อนุทินล่าสุด


ทุนชุมชนในภูมิภาคตะวันตก กรณีศึกษา: กลุ่มการจัดการศาลเจ้าซำซัวก๊กอ้วง
เขียนเมื่อ

ประวัติความเป็นมา

คุณเสงี่ยม แซ่ลิ้ม (หมอจุก) เป็นผู้สืบทอดตำรายาสมุนไพรมาจากบรรพบุรุษ หมอจุกเล่าว่าสูตรตัวยานั้นถูกสืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ในสมัยนั้นมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงเป็นผลให้ญาติพี่น้องเสียใจมากและไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้มยาสมุนไพรมากรอกปากผู้เสียชีวิต ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตฟื้นขึ้น จากนั้นบรรพบุรุษของหมอจุกจึงจดตำรายาไว้สืบทอดกันมาเรื่อยๆและในสมัยนั้นใช้ตัวยานี้รักษาโรคฝีต่างๆที่เกิดจากเลือดและน้ำเหลืองที่ทำงานผิดปกติ จนกระทั่งมาถึงรุ่นบิดา-มารดาของหมอจุกและต่อมาหมอจุก จึงเป็นผู้รับช่วงต่อจากบิดา-มารดาคุณเสงี่ยม แซ่ลิ้ม (หมอจุก) มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนครปฐมโดยกำเนิด ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่19 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม การรักษาผู้ป่วยเริ่มต้น คือ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์ที่อาการหนักมากเจ้าตัวคิดว่าตนต้องตายอย่างแน่นอน เมื่อไม่มีทางเลือกผู้ป่วยจึงกินยาสมุนไพรของหมอจุก ผลปรากฏว่าอาการดีขึ้นและค่อยๆหายในที่สุด และต่อมาก็เริ่มใช้ตัวยานี้กับโรคอื่นๆ เช่น เบาหวาน เกาต์ อัมพฤกษ์ อัมพาต ชาแขน ชาขา ปวดเมื่อยร่างกาย ไมเกรน ไทรอยด์ ริดสีดวงทวาร ซีส เป็นต้น เดิมทีค่ายานั้นจะขึ้นอยู่กับผู้ป่วย อาจจะให้ในราคา 50บาทขึ้นไปแต่ในปัจจุบัน เนื่องจากตัวยาบางตัวต้องสั่งซื้อมาจากต่างจังหวัด คนป่วยจึงตกลงกันว่าจะให้ค่ายาในราคาชุดละ 100 บาท แต่ถ้าคนป่วยคนใดไม่มีเงินจริงๆก็จะให้ยาโดยไม่ต้องจ่ายค่ายาเมื่อคนป่วยมีอาการดีขึ้นหรือหายจากอาการที่ตนป่วยอยู่ ก็จะกลับมาทำพิธีส่งขวัญข้าว คือ การไหว้ครู ปีละ1 ครั้ง ในสัปดาห์ที่ 1 วันพฤหัสบดี เดือนเมษายน ของทุกๆปี เครื่องบูชาครูที่ใช้ คือ ของคาวหวานได้แก่ อาหารคาวทุกชนิดอะไรก็ได้และอาหารหวานประกอบด้วย ขนมต้มขาวต้มแดง ขนมปลากริม ขนมหูช้าง(นำข้าวเหนียวมาปั้นแบนๆคลุกงาและน้ำตาล) และขนมคันเหลา(ทำเหมือนขนมหูช้างแต่ปั้นเป็นแท่งหัวท้ายแหลม)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท