่ายาวสามหน้ากระดาษถึงความเปลี่ยนแปลงของโรงเรียนหลังจากที่พี่แอมป์จากมา
(จากแต่เดิม ที่มีเด็กชานเมือง ในถิ่นบ้านนอกมอมแมมร้อยกว่าชีวิต มีตึกเปล่าๆ ที่ผนังยังโบกปูนไม่เสร็จ โรงอาหารไม่มี ทั้งครูทั้งเด็กต้องกินข้าวถาดหลุมรวมกันใต้ถุนตึก ที่มีกองไม้กองอิฐเป็นเฟอร์นิเจอร์ประกอบฉาก อุปกรณ์การเล่นไม่มี วันทั้งวันต้องอยู่ในโรงเรียนไปไหนไม่ได้เพราะไม่มีรถ ต้องช่วยกันเก็บ กวาด ปลูก สร้าง กันเอง ตอนเย็นต้องนั่งรถโรงเรียนปุโรทั่งกลับไปด้วยกัน)
ตอนที่จับใจมาก เด็กเขาเล่าว่าอย่างนี้นะคะ
- ตอนนี้พวกหนูโตขึ้นมากและโตไปพร้อมๆกับ รร.ด้วยค่ะ คือ รร.เริ่มมีสถานที่มากขึ้น
มีนักเรียนเพิ่มเป็นสี่ร้อยกว่าคน
- มีห้องเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร มีเกาะกลางถนน มีดอกไม้ มีสวนหย่อม รถรับส่งนักเรียนมากขึ้น อาหารการกินมากขึ้นตามจำนวนคน
- รุ่นน้องที่เข้าใหม่ตั้งเยอะ ไม่เคารพ รร.เหมือนพวกหนูเลย เขาพูดเสมอเลยว่าทำไมที่นี่กระจอกจัง ทางเข้าก็ไกล น้ำไม่ไหลบ่อย บางวันไฟก็ดับ เพื่อนของหนูได้ยินเกือบทั้งนั้นเลย
- พวกเราถือว่าที่นี่คือบ้าน ที่เราสร้างขึ้นมาให้ดีขึ้น จะมาว่ากันอย่างนี้ไม่ได้
- หนูบอกตามตรงเลยนะคะ ว่า ไม่ชอบ อาจจะเห็นแก่ตัวมากไป แต่ไม่ใช่หนูคนเดียว เพื่อนๆก็เป็น.......
-
อยากได้บ้านเก่าของเราที่เรียกว่า บ้านนอก คืนกลับมา เอาตึก เอาคน เอาแสงสีเสียงกลับไปให้หมด
- หนูรู้ว่ามันเป็นได้แค่ความฝันเท่านั้น ต้องทำใจกับตรงนั้นให้ได้ ถ้าครูมาเจอด้วยตัวเอง ครูก็จะทราบถึงความเปลี่ยนแปลง
- แต่ถ้าครูไปที่ชั้นม.2หรือที่ไหนก็ตามที่มีพวกหนูเรียนอยู่ ความทรงจำเก่าๆของครูก็จะกลับคืนมาและหนูเชื่อว่า ครูต้องมีความสุขแน่ๆเลย .......ถึงวันนั้นจะเป็นวันที่พวกเพื่อนๆและหนู ดีใจมากที่สุดที่ได้เรียนกับครูที่เป็น "ครู" จริงๆ
คืออย่างนี้นะคะ ....พี่แอมป์อ่านถึงตรงนี้ก็น้ำตาร่วงกราว ..... พี่มีโอกาสมีความสุขที่สุดในชีวิตอยู่ได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น
เด็กเขาเขียนจดหมายแบบที่เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจเราเลย ตอนที่แม่โทรฯมาบอกด้วยความดีใจว่าพี่สอบบรรจุได้โรงเรียนดีมีระดับนั้น พี่ก็ร้องแงๆ ...บอกแม่ในใจว่า เอาโรงเรียนบ้านนอกของหนูคินม๊า..า
น้องเม้งคะ น้องเบิร์ดคะ
นี่คือสิ่งที่น้องเบิร์ดพูดถึงนะคะ พี่ได้เห็นและได้ "สัมผัสเขาด้วยหัวใจ"
ในโรงเรียนบุกเบิกที่มีตึกๆเดียวและยังสร้างไม่เสร็จ
ผนังห้องยังไม่มี ลานปูนโล่งๆข้างล่าง และทุ่งกว้างข้างหลังนั่น มีครูเจ็ดคน รวมพี่ที่จบปริญญาโทใหม่ๆ (ไม่รู้ว่าการเป็นครูคืออะไรด้วยซ้ำ) อีกหนึ่งคน มีเด็กๆร้อยกว่าคน อยู่รวมกันหนุกหนานในบ้านนอกของเรา
ทุกเช้าที่เข้าแถว ครูปกครองจะให้นักเรียนมานำร้องเพลงชาติสวดมนต์ เหตุการณ์ปกติของทุกโรงเรียนเลย แต่ทำไมพี่มีความสุขนักก็ไม่รู้
พี่รู้สึกว่า นี่คือน้องเล็กๆร้อยกว่าคน "ของเรา" มังคะ พี่รักเขาหมดทุกคนเลย เห็นหน้าปุ๊บก็รักเลย
- ทฤษฎีความรู้สึกเป็นเจ้าของ ของใครอะจำไม่ได้ ที่ว่าถ้ารู้สึกเป็นเจ้าของเราก็จะรู้สึกผูกยึด เมื่อรู้สึกผูกยึดเราก็มีความสุข
ทุกวันที่เข้าสอน พี่ไม่รู้จะสอนอะไร ดิฉันจบปริญญาโทเอกไทย สอนไม่เป็น ..ฮา..
วันแรกพี่เลยเล่านิทาน วันที่สองเล่าเรื่องผี หนักๆเข้าก็ให้เด็กเล่าเรื่องตัวเอง แต่ทุกห้องต้องจับประเด็น เขียนสรุปย่อเรื่องให้ได้ แล้วมาเล่าให้เพื่อนฟัง
เธอแต่งเรื่องใหม่กันหนุกหนานเลย ทุกห้องสนุกกันถ้วนหน้า เพราะรอฮานิทานใหม่ของเพื่อน แบบที่ไม่ซ้ำใครในโลก เด็กสี่ห้องเกือบสองร้อย พี่ก็ตรวจสมุดเขากันมือหงิก เวลาตรวจ พี่ก็เขียนคุยกับเขาในสมุดด้วย เขาก็แลกกันอ่านหนุกหนาน
- ทฤษฎีกลมกลืนนี่ของใครก็ไม่รู้แหละ พี่ว่าทั้งครูทั้งเด็กจะหนุกหนานมากเลย ถ้าทำตัวกลมกลืนกันไปได้
ทุกห้องที่สอน ตอนเดินไปรอบๆห้องพี่จะโอบไหล่พวกเขา แตะแขนเขา ถ้าเขาคุยพี่ก็จะแตะสองแก้มเขาเบาๆ ถ้าเขาเริ่มหลับพี่ก็จะเล่านิทานอีก
(คือพอเริ่มคำนามคืออะไร เธอก็จะหลับกันครึ่งห้อง) ถ้าเขาปากระดาษใส่หลังเพื่อน พี่จะเดินไปเขย่ามือที่ปากระดาษ หรือทำท่าตีอย่างแรงมาก แต่แตะที่มือเขาเบาๆเท่านั้น แล้วบอกเขาดีๆว่า "น้องแมนอย่าทำเพื่อนนะลูก"
- ทฤษฎีพูดดีๆด้วยความรักจากหัวใจนั้น จะเป็นของใครก็สุดแล้วแต่เถิด แต่น่าจะทำให้เด็กรู้สึกดีกว่า "พูดร้ายๆ" ตั้งเยอะ และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ด้วย ถ้าทำให้ถูกจังหวะ
ทุกเที่ยง ครูจะนั่งทานข้าวด้วยกัน ครูปกครอง ที่ดูเหมือนดุมาก ก็จะให้เด็กที่ซนมากๆมายืนท่องหนังสือให้ฟัง ครูก็กินข้าวไป ดิชมไป เด็กก็ท่องไป น้ำปลาหมด ครูก็ใช้เด็กไปเอามาเติมให้ แล้วให้ยืนท่องต่อ
พี่แอมป์ฟังเด็กๆท่องทุกวันจนจำได้
- ทฤษฏีลูกศิษย์คือลูกหลานในบ้าน ของใครนะคุ้นๆ ตะวันออกเราเป็นแบบนี้มิใช่หรือ เราจึงมีคำว่า ศิษย์ก้นกุฏิ เราจึงสืบทอดวัฒนธรรม "ความกตัญญู" มาได้ยาวนาน...
- จนกระทั่งมาถึงวันที่ การศึกษาคือการลงทุน
(เอาเงินเป็นตัวตั้งและตัวกำหนด) นักศึกษาคือลูกค้า (เอาคุณค่าการศึกษาเป็นตัวประกัน เอาความพึงพอใจ แปลว่าถูกใจฉัน ไม่ถูกใจฉัน เป็นตัวชี้วัด) อาจารย์ก็กลายเป็นแม่ค้า.. (จ่ายมากสอนดี จ่ายน้อยไม่ค่อยสอน... ฮา)
จะเอาเงินเป็นตัวตั้งไปถึงไหนเนี่ย โอ้.... พี่ปวดใจมาก!
และทุกเที่ยงที่เด็กๆกินข้าว ครูก็จะช่วยกันกับเด็กรุ่นโตๆ ตักข้าวใส่ถาดหลุมให้น้องตัวเล็ก เหมือนในบ้านเปี๊ยบ
ทุกเย็นที่กลับบ้าน ทั้งครูทั้งเด็กต้องนั่งรถโรงเรียนคันเดียวกัน นั่งคุยกันหนุกหนาน และบางทีก็เป็นเวลาที่เด็กจะได้ปรับทุกข์ ....หัวใจเล็กๆแต่ละดวง ช่างแบกทุกข์เอาไว้หลากหลาย เรื่องใหญ่ๆทั้งนั้น ครูก็ได้แต่รับฟัง แล้วก็ปลอบใจกันไปพอให้คลายทุกข์
- ทฤษฎีปรับทุกข์กับคนที่ไว้ใจ ทำให้รู้สึกวางใจ สนิทใจ แค่เขารับฟังเราก็รู้สึกดีแล้ว เป็นการบำบัดขั้นต้นที่ช่วยลดภาระนักจิตวิทยาไปได้มาก :)
- พี่แอมป์เห็นเด็กๆเขาคุยกับครูอย่างใกล้ชิดแบบนี้แล้ว รู้สึกทึ่ง...และชื่นใจนัก เพราะตอนเด็กๆพี่แอมป์ไม่เคยเดินเข้าไปปรึกษาปัญหาชีวิตกับครูคนใดเลย.......แม้แต่คนเดียว
และเมื่อถึงบ้านใคร ก่อนจะลงต้องสวัสดีคุณครูก่อน ครูก็ยกมือสวัสดีตอบ และต่อท้ายตามประสาครู เช่น ลงรถดีๆนะลูก ระวังแมงกะไชนะ อย่าลืมล้วงเศษตังค์ล่ะ นั่น... อย่าลืมถุงซิลูก ทำการบ้านมาส่งครูด้วยนา และ พรุ่งนี้อย่าตื่นสายนะจ๊ะ
- ทฤษฎีความใกล้ชิดเป็นที่มาของความรัก ทฤษฎีทำโรงเรียนให้เป็นบ้าน ทฤษฎีครูดี(คือดีกับศิษย์ และรักลูกศิษย์)เหมือนพ่อแม่(รัก)
โอ้..บ้านๆมากเลย
พี่ได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่เบิร์ดเรียกว่า สัมผัสด้วยหัวใจ นับครั้งไม่ถ้วน
พี่ทำด้วยหัวใจทั้งหมดของพี่ ทุกครั้งที่พี่กอดพวกเขา พี่กอดด้วยใจทั้งดวง
และพี่ก็รู้สึกเหมือนที่เบิร์ดว่าจริงๆ.......
เป็นเวลาที่น่าจดจำ เป็นช่วงความทรงจำที่มีความหมายไปตลอดชีวิต......
รอยสัมผัสนั้นจะอยู่ไปตลอดชีวิต.. (อยู่ในใจพี่แอมป์นะคะ) :)
มัทนา
เมื่อ จ. 07 พฤษภาคม 2550 @ 17:06 จาก 24.83.237.223