วันนี้ขอหยิบยกเรื่องราวจากเวที คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุข จังหวัดนครศรีธรรมราช ถือว่าเป็นจังหวัดนำร่องในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข เป็นงานที่รัฐบาลมอบความหวังดีต่อประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอโครงการเพื่อของบประมาณไปต่อยอด หรือพัฒนาให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งอย่างถาวร เป็นงานที่ต่อเนื่องมาจากการลงไปเคลื่อนงานจัดการความรู้ (KM) กับชุมชนก่อนหน้านี้ เสมือนเป็นการเตรียมความพร้อม และติดอาวุธทางความรู้เกี่ยวกับการสร้างกระบวนการกลุ่ม ให้ชุมชนสามารถคิดและแก้ปัญหาในชุมชนได้ โดยรัฐบาลได้กำหนดกรอบการเสนอโครงการไว้ 5 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้านพัฒนาและสร้างโอกาส ด้านการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน ด้านการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ และด้านการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จังหวัดนครศรีธรรมราช
เมื่อคณะกรรมการเริ่มพิจารณาโครงการพบว่า ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานมากกว่าโครงการที่ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง ทำให้เกิดความเป็นห่วงว่าจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเรื่อง ผู้ใหญ่ลี เมื่อผู้ใหญ่ลีรับวาระมาจากทางการ แล้วนำมาตีความว่า สุกร คือ หมาน้อย เพราะฉะนั้นการประสานงานระหว่างผู้ประสานงานของภาครัฐกับชุมชน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐกับชุมชนไม่มีความเห็น