หน้าแรก
สมาชิก
soonyee
สมุด
ประเทศซาอุดีอาราเบีย
เศรษฐกิจการเมืองข...
soonyee
Mr นายยาฮารี yee กาเซ็ง
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
เศรษฐกิจการเมืองของประเทศซาอุดีอาระเบีย
ซาอุดีอาระเบียกับกิจการน้ำมัน
เศรษฐกิจการเมืองของประเทศซาอุดีอาระเบีย
ซาอุดีอาระเบียกับกิจการน้ำมัน
ประเทศซาอุดีอาระเบียอนุญาตให้แปดประเทศใหญ่ของตะวันตกกลับเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อเข้ามาพัฒนาก๊าซธรรมชาติ โดยมีการลงทุนถึง 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในนโยบายเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียที่แสดงให้เห็นว่า แม้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุดีอาระเบียจะตึงเครียดอันเนื่องมาจากปัญหาอิสราเอลปาเลสไตน์ ซึ่งสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่
ซาอุดีอาระเบียก็ยงรักษาความสันพันธ์ทางยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯกับซาอุดีอาระเบียมีความสำคัญ ซึ่งเจ้าชาย
ซาอูด อัล
-ฟัยซ็อล เรียกว่า เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ โดยการตกลงได้เสร็จสิ้นลงในช่วงปลายปี แสดงให้เห็นว่าแม้ความสัมพันธ์ทางการเมืองจะไม่ราบรื่น แต่ผลประโยชน์ร่วมกันของสองประเทศก็สามารถเอาชนะความไม่ลงรอยกันในกรณียิว-อาหรับได้ อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์กับสหรัฐฯยาวนานและต่อเนื่องกว่าห้าสิบปี นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบียยืนยันว่าจะไม่ใช้ อาวุธน้ำมัน มาเป็นเครื่องต่อรองในความขัดแย้งที่มีต่อสหรัฐฯรวมทั้งยุโรปด้วย รัฐมนตรีน้ำมัน นาย
อะลี อัลนัยอะมี
ยืนยันว่าการใช้น้ำมันเป็นอาวุธเป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว ซาอุดีอาระเบียไม่ต้องการฆ่าตัวตาย อาวุธทีดีที่สุดของซาอุดีอาระเบียคือเงิน และการที่จะได้เงินมาก็ด้วยการขายน้ำมันเท่านั้น ภายในองค์การของกลุ่มประเทศส่งออกน้ำมัน นั้น สมดุลแห่งอำนาจจะว่างอยู่ที่ซาอุดีอาระเบียเป็นเบื้องตน ในฐานะผู้ผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลก
สำหรับซาอุดีอาระเบีย การสิ้นสุดการบริหารของรัฐบาลคลินตันซึ่งถูกชาวซาอุดีอาระเบียมองว่าเป็นรัฐบาลที่สนับสนุนอิสราเอลมากที่สุดมาหลายปี ได้ทำให้ความแตกแยกระหว่างซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐฯว่าด้วยราคาน้ำมันเบาบางลงไป เพราะในสมัยของประธานาธิบดีคลินตันมีการลดการผลิตโดยกลุ่ม
OPEC
และไม่ใช่
OPEC
นาย
บิล ริชาร์ดสัน
รัฐมนตรีพลังงานของสหรัฐฯถึงกับเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรแถบอ่าวของตนเพิ่มผลผลิตเพื่อทำให้ราคาน้ำมันลดลง หลังจากนั้นได้มีการพบปะกันระหว่างนายบิล ริชาร์สันกับเจ้าชาย
ซาอูด อัล
-ฟัยซ็อล เพื่อคลี่คลายปัญหาเหล่านี้สำหรับซาอุดีอาระเบียซึ่งมีความสัมพันธ์พิเศษกับสหรัฐฯ คงแก้ไขได้ แต่สหรัฐฯก็ต้องการให้ซาอุดีอาระเบียช่วยกดดันประเทศอื่น ๆ ให้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของราคาน้ำมันที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโส ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีบุช รองประธานาธิบดี นายดิกเวนีย์ รวมทั้งตัวประธานาธิบดีเอง ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้กับกลุ่ม
OPEC
ในเดือนกรกฏาคม กลุ่ม
OPEC
ได้ตัดสินใจลดการผลิตลงหนึ่งล้านบาร์เรลต่อวันนับจากวันที่ 1 กันยายน เพื่อผลักดันให้ราคากลับมาที่ 25 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และ 28 ดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับน้ำมันคุณภาพสูง ซึ่งปรากฏว่าค่อนข้างจะได้รับการยอมรับจากสหรัฐฯอเมริกา
การถลุ่มตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และตึกเพนตากอนในวันที่
11
กันยายน
สร้างความตื่นตะลึงให้กับบรรดาพ่อค้าที่ทำให้ราคาดิบพุ่งไปมากกว่า 3.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหนึ่งบาร์เรลอย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดูเหมือนจะคงที่อยู่ต่ำกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อหนึ่งบาร์เรล หากว่าสหรัฐฯจะไม่ทำการโจมตีตอบโต้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเสียก่อน นอกเหนือกจากความมั่นคงในเรื่องการส่งน้ำมันแล้ว โครงการด้านพลังงานของบุชยังมีความพยายามที่จะเพิ่มผลผลิตในประเทศและถ้าน้ำมันราคาแพงก็จะยิ่ทำให้นโยบายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนมากขึ้น นาย
สเปนเซอร์ อับราฮัม
ซึ่งดูแลด้านการพลังงานของประธานาธิบดีบุชได้ปรึกษาเรื่องนี้กับทางซาอุดีอาระเบียเรียบร้อยแล้ว และได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบียว่าจะไม่ให้ระดับราคาน้ำมันพุ่งสูงไปกว่า 30 ดอลลารืสหรัฐฯท่ามกลางการถูกวิพากษ์วิจารณ์จากโลกอาหรับโดยเฉพาะเจ้าชายอับดุลลอฮ์ และสมาชิกอื่น ๆ ตลอดจนตระกูลสุดัยรี ซึ่งเป็นครอบครัวผู้ปกครองแห่งอัลซาอูดทีแม้ว่าจะมีประเพณีนิยมสหรัฐฯ แต่ในเวลานี้ได้มองว่าสหรัฐฯล้มเหลวในการจัดการกับปัญหาอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ขณะที่ประธานาธิบดีบุชผู้เป็นบิดาได้รับการนับถือจากประเทศแถบอ่าวว่าเป็นมิตร ได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าชายอับดุลลอฮ์ในเดือนกรกฎาคมเพื่อยืนยันว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯพยายามที่จะหาทางยุติการนองเลือดที่มาจากการลุกฮือขึ้นต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากโลกอาหรับไม่เชื่อว่าความสมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯและซาอุดีอาระเบียจะได้รับผลกระทบไม่ว่าจะมีแรงกดดันมากแค่ไหนในสถานการณ์ที่แวดล้อมอยู่ก็ตาม อย่างเช่น การสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและอหร่าน เพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐฯเป็นความสัมพันธ์ทางทางยุทธศาสตร์ที่ลึกล้ำ ไม่อาจกระทบกระเทือนด้วยเรื่องอื่น ๆ ได้ ซาอุดีอาระเบียไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องกับสหรัฐฯทั้งหมด ดังนั้นแถลงการณ์ของซาอุดีอาระเบียที่มุ่งตรงต่อฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ จึงไม่ได้มาจากความเป็นปรปักษ์แต่เป็นการปกป้องสถานะของซาอุดีอาระเบียในฐานะที่เป็นผู้วางมาตรฐานแห่งโลกอิสลาม
อิสราเอลได้มีข้อสรุปเอาไว้เมื่อปี 2000 ว่า อำนาจน้ำมันของซาอุดีอาระเบียอาจคุกคามอิสราเอลอย่างได้ผลมากว่ากองกำลังทหารของโลกอาหรับเสียอีก ด้วยการบีบคับให้สหรัฐฯเลือกเอาระหว่างการยืนเคียงข้างทางการเมืองกับชาวยิวและความต้องการทางยุทธศาสตร์จากน้ำมันอาหรับ การมีความคิดเช่นนี้อยู่ในใจ จึงทำให้อิสราเอลใช้ความพยายามที่จะให้ได้มาซึ่งความสำเร็จบางประการในการโน้มน้าวให้สหรัฐฯแลเห็นว่าศักยภาพของประเทศแถบอ่าวคุกคามต่อเศรษฐกิจโลก ดังนั้น สหรัฐฯซึ่งได้รับแรงกดดันจากฝ่ายผู้สนับสนุนอิสราเอล จึงพยายามสร้างความสมดุลขึ้นในระหว่างสองฝ่ายที่เป็นปรปักษ์กันและอาจต้องทำเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ปัจจุบันอำนาจของ
OPEC
ได้ปิดม่านลงมากกว่าสามทศวรรษแล้วอยู่ในจุดที่ว่าเวลานี้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันต้องกังวัลถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของตน ราคาน้ำมันได้ตกตกต้ำลงในปี 1986 และ 1988 แสดงให้เห็นว่าเวลานรีพวกเขามิได้ควบคุมตลาดหรือรายได้ของน้ำมันอีกต่อไปซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรต้องพบกับการขาดดุลงบประมาณเป็นครั้งแรก และต้องหมดเงินไปถึง 60
พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 1990 -1991 ในสงครามอ่าว นอกจากนี้ความพยายามที่จะใช้น้ำมันเป็นอาวุธเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเมืองของประเทศผู้บริโภคก็กลายเป็นสิ่งที่ใช้ไม่ได้อีกต่อไป ความจริงเหตุการณ์ได้เปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม เพราะสมาชิกสำคัญสามประเทศของ
OPEC
คือ อิหร่าน อิรัก และลิเบีย ตกอยู่ภายใต้การแซงค์ชั่น ของสหรัฐฯ และสหประชาชาติหรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง โดยทั่วไปมีความเชื่อกันว่าภายในสองทศวรรษศูนย์กลางความสนใจในการผลิตน้ำมันโลกจะอยู่ที่รัฐในอ่าวห้าประเทศคือ ซาอุดีอาระเบีย อิรัก ออหร่าน คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จากรายงานของ
Cente for strategic and international studies Strategic Energy Initiative
ในหัวข้อ ภูมิรัฐศาสตร์ของพลังในศตวรรษที่ 21 กล่าวว่าหากว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คือ ถ้าความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 ความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุน ขณะเดียวกันอิรัก และอิหร่านจะต้องปลอดพ้นจากการถูกแซงค์ชั่น รายงานได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มที่สำคัญในระหว่างช่วงเวลานี้ได้แก่การพึ่งพิงกันระหว่างการส่งพลังงานและผู้ใช้น้ำมัน เพราะผู้ผลิตน้ำมันในอเมริกาเหนือและยุโรปจะผลิตน้อยและการผลิตในอ่าวก็เพิ่มขึ้นการส่งน้ำมันของประเทศอ่าวก็เพิ่มขึ้นเคียงคู่ไปกับการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว รายงานยังได้กล่าวอีกว่า ภายในปี 2020 รายร้อยละ 50 ของความต้องการน้ำมันของโลกจะอยู่ในประเทศซึ่งความมั่นคงภายในประเทศถูกจัดอยู่ในประเภท น่าสงสัย
ข้อตกลงของซาอุดีอาระเบียในวันที่ 3 มิถุนายน กับบริษัทน้ำมันเท่ากับปิดตายการลงทุนในภาคพลังงานของราชอาณาจักร นับตั้งแต่อุตสาหกรรมน้ำมันถูกให้เป็นของชาติในปี 1975 หลังจากเกิดสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี 1973 และการคว่ำบาตรน้ำมันที่ตามมาภายหลัง
ในการทำให้เศรษฐกิจของราชาอานาจักรมีความหลากหลายซาอุดีอาระเบียได้พัฒนาทุ่งก๊าซธรรมชาติของตนขึ้นมา 440000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับสวีเดน นับเป็นบริเวณที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับการลงทุนในด้านไฮโดรคาร์บอน บริษัทของสหรัฐฯจะเป็นหุ้นส่วนพร้อม ๆ ไปกับบริษัท
Royal Dutch/shell
บริษัท
british
และ
petroleum Philips
นอกจากนี้สหรัฐฯยังเข้าไปดูพร้อมกับอีกสองบริษัทสหรัฐฯยังเข้าไปดู โดยมีบริษัท
Exxon
พร้อมกับอีกสองบริษัทของสหรัฐฯเป็นหุ้นส่วนคือ บริษัท
Royal dutch /shell
รวมทั้งบริษัทฝรั่งเศล คือ
total-fina ELF
และ
Conoco
ของสหรัฐฯในชัยบาห์ เมืองรับ อัล-คอลี อันเป็นดินแดนที่กว้างขวางทางตะวันออกเฉียงใต้ของซาอุดีอาระเบียนอกจานนี้ยังมีโครงการที่เรียกรวม ๆ กันว่า
National Gas Initiative
เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกับบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ดำเนินการโดยรัฐมากกว่า 30 ปี
บริษัทพลังงานของสหรัฐฯต่างมีความกระตือรือร้นที่จะกลับมาที่ซาอุดีอาระเบียไม่ว่าจะป็นบริษัท ซึ่งเคยเข้ามาดำเนินการในราชาอาณาจักรจนกระทั่งถึงปี 1975 ในฐานะส่วนหนึ่งของบริษัท
Arabian American Oil
บริษัทของประเทศตะวันตกจะช่วยสร้างผลประโยชน์ให้ซาอุดีอาระเบีย อย่างเช่นการช่วยให้มีการส่งน้ำมันดิบของราชอาณาจักรได้อย่างเสรีมากขึ้น ในขณะมีการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานใหม่และสร้างงานให้กับชาวซาอุดีอาระเบีย
มุงกฎราชกุมารอับดุลลอฮ์ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคญอยู่ในการบริหารกิจการประจำวันของประเทศมากขึ้น นับตั้งแต่กษัตริย์ฟาฮัดทรงประชวรในปี 1995 โดยพระองค์ได้เตือนเพือนร่วมชาติเมื่อสองปีก่อนว่าวันเวลาแห่งความรุ่งเรืองของน้ำมันได้หมดไปแล้ว ซึ่งราชาอานาจักรไม่อาจละเลยเรื่องของโลกาภิวัตน์ได้ และซาอุดีอาระเบียก็เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ พยายามหลีกเลี่ยงการที่เกือบจะต้องพึงพารายได้เกือบทั้งหมดจากน้ำมัน ซาอุดีอาระเบียจึงกระตือรือร้นที่จะแสดงถึงการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ซึ่งจะเป็นการปูทางให้ซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมกับองค์กรการค้าโลก (
WTO
) และขยายธุรกิจเอกชนของซาอุดีอาระเบียออกไป ในปี 2000 ซาอุดีอาระเบียได้ประกาศแนวทางใหม่ที่มุ่งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติซึ่งถือเป็นการปฏิรูปในด้านนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี อิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของ
OPEC
ก็ต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในด้านอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อการสนับสนุนด้านการเงิน เพื่อความทันสมัยและการขยายตัว แม้ว่าการแซงค์ชั่นจากสหรัฐฯและการต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมภายในประเทศยังเป็นอุปสรรคอยู่ก็ตาม เช่นเดียวกับคูเวตที่มีแผนจะใช้เงิน 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อเปิดทางให้ประเทศใหญ่ ๆ เข้ามาทำกิจการน้ำมันที่บ่อน้ำมันทางเหนือ พร้อมกับยืนยันถึงความจำเป็นที่จะส่งเสริมความสามารถทางการผลิต 2.5 ล้านไปจนถึง .3.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม รัฐสภาของคูเวตกล่าวว่าโครงการดังกล่าวเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญซึ่งห้ามมิให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม บริษัทน้ำมันต่างชาติทั้งหลายจะต้องรับลิเบียและอิรักกลับมาทันที่ที่การแซงค์ชั่นของสหประชาชาติยุติลง บริษัทของสหรัฐฯ ถูกห้ามเกี่ยวข้องกับสองประเทศอันเนื่องมาจากการแซงค์ชั่น แม้ว่าเจ้าหน้าที่บางคนของรัฐบาลประธานาธิบดีบุชมีความหวังว่าผู้ผลิตน้ำมันในภูมิภาคจะเปิดกว้างให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ของต่างประเทศให้เข้ามาพัฒนากิจการน้ำมันมากขึ้น ซึ่งจะมีผลอย่างลึกซึ้งต่ออนาคตทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์กับตะวันตก ที่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงทางพลังงานที่จะเพิ่มมากขึ้นในทศวรรษหน้า(จรัญ
มะลูลีม อ้างถึงใน วัชรินทร์
ยงศิริและคณะ. 25
45 :
34
3-346
)
ได้มีรายงานเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม
2001
ว่าคณะรัฐมนตรีได้ให้การยอมรับงบประมาณสำหรับปี 2002 โดยงบประมาณค่าใช้จ่ายอยู่ที่ให้เกิดความมั่นคงต่อฝ่ายใด ๆ สภาแห่งรัฐอาหรับจึงมีความคิดดังต่อไปนี้
1.
เรียกร้องให้อิสราเอลพิจารณานโยบายของตนและประกาศว่าสันติภาพที่ยุติธรรมนั้นเป็นข้อเลือกทางยุทธศาสตร์ด้วยเช่นกัน
2.
ข้อเรียกร้องที่มีต่ออิสราเอลเป็นการยืนยันว่า
I.
จะต้องมีการถอนทหารทั้งหมดออกจากดินแดนที่อิสราเอลเข้ายึดครองตั้งแต่ปี 1967 รวมทั้งดินแดนที่ราบสูงโกลันตามเส้นเขตแดนที่ได้กำหนดในเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 1976 รวมทั้งดินแดนบางส่วนของเลบานอนที่ยังถูกยึดครองอยู่ทางภาคใต้
II.
เพื่อใหได้มาซึ่งมติที่ยุติธรรมต่อปัญหาผู้อพยพปาเลสไตน์ โดยจะต้องมีการตกลงกันตามมติที่ 194 ของสมัชชาแห่งสหประชาชาติ
III.
การยอมรับการสถาปนารัฐเอกราชปาเลสไตน์ในดินแดนของชาวปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองมาตั้งแต่ วันที่ 4 มิถุนายน
1976 ทั้งชายฝั่งตะวันตกและฉนวนกาซาโดยมีเยรูซาเล็มเป็นเมือหลวง
3.
หลังจากนั้นประเทศอาหรับก็จะยืนยันถึงข้อเสนอดังต่อไปนี้
I.
พิจารณาถึงการสิ้นสุดของความขัดแย้งอาหรับ-อิสราแอล และเข้าสูข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอลโดยการให้ความมั่นคงแก่ทุก ๆ รัฐและทุก ๆ ภาค
II.
สถาปนาความสัมพันธ์ขั้นปกติกับอิสราเอลในบริบทของสันติภาพที่ครอบคลุม
III.
เรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลและประชาชนอิสราเอลทุกคนยอมรับข้อเสนอนี้เพื่อที่จะรักษาไว้ซึ่งความหวังแห่งสันติภาพและหยุดยั้งการหลั่งเลือดต่อไป และทำให้ชาวอิสราเอลอยู่อย่างมีสันติภาพ เป็นเพื่อนบ้านที่ดี และทำให้คนรุ่นต่อมามีอนาคตมีความมั่นคงปลอดภัยและรุ่งเรือง
IV.
เชิญชวนชุมชมนานาชาติจากทุกประเทศและทุกองค์กรให้สนับสนุนข้อเสนอนี้
V.
เรียกร้องให้ประธานในที่ประชุมตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาซึ่งประกอบด้วยสมาชิกของรัฐที่เกี่ยวข้องและเลขาธิการของสันนิบาตแห่งรัฐอาหรับที่จะร่วมกันสนับสนุนข้อเสนอนี้ออกไปในวงกว้างในทุกลำดับขั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหประชาติ คณะมนตรีความมั่นคง สหรัฐอเมริกา สหพันธรัสเซียรัฐมุสลิมและสหภาพยุโรป
เขียนใน
GotoKnow
โดย
soonyee
ใน
ประเทศซาอุดีอาราเบีย
คำสำคัญ (Tags):
#น้ำมันซาอุดี
หมายเลขบันทึก: 98101
เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2007 16:28 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:01 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (1)
ำพำ
เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2009 11:39 น. (
)
thank verymuch
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
soonyee
สมุด
ประเทศซาอุดีอาราเบีย
เศรษฐกิจการเมืองข...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท