ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2483 เป็นคนกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา จบปริญญาตรีและโท สาขา
ประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นเป็นอาจารย์ประจำสาขาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนไปศึกษาต่อปริญญาเอก สาขาประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา และกลับมาเป็นอาจารย์ที่เดิม จนได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ และเข้าโครงการลาเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดใน พ.ศ. 2543
หลังจากสิ้นภาระการสอนในระบบมหาวิทยาลัยปกติ ปัจจุบัน อ.นิธิ ยังคงเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการแสดงความคิดสู่สังคมผ่านมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซึ่งได้บุกเบิกมาก่อนหน้านี้แล้ว และผ่านรูปแบบบทความทางหนังสือพิมพ์ นิตยสารอยู่เป็นประจำ
อ.นิธิ ได้เริ่มเขียนหนังสือและบทความตั้งแต่สมัยเป็นนิสิตในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมาเขียนอย่างจริงจังในปี พ.ศ. 2519 จนถึงปัจจุบัน มีผลงานกว่า 2,000 ชิ้น และได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือหลายสิบเล่ม เช่น ปากไก่และใบเรือ (2527) กรุงแตก พระเจ้าตากและประวัติศาสตร์ไทย (2538) โขน-คาราบาว-น้ำเน่าและหนังไทยว่าด้วยเพลง-ภาษาและนานามหรสพ (2538) ชาติไทย-เมืองไทย,แบบเรียนและอนุสาวรีย์ (2538) ผ้าขาวม้า-ผ้าซิ่น-กางเกงใน (2539) ลัทธิเสด็จพ่อร.5 (2545) ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังมีผลงานวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่เด่น ๆ อีกมากมาย เช่นประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ในราชพงศาวดาร อยุธยา (2521) การเมืองในสมัยพระนารายณ์ (2522) สุนทรภู่มหากวีกระฎุมพี (2524) การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี (2529)
ผลงานของ อ. นิธิ ตลอดกว่า 3 ทศวรรษ มากมายไปด้วยเรื่องความไม่เข้าใจของคนในสังคมที่แบ่งชั้น วรรณะ การเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งอาจารย์พยายามสะท้อนและชี้ออกมาอย่างกระจ่างแจ้งและเป็นธรรม
ต่อมา อ.นิธิ ได้รับรางวัล "ศรีบูรพา" ประจำปี 2545
โดย คุณสุวัฒน์ วรดิลก ประธานคณะกรรมการกองทุน กล่าวยกย่องว่า
"ความสำคัญของศ.ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์ คือ การใช้ปากกา และความเป็นนักเขียน และนักวิชาการ มาชี้ให้เห็นความสำคัญของสามัญชน โดยย้ำว่า สามัญชนคือผู้สร้างประวัติศาสตร์ที่แท้จริงทั้งในประวัติศาสตร์ และในปัจจุบัน
ด้วยความเชื่อนี้จึงได้ร่วมกับคณาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อตั้งสมัชชานักวิชาการเพื่อคนจน และมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน รวมทั้งสำนักข่าวประชาธรรม เพื่อสนับสนุนสร้างความเข็มแข็งและเป็นปากเป็นเสียงให้กับสามัญชน หรือคนยากจนทั่วประเทศ ซึ่งถูกโครงสร้างที่ไม่เท่าเทียมกันของสังคม ปิดกั้นโอกาสด้านการศึกษา การรับรู้ข่าวสาร และการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจและทางการเมืองอย่างเท่าเทียมกับอภิสิทธิ์ชน
ผลงานเหล่านี้จึงเป็นการพิสูจน์ความเชื่อในข้อเขียนของท่านในการเสริมบทบาทสามัญชน ให้เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ที่แท้จริงในวันนี้สำหรับประชาชนในวันข้างหน้าได้ศึกษา"
อ.นิธิพูดถึงความรู้สึกกับรางวัลนี้ว่า "จริง ๆ แล้วผมต้องพูดเลยว่าผมภูมิใจครั้งหนึ่งในชีวิตเลยเพราะว่าชื่อของรางวัลคือ ศรีบูรพา การที่เป็นนักเขียนแล้วได้รับรางวัลในชื่อของศรีบูรพา เป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ เลย"
สำหรับผู้เขียนไม่รู้จัก อ. นิธิ เป็นการส่วนตัว แต่รู้จัก อ.นิธิ ผ่านบทความทั้งจากหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ Pocket Book เวทีเสวนาต่างๆ มานานนับสิบปี ผู้เขียนติดตามผลงานของ อ.นิธิ อย่างสม่ำเสมอ และยังได้ติดตาม อ.นิธิ ไปในเวทีเสวนาสัมมนาต่างๆ ตามแต่วาระและโอกาสจะอำนวยแต่ทุกครั้งที่ได้ฟัง อ.นิธิ พูดในเวทีต่างๆ จะรู้สึกอิ่มเอมใจ เสมือนน้ำที่รดปัญญาของผู้เขียนให้งอกงามขึ้นทุกครั้งไป
อ.นิธิ มีความเชี่ยวชาญและรอบรู้อย่างลึกซึ้งในหลายศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นปรัชญา ประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม สื่อสารมวลชน สังคมวิทยา มานุษยวิทยา งานเขียนของ อ.นิธิ ทันสมัย ลึกซึ้ง ผ่านการสังเคราะห์มาเป็นอย่างดี ซึ่งล้วนให้มุมมองของสังคมไทยตามความเป็นจริงที่เปลี่ยนไป
งานเขียนของ อ.นิธิ อ่านสนุก เพลิดเพลิน และที่สำคัญทำให้ได้คิด คิดในสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนได้ แม้จะเป็นเรื่องง่ายๆ อ่านแล้วเกิดปัญญา ช่วยทำให้ปัญญาเท่าหางอึ่งของผู้เขียนยาวเพิ่มขึ้นมาได้บ้าง
นอกจากผู้เขียนจะชื่นชอบยกย่องมุมมองความคิด การวิเคราะห์สังคมวัฒนธรรมของไทยที่เป็นจริงอย่างตรงไปตรงมา และอยู่กับความเป็นปัจจุบันแล้ว ผู้เขียนยังชื่นชมความเป็นนักวิชาการติดดิน เรียบง่าย สมถะ ไม่มีพิธีรีตอง
อ.นิธิ จึงเป็นนักคิดนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ในใจของผู้เขียนตลอดมา
อ้างอิง
http://www.becnews.com/backissue/f_famous/niti_a.html
http://www.geocities.com/mnu2544/newpage8.html
หญิง สคส.
เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปการศึกษา
เห็นด้วยค่ะ เคยเรียนกับอาจารย์นิธิ แม้ว่าเราแสดงความคิดเห็นสตึ ไม่ได้เรื่อง แต่อาจารย์ไม่เคยตำหนิหรือว่าเราโง่เลยค่ะ
มีความเป็นครู จิตวิญญาณครูสูงมาก โชคดีค่ะที่ได้มีโอกาสเรียนประวัติศาสตร์กับอาจารย์นิธิ