การบริหารเวลา วันนี้บังเอิญได้อ่านบทความของ ดร.สุทธิวรรณ จันทรภูมรินทร์ ก็เลยเอามา ให้เราๆ ท่านๆลองอ่านกันดู..ดูซิว่าคุณบริหารเวลาดีแล้วหรือยัง...
ดร. เล่าว่า.. เวลาเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่ง ที่ติดตัวคนมาตั้งแต่เกิด คนเรามีเวลาคนละ 24 ชั่วโมงต่อหนึ่งวันเท่า ๆ กัน แต่คนทำงานจะประสบผลสำเร็จหรือมีประสิทธิผลได้ไม่เท่าเทียมกัน บางคนยิ่งทำยิ่งยุ่ง ยิ่งทำยิ่งมีงานเยอะมากขึ้น จนหน้าดำเคร่งเครียดแล้วก็ทำอะไรไม่สำเร็จอย่างน่าพอใจสักอย่างเดียว บางคนทำงานไปสบาย ๆ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยด้วยดีตามสมควร มีความสุขในการทำงาน มีเวลาให้ทุกอย่างแม้แต่การหาความสำราญได้อย่างสบายใจ คนทั้งสองประเภทอาจมีงานที่จ้องทำหรือมีเรื่องที่ต้องยุ่งพอๆกัน แต่คนหนึ่งรู้จักบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ แต่อีกคนไม่ได้ทำเช่นนั้น แล้วท่านล่ะ บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพแล้วหรือยัง ? ลองอ่านแนวความคิดที่จะบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ เผื่อจะมีเวลาไปบริหารบุคคล บริหารเงิน บริหาร... ทุกสิ่งทุกอย่างให้มันดียิ่งขึ้นด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
1. วางแผนเวลาของท่าน ถามตัวท่านเองว่าอะไรที่ท่านหวังว่าคงจะทำสำเร็จในตอนปลายสัปดาห์หรืองานประจำวันทุกเช้าเมื่อมาถึงสำนักงาน ลองแยกประเภทงานที่ต้องทำออกเป็น 3 ประเภท คือ
¤ งานเร่งด่วนที่ต้องทำทันที เช่น การลงชื่อในเอกสาร การโทรศัพท์นัดหมาย การเข้าประชุม
¤ งานประจำวัน เช่น การติดต่องาน งานพิมพ์เอกสาร งานบรรยายสอนหนังสือ
¤ งานที่รอได้ เช่น การเขียนรายงานต่าง ๆ งานจัดเอกสารเข้าแฟ้ม
2. ทำงานที่ละเรื่อง ตามลำดับความสำคัญมากที่สุดพัฒนานิสัยว่าเมื่อท่านเริ่มต้นทำอะไร จงทำให้เสร็จเรื่อง อย่ากระโดดข้าจากสิ่งหนึ่งไปสิ่งอื่น ละทิ้งสิ่งที่ไม่สำเร็จอยู่เบื้องหลังท่าน
3. กำหนดตารางเวลา ที่ใช้ในการทำงานแต่ละวันว่าเมื่อวานนี้ เมื่อวันก่อนใช้เวลาทำอะไรบ้างไม่ว่าจะเข้าประชุม เขียนรายงาน สอนหนังสือ ท่านอาจพบว่าวันหนึ่งๆจะหมดไปเพราะการประชุม การพูดคุย การดื่มกาแฟ การอ่านรายงาน บันทึกตารางเพื่อวิเคราะห์การใช้เวลาของท่านและติดนิสัยที่ไม่ดีในการใช้เวลาไปจากชีวิตท่าน เมื่อท่านได้เขียนตารางการวางแผนการใช้เวลาส่วนตัวของท่านแล้ว ท่านก็ควรจะให้ผู้ร่วมงานของท่านได้รับรู้นโยบายที่เกี่ยวกับการวางแผนการใช้เวลาของท่าน แต่จงจำไว้ “งานเป็นเพียง นโยบาย เท่านั้น นโยบาย เป็นเพียงแนวทางและสามารถจะเปลี่ยนแปลงได้” ถ้าท่านมีแขกที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากและต้องการจะมาพบท่านในช่วงตอนเช้า ซึ่งอาจจะเป็นเจ้านายของท่านเอง ท่านก็อาจต้องละเมิดนโยบายของท่านเป็นบางครั้ง แต่ท่านจะชินกับนิสัยที่จะกำหนดการรับแขก การจัดการประชุม การอ่านจดหมายหรือเอกสารต่าง ๆ ให้เข้ากับตารางเวลาที่กำหนดไว้แล้วของท่านอย่างรวดเร็ว
เราจะมาลองดูตัวอย่างตารางเวลาที่ใช้ไป..
ผู้บริหารอาจจะมีนิสัยในการมาถึงที่ทำงานตอน 8.00 น. และใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการจัดงานหรือประสานงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นั่นหมายถึงการตรวจดูงานที่ยังตงค้างอยู่ รวมทั้งการถ่ายเอกสารให้แก่ผู้ร่วมงานคนสำคัญหรือทำงานบางอย่างตามที่คิดเอาไว้ จากนั้นก็ทำการตรวจสอบแฟ้มติดตามงานดูว่างานหรือโครงการอันไหนที่จะต้องทำให้เสร็จในวันนั้นหรืออาจจะใช้เวลานี้ในการตรวจสอบตารางการทำงานประจำวัน และทำความคุ้นเคยกับงานที่จะต้องทำต่อไป
ต่อไปก็จะถึงเวลาที่ปราศจากการรบกวนหรือชั่วโมงอันเงียบสงบ ระหว่าง 09.30 น. - 10.30 น. ซึ่งช่วงเวลานี้จะใช้สำหรับการทำงานสำคัญที่ได้รับการวางแผนมาก่อนแล้วในช่วงเวลานี้และพยายามที่จะไม่เข้าไปรบกวน โทรศัพท์ที่เรียกเข้ามาจะต้องได้รับการตรวจสอบและถ้ามีการรบกวนก็จะต้องมีน้อยที่สุด เพราะว่านี่เป็นชั่วโมงการทำงานที่ผู้บริหารจะสร้างงานได้มากที่สุด
จากช่วงเวลา 10.30 น. - 12.00 น. ท่านอาจจะมีแขกหลายคนที่นัดหมายไว้ นอกจากนี้ยังต้องตอบโทรศัพท์หรือติดต่อไปยังที่งอื่น ๆ พบกับผู้ร่วมงานหรือทำงานประจำเล็ก ๆ น้อย ๆ และถ้ายังมีเวลาเหลือก็อาจจะทำงานสำคัญที่ยังเหลืออยู่
จากช่วงเวลา 12.00 น.- 12.30 น. ก็มานั่งอ่านจดหมายต่าง ๆ หรือทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เดินเล่น ทำความสะอาดซอกมุมโต๊ะต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงบ่ายและหลังจากนี้ก็เป็นช่วงเวลารับประทานอาหารกลางวัน
สำหรับช่วงเวลา 2 ชั่วโมงต่อไป ก็จะดูถึงเวลาที่ใช้ไปในการทำงานที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้พลังงานมากนัก
ในช่วงเวลาตอนท้าย ๆ ของวันก็จะเป็นการพบปะจัดประชุมกับ ผู้ร่วมงานหรือให้คำปรึกษากับพนักงานแต่ละคนหรืออาจจะกำหนดงานที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้น จัดตารางงานที่ต้องทำให้เสร็จและวางแผนสำหรับการทำงานวันต่อไปช่วงตอนบ่าย
ท่านอาจจะต้องทดลองดูบ้างก่อนที่จะคุ้นเคยกับการวางนโยบายเวลา ลองมาพิจารณาดูว่าช่วงเวลาไหนที่ท่านจะทำงานได้มากที่สุด และช่วงไหนที่ท่านจะรู้สึกเฉื่อยชา จงทำการตรวจสอบและปรับปรุงนโยบายเวลาของท่านทุก ๆ 2-3 เดือน เพื่อดูว่าท่านจะสามารถเปลี่ยนแปลงเวลาเพื่อทำให้ท่านมีประสิทธิภาพสูงขึ้นหรือไม่
4. ลดสิ่งที่ทำให้เสียเวลาด้วยการเขียนแผนแต่ละสัปดาห์ ถ้าจะให้ดีควรมีแผนการ 2 ส่วน
- ส่วนหนึ่งเป็นรายการตายตัวแน่นอนต้องทำ เช่น การนัดหมาย การประชุม
- ส่วนหนึ่งเป็นเป้าหมายที่คิดว่าจะทำในแต่ละวัน เช่น การตรวจสำนักงาน การสรุปรายงาน การทำรายการล่วงหน้าจะช่วยกำจัดเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ได้ ในชีวิตของท่าน
5. การแบ่งงาน ลองถามตัวเองว่า
- งานนี้แบ่งให้ผู้อื่นทำได้บ้างหรือไม่ ทำไมท่านต้องทำคนเดียว
- งานนี้รีบด่วนหรือสำคัญเพียงใดงานเร่งด่วนอาจไม่สำคัญ ไม่ต้องทำเช่น ตอบจดหมาย ปฏิเสธการไปร่วมงานกฐินทอดผ้าป่า แต่งานสำคัญอาจไม่เร่งด่วนต้องทำ
6. กำหนดเวลาแล้วเสร็จของงานแต่ละชิ้น ให้แน่นอน กำหนดขอบเขตเวลาของงานทุกอย่างที่ท่านรับมา และใช้เวลาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ครั้งแรกท่านจะไม่ต้องสงสัยเวลาที่จะทำมันอีก
7. รู้จักปฏิเสธคำขอร้องของผู้อื่นบ้าง เพื่อที่ท่านจะได้มีเวลาเป็นของตนเอง ถ้าเป็นเรื่องเดียวกับงานต้องอธิบายให้เข้าใจว่าเหตุที่ปฏิเสธงานนี้ เพื่อเอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นที่ให้ประโยชน์มากกว่า
8. รู้จักใช้โทรศัพท์ติดต่อ ลองจดเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องติดต่อบ่อย ๆ ไว้ให้เป็นระเบียบใช้โทรศัพท์แทนการเดินทางไปพบปะติดต่อถ้าทำได้
9. รู้จักหาชั่วโมงที่เงียบที่สุดในแต่ละวัน หาชั่วโมงที่ไม่มีการขัดจังหวะสำหรับงานที่สำคัญที่สุดของท่าน และจงแน่ใจว่าชั่วโมงแรกของการทำงานจะมีประโยชน์มาก
10. จัดเก็บเอกสารบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ เพื่อช่วยให้เริ่มทำงานได้อย่างดีในวันรุ่งขึ้นและควรใช้เวลาเล็กน้อยก่อนเลิกงานในตอนเย็นวางแผนการทำงานสำหรับวันรุ่งขึ้นไว้ล่วงหน้า แนวความคิดการบริหารเวลาที่พูดมานั้น เป็นการบริหารเวลาเพื่อผลประโยชน์ของงาน แต่ ชีวิตเป็นของท่านเองไม่ใช่ของงานทั้งหมด ดังนั้น ท่านอย่ามุ แต่งานเพียงอย่างเดียว ควรให้เวลากับตัวเองบ้าง
ท่านควรใช้เวลาสำหรับอะไรบ้าง
J ใช้เวลาเพื่อสุขภาพ เช่น การออกกำลังกาย เล่นกีฬา ฟังธรรม นั่งสมาธิ ฯลฯ
J ใช้เวลาเพื่อครอบครัว ต้องมีวันหยุดงานทุกอย่างเพื่อได้ร่วมกิจกรรมกับครอบครัวอันเป็นที่รัก
J ใช้เวลาเพื่อสังคม ต้องมีเวลาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนกับญาติ งานบุญ งานบวช งานศพ งานวิวาห์ กันบ้าง ดังนั้น ทุกท่านควรจะถามตนเองอยู่เสมอว่าควรจะใช้เวลาตอนนี้ทำอะไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ”
แก้ไข : 18/05/50 08:19
เป็นประโยชน์อย่างมากค่ะ เขียนบ่อย ๆ นะค่ะ
ขอบคุณคุณมะปรางเปรี่ยว..แล้วจะนำมาลงบ่อยๆ
ขอบคุณที่มีสิ่งดีๆมาแบ่งปัน
ขอบคุณครับ