ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวว่าเจ้าตัวน้อยเกิดมา ผมไม่ได้รู้สึกดีใจจนแสดงออกเหมือนในหนังที่เราเคยดูเลย
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกดีใจลึกๆ สุขใจกับชีวิตใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น และที่สำคัญนั้นคือความรู้สึกรับผิดชอบต่อชีวิตน้อยๆนี้ในวันข้างหน้า
สิ่งที่ผมทำคือการทบทวนความรู้ ความคิดของตนเองต่อการดูแลลูกตั้งแต่การตั้งครรภ์ การดูแลหลังคลอดและวัยต่างๆ หนังสือจำนวนมากถูกซื้อมาและอ่าน ทบทวนความรู้ความคิดตนเองและแสวงหาความรู้ที่ดีๆและคิดว่าเป็นประโยชน์กับชีวิตน้อยๆนี้เสมอ
สิ่งที่สำคัญเมื่อทบทวนไปแล้วมีหลายอย่างดังนี้
-อารมณ์ความรู้สึกของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ที่ต้องดี ยิ้มแย้มเสมอ ไม่ให้เครียด คือจะพูดดี กระทำดี เอาใจ ให้กำลังใจ และคอยสอบถามเสมอๆ
- ภาวะโภชนาการ กินสิ่งที่ดี มีประโยช์และมีคณค่าทางอาหาร และที่สำคัญคือกินสิ่งที่คุณแม่อยากกินด้วยครับ
- การดูแลและให้ความสัมคัญของทารกในท้องขณะตั้งครรภ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสัมผัส การพูดคุยทักทาย ทำให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ โมสาร์ท เอฟเฟค.... เชื่อไว้ก็ไม่เสียหลาย เลยลองเปิดเพลงกลุ่มนี้ให้ฟัง ช่วงที่เชื่อว่าหูเริ่มได้ยินก็เล่านิทานทุกวันคืนครับ
สุดท้ายสิ่งที่เราทำ วันนี้หลังคลอดมา 15 เดือนก็ได้ผลอย่างน่าพิศวงมากครับ เด็กที่เกิดมาเป็นกลุ่มที่เลี้ยงง่าย ไม่งอแง กินง่าน นอนง่าย ขับถ่ายปกติ ไม่ร้องกวน เรียนรู้ได้รวดเร็ว อารมณ์ดี ยิ้มแย้ม และที่สำคัญสุขภาพแข็งแรงมากครับ...
ดีจังเลยค่ะคุณหมอ kmsabai ที่น้องไม่งอแง กินง่าน นอนง่าย ขับถ่ายปกติ ไม่ร้องกวน เรียนรู้ได้รวดเร็ว อารมณ์ดี ยิ้มแย้ม และที่สำคัญสุขภาพแข็งแรงมาก ยินดีด้วยค่ะ ตอนนี้หลานที่บ้าน ๒ คน คนหนึ่ง ๓ ขวบกว่า อีกคนประมาณ ๒ ขวบนิดๆ ก็เริ่มเห็นพัฒนาการทางจริตที่แตกต่างกันชัดเจนแล้วค่ะ แปลกนะคะ ส่วนทางร่างกายก็แข็งแรงทั้งคู่ค่ะ ฉลาดทั้งคู่แต่คนละแบบค่ะ..
ขอคุณอาจารย์ทั้งสองท่านครับ
ความสุขที่อยู่กับเด็กและลูกๆนั้นมีเสมอนะครับ
ผมว่าคนที่ไม่ได้เลียงเองคงจะขาด หรือไม่ได้สัมผัสตรงนี้พอเพียงก็น่าเสียดายมากๆครับ