ไม่มีความเห็น
ผมขอแยกคำถามออกเป็นข้อๆ ดังนี้นะครับ
1. ใช้ ซิลิสิค แอซิด ครั้งหนึงอยู่ได้นานเท่าไหร่ครับ
ตอบ. ซิลิสิค แอซิด ก็จะสะสมและเป็นส่วนหนึ่งอเซลล์ตลอดไปครับ เพียงแต่ว่ามีปริมาณมากหรือน้อย ถ้ามากก็สามารถจะช่วยลดการเข้าทำลายของแมลง เพลี้ย หนอน รา ไร ได้ดีครับ
2. สมมุติผมผลิตกล้วยไม้ขายแล้วซิลิก้าจะเข้าไปเคลือบดอกด้วยหรือเปล่า
ตอบ. ซิลิก้า จะสะสมทุกส่วนของพืชครับ ไม่ว่าจะเป็น กิ่ง ก้าน ใบ ราก และลำต้น (By Silicon In Agriculture) ถ้าให้ทางดิน (ภูไมท์, พูมิช, ภูไมท์ซัลเฟต, พูมิชซัลเฟอร์) ส่วนการฉีดพ่นทางใบพืชก็จะได้รับเฉพาะตรงส่วนที่ได้รับการฉีดพ่นเท่านั้น เมื่อเปลี่ยนรูปเป็น ซิลิเกต ก็จะไม่เคลื่อนย้าย
3. พวกเพลี้ยไฟไอ้ฮวบจะเข้าไปทำลายดอกได้หรือเปล่าครับ
ตอบ. พวกเพลี้ยไฟ ไอ้ฮวบ ก็สามารถเข้าทำลายดอกได้ครับ ถ้าปริมาณการสะสมของ ซิลิสิค มีน้อยแต่การทำลายจะทำได้ยากกว่าที่เซลล์ไม่มีซิลิสิค แอซิด หรือ ซิลิก้าสะสมอยู่ ยิ่งได้ใช้พวก ไทเกอร์เฮิร์บ (ผงสมุนไพร ขมิ้นชัน, ฟ้าทะลายโจร, ตะไคร้หอม, ไพร) และ จุลินทรีย์ทริปโตฝาจ (เชื้อราบิวเวอร์เรีย beauveria และ เมธาไรเซียม Metarhizium) เข้ามาช่วยผสมผสานด้วยก็จะหมดปัญหาเรื่องพวกนี้ไปได้หมดครับ
4. คือว่าขอนอกเรื่องหน่อยนะครับคือผมเห็นว่าคุณอยู่ในวงการปุ๋ย-ยามานานไม่ทราบว่ามีคนคิดสูตรปุ๋ยฉีดต้นไม้ที่ฉีดครั้งเดียวอยู่ได้นานถึง3เดือนหรือเปล่าครับถ้ามีช่วยแนะนำผมหน่อยครับ
ตอบ. ผมไม่แน่ใจว่ามีผู้ผลิตหรือไม่นะครับ แต่ตามหลักการของการปุ๋ยทางใบ เมื่อพืชได้ดูดซึมเข้าไปแล้วก็สามารถที่จะอยู่ในลำต้นได้นานอยู่แล้ว จนกว่าจะมีการ metabolism ภายในลำต้นของพืชเองก็จะถูกนำมาใช้ จะใช้สารตัวใดมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยุ่กับธรรมชาติของพืชแต่ละชนิดครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องของการตกค้างของปุ๋ย - ยาและฮอร์โมนที่พื้นผิวใบ คิดว่าจะอยู่ได้ไม่นานครับ เพราะเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม แสง อุณหภูมิ ความชื้น ค่าความเป็นกรดและด่าง คิดว่าไม่เกินอาทิตย์ก็คงจะเสื่อมสลายไปหมดแล้วครับ
5. ถ้ายังไม่มีแสดงว่าผมคงจะพยามทำขึ้นมาเป็นรายแรกคือว่าหลักการเป็นอย่างนี้นะครับที่รู้ๆกันอยู่95-99% ปุ๋ยได้ธาตุอาหารจากน้ำ o c H เพียงแค่ไม่ถึง5% ก็คือ n p k แล้วก็อาหารรอง อาหารเสริมถ้าผมเอาธาตุอาหาร 5%มาอยู่บนใบไม้ที่ผมฉีด แล้วเคลือบมันอยู่บนนั้นได้โดยไม่โดนชะล้างด้วยน้ำฝนออกไปได้พอจะเป็นไปได้ไหมครับ
ตอบ. ต้องขอโทษด้วยที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องของ "ปุ๋ยได้ธาตุอาหารจากน้ำ" ครับ แต่ถ้าพืชเคลื่อนย้ายสารอาหารโดยน้ำอันนี้คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ และโดยปรกติแล้วพืชได้รับสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ธาตุหลัก รอง และเสริม จากแหล่งต่างๆ ทั่วไปอยู่แล้วขึ้นอยู่กับชนิดของแต่ละสารอาหารด้วย เช่น อาจจะได้ ไนโตรเจน จากน้ำฝน ส่วน ไฮโดรเจน คาร์บอน ออกซิเจน อาจจะได้จากน้ำและอากาศ และอื่นๆ อาจจะได้จากดินที่มีอยู่โดยธรรมชาติอยู่แล้ว การที่จะนำแร่ธาตุหรือสารอาหารที่อยู่ในรูปของปุ๋ย หรือฮอร์โมน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ กรด หรือเกลือ ดังนั้นต้องดูว่า ความเข้มข้นมีความเหมาะสมหรือไม่เมือ่นำไปวางไว้ที่ใบพืชอาจจะทำให้ใบไหม้ได้ หรือสารที่จะมาเคลือบอยู่ในกลุ่มชีวภาพ หรือเคมีสังเคราะห์ ก็เป็นปัจจัยที่สามารถผันแปรได้เหมือนกัน....ผมอาจจะมีความรู้ในด้านนี้ค่อนข้างน้อยนะครับ อาจจะเข้าไปปรึกษากับผู้มีความรู้โดยตรงได้ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ภาควิชาเคมี ก็น่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน อันนี้ตอบจากความรู้ และประสบการณ์อันน้อยนิดเท่านั้นครับ คิดว่าน่าจะเป็นแลกเปลี่ยนเพื่อให้เกิดแนวทางหรือแนวความคิดใหม่ๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อย
6. อีกเรื่องหนึ่งการทำคีแลทโดยใช้สั้งกะสี zn กับโซเดียม edta เอาซักร้อยเท่าใช้ย้งไง อัตราส่วนเท่าไหร่ครับที่ผมใช้แต่เหล็กทำคีแลทแล้วคุณสมบัติจะเหมือนเหล็กหรือเปล่าครับคือ 1แยกจับทีละโมเลกุลทำให้สารนั้นไม่ทำปฏิกริยากับสารอื่น 2.คงรักษาสารที่มันจับไว้อยู่ในสภาพเดิม 3 จะค่อย ๆ ปลดปล่อยสารที่ตัวมันจับไว้เมื่อโซเดียม edta สะหลายตัวออกไป
ตอบ. อันนี้ต้องขอโทษด้วย ไม่ทราบจริงๆ ครับ
ขอขอบคุณคำถามที่เป็นประโยชน์และให้ความรู้มากๆ ครับ ขอบคุณครับ