เพิ่งรู้สาเหตุของอาการปวดหัววันนี้ ว่าเกิดจากกลิ่นน้ำหอมระเหยที่ฉีดอยู่ทุกวันนั่นเอง
เริ่มต้นไม่ฉีดมาสองวัน ปรากฏว่าไม่มีอาการปวดหัวเลย!
ไม่มีความเห็น
หากคุณ หรือคนที่คุณรัก ต้องเกี่ยวข้องกับ "เบาหวาน"
วันนี้..คุณเตรียมพร้อมรับมือกับมันแล้วหรือยัง?
ไม่มีความเห็น
ขอบคุณน้ำใจจากทุก ๆ ท่าน จากใจจริงค่ะ
ได้รับกำลังใจเช่นนี้แล้วรู้สึก อิ่มเอิบอย่างบอกไม่ถูกค่ะ อานิสงฆ์คงจะส่งผลให้หายเป็นปกติเร็ววัน
ไม่มีความเห็น
ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัยว่าเป็น โรคไวรัสชิกุนคุนยาหรือโรคไวรัสไข้เลือดออก สรุปว่าเป็นอย่างแรก และไหน ๆ ก็เห็นว่าไปโรงพยาบาลแล้ว ก็เลยพ่วงตรวจ pap smear ไปด้วยเลย อย่างหลังผลออกเดือนหน้า
การไปโรงพยาบาลของรัฐนี่ ค่อนข้างใช้เวลาเยอะมาก วันนี้หมดไปเลยหนึ่งวัน โดยเวลาส่วนใหญ่ 80% หมดไปกับการรอคิว
(เจาะเลือดนี่เจ็บจริง ๆ มนุษย์เราคงเป็นสัตว์โลกประเภทเดียวที่นำสิ่งของมาทิ่มแทงผิวหนังให้ตนเองเจ็บได้ หรือว่าเป็นสัตว์ที่ไม่รู้จักคิดค้น ไม่รู้วิธีการดูแลรักษาตัวเองจะดีกว่านะ) :P
ไม่มีความเห็น
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีอาการเจ็บหน้าอก และปวดข้อเท้า พยายามวิเคราะห์ว่าเกิดจากอะไร การเจ็บหน้าอกเกิดจากการขนของเมื่อวันศุกร์รึเปล่า แล้วข้อเท้าข้างที่เอ็นร้อยหวายเคยมีปัญหาเกิดกำเริบรึเปล่า ตกดึกปวดหัวมากจนต้องพึ่งพาราเซตามอล 500 กรัม
เย็นวันอาทิตย์ รู้สึกปวดที่ข้อเท้าข้างซ้ายมากขึ้นกว่าเดิม และมีไข้ต่ำ ๆ (38.5 องศาเซลเซียส) บอกตัวเองว่าห้ามเป็นชิกุนคุนยาเป็นอันขาด (สภาพทางจิตใจสั่งร่างกายได้เสมอ) จึงอาบน้ำเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย และทานพาราเซตามอลไปสองเม็ด
เช้าวันจันทร์ อาการปวดที่ข้อเท้าเริ่มดีขึ้น เจ็บหน้าอกยังมีอยู่บ้างแต่น้อยลง แต่กลับคันคะเยอทั้งตัว พบผื่นตามตัวพร้อมปะทุ เมื่อใดที่เกา ก็พากันเห่อแดงขึ้นมา เสมือนชวนกันมาเที่ยวงานตรุษจีน แต่ไม่มีอาการไข้
ตัดสินใจลาป่วย เพราะวันนี้เป็นวันขนของย้ายห้อง หากต้องขนของแบบกะย่องกะแย่งขึ้นลงบันได มีหวังข้อเท้าคงกำเริบมากกว่าเดิม แต่ที่สำคัญเป็นชิกุนคุนยารึเปล่า
กำลังใจสำคัญมาก เมื่อบอกตัวเองว่าไม่อยากนอนป่วยเพราะอุณหภูมิสูงในร่างกาย ร่างกายก็พร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคไปพร้อมกับใจ (จริง ๆ แล้วคือสมองต่างหากที่สั่ง แต่ตามประสาคนเอเซีย ใจ = สมอง) กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้
ไม่มีความเห็น
ตั้งใจว่าจะเขียน Feature Story ของสัปดาห์นี้ให้เสร็จคืนนี้ ทั้งที่ปวดหัวมาก วิ่งไปกินพาราฯ หวังว่าไม่นานยาคงออกฤทธิ์
Feature Story เรื่องนี้เป็นการกลับมาทำงานกับอาจารย์ของตัวเอง เข้าใจเลยว่า ทุกครั้งที่ไปกลับไปหาพ่อแม่ เราก็ยังเป็นเด็กในสายตาท่าน และเราก็ยังทำตัวเป็นเด็กอยู่เสมอ ๆ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน แม้เวลาจะล่วงเลยไปหลายปี แต่ยังไงศิษย์ก็ยังเป็นศิษย์ จะสัมภาษณ์อาจารย์ในรูปแบบที่ทำกับผู้ให้สัมภาษณ์คนอื่น ก็รู้สึกแปลก ๆ ก็เลยต้องคุยเล่นกันไป แล้วค่อยมาถอดข้อมูลภายหลัง แต่สิ่งที่รู้สึกมากกว่านั้น คือ วันนี้ สถานะและบทบาทเราเปลี่ยนไป เพิ่งเข้าใจคำว่า" การเปลี่ยนแปลง" กับ "ความเคยชิน" ก็วันนี้เอง
ไม่มีความเห็น
กลับมาเป็นฉันคนเก่า ที่คิดนอกกรอบ ทวนกระแสสังคม และหาเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ บนพื้นฐานของความจริง
"เพียงเพราะแค่อ่านหนังสือเล่มนึง"
ไม่มีความเห็น
Do you understand "happiness"
Now I am happy, I don't want, need, or any sorrow.
I'm satisfy with this period.
Everything keep going with me past time.
เคยเข้าใจคำว่า "ความสุข" มั้ย
ณ ตอนนี้ฉันมีความสุข ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ใด ๆ
ทุกสิ่งทุกอย่าง ณ ปัจจุบันขณะนี้ คือ "ความสุข" ที่ฉัน อยู่ และ เคลื่อนไหวไปกับการเคลื่อนที่ของเวลา
ไม่มีความเห็น
ต้องเขียน Proposal เสนอจัดตั้งเป็น Research center ของมหาวิทยาลัย ไม่ง่ายเลย เพราะตัวเองยังใหม่มากสำหรับโครงการ แต่ลองดูสักตั้ง น่าจะมันส์ดี!
ไม่มีความเห็น
นำ healthy.in.th ลงใน wikipedia แต่ผู้ดูแลระบบแจ้งว่า
"บทความนี้ได้รับแจ้งว่าขาดความสำคัญ ซึ่งเนื้อหาอาจเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องเฉพาะกลุ่มของผู้เขียน
และไม่ได้บ่งบอกว่าเรื่องนี้มีประโยชน์และน่าศึกษาสำหรับผู้อื่นอย่างไร ซึ่งมีลักษณะไม่เป็นสารานุกรม"
งงและคงต้องสร้างความเข้าใจกันอีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีความเห็น
ด้วยความที่วันนี้ขับรถแบบเหม่อถึงอดีต ตั้งแต่ล้อหมุนออกจากบ้าน มาถึงคณะจึงเผลอชนท้่ายน้องนักศึกษาเข้าอย่างจัง ดีที่เป็นการชนแบบ "แค่กระทบกระทั่ง" จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเกิดความเสียหาย
"สติ อยู่ที่ไหน"
ไม่มีความเห็น