สังคมไทยในปัจจุบันนับว่าอ่อนแอลง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับกระแสโลกาภิวัตน์ที่ผลักดันให้สังคมเป็นสังคมที่มุ่งความสำเร็จทางวัตถุ คนในสังคมมุ่งความสำเร็จของชีวิตของตนในทางเศรษฐกิจ รวมทั้งอำนาจเกียรติและผลประโยชน์ ความสำเร็จนี้อยู่ในระบบแข่งขัน ซึ่งหมายถึงการแข่งขันแย่งชิงแสวงหาผลประโยชน์ ความสำเร็จก็คือการชนะการแข่งขันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด แนวโน้มของสังคมจึงเป็นเป็นสังคมแห่งธุรกิจในระบบแข่งขันเพื่อกำไรสูงสุด บนฐานแห่งทิฏฐิที่มองความสำเร็จทางวัตถุเป็นจุดหมายของชีวิตและสังคม (พระธรรมปิฏก, ม.ป.ป.) ในส่วนของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยในปัจจุบัน เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามแนวทุนนิยม โดยเลียนแบบปรัชญาและแนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเฉพาะการนำเอาทฤษฎีการพัฒนาประเทศให้ทันสมัย (Modernization Theory) มาเป็นตัวแบบของการพัฒนา แต่การนำเอาทฤษฎีภาวะทันสมัยซึ่งใช้ตัวแบบของทุนนิยมมาใช้ในการพัฒนาประเทศนั้นก็นับได้ว่ามีความจำเป็น เพราะเป็นกระแสหลักในการพัฒนาของโลก ถ้าไทยไม่ยอมก้าวลงไปร่วมในกระแสหลักของทุนนิยมนี้ ก็จะถูกทอดทิ้งให้ล้าหลังและจะเสียเปรียบไม่สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ แต่ผลจากการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามแนวคิดดังกล่าวเราจะเห็นได้ว่าส่งผลให้เกิดปัญหาและวิกฤตการต่างๆ ตามมามากมาย ทั้งนี้เนื่องจากการพัฒนาแนวทางทุนนิยมไม่เหมาะสมกับภาคส่วนของสังคมที่ยากจนล้าหลังด้วยเหตุหลายประการ ประการแรก ปรัชญาทุนนิยมก่อให้เกิดกิเลสตัณหา (desire) ของมนุษย์เป็นตัวกระตุ้นผลักดันมนุษย์ให้พยายามแข่งขันกันสะสมทุนให้ร่ำรวยสูงสุด ประการที่สอง วิธีการให้ได้ทุนมากก็คือ การแข่งขันเสรีซึ่งคนจนหรือคนส่วนใหญ่ในชนบทที่ล้าหลังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันกับคนรวยและคนในเมืองได้ ยิ่งแข่งขันกันนานเท่าไร คนจนก็จะถูกทิ้งให้ล้าหลังยากจนขึ้นทุกที ประการที่สาม รางวัลหรือผลที่ทุนนิยมใช้ล่อใจก็คือ ความสุขสบายอย่างล้นเหลือที่เห็นได้จากการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมาบำรุงบำเรอความสุขต่างๆ เหล่านี้แสดงถึงการบริโภคนิยมอย่างเต็มที่ ซึ่งคนยากคนจนไม่สามารถที่จะจัดหามาได้ ถ้าเกิดหลงตามอย่างที่โฆษณาจูงใจให้มัวเมาก็จะต้องหมดตัวและเกิดเป็นหนี้สิน การพัฒนาแนวทางทุนนิยมเพียงแนวทางเดียวจึงไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนในภาคส่วนสังคมที่ยากจนล้าหลังให้อยู่รอดปลอดภัยได้ (วัชรี ทรงประทุม, 2549) เมื่อวิเคราะห์วิกฤตการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นพบว่าแท้ที่จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับปัญหาของระบบการศึกษาของประเทศไทยอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าหากการศึกษาสามารถผลิตและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศไทยให้มีคุณภาพมากกว่านี้ ประเทศไทยก็คงจะไม่ประสบปัญหาต่างๆมากมายดังที่เป็นอยู่ วิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากวิกฤติทางการศึกษา หรือวิกฤติทางการพัฒนาคน แนวทางแก้ปัญหานั้นจำเป็นต้องมีการปฏิรูปสังคมโดยรอบด้าน ให้มีความเข้มแข็งจึงจะพ้นวิกฤต การปฏิรูปการศึกษานับได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง ที่จะช่วยให้สังคมไทยเข้มแข็งขึ้นโดยทั่วตลอดทั้งสังคม ทั้งนี้เนื่องจากประเทศที่เจริญทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริงนั้น พลเมืองจะต้องมีความสามารถในการผลิตหรือในการสร้างสรรค์ จึงจะสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงยั่งยืนได้ เศรษฐกิจที่มั่นคงมีแก่นนั้น ต้องมีฐานในตัวคน คือ ความสามารถในการผลิตและในการคิดสร้างสรรค์ (พระธรรมปิฏก, ม.ป.ป.) การดำเนินงานของรัฐบาลในปัจจุบันจึงเล็งเห็นว่า "การศึกษา" จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างและพัฒนาคน เพื่อทำให้สังคมเกิดความเข้มแข็ง สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็นสมานฉันท์ โดยการศึกษานั้นจะต้องอาศัย "คุณธรรม" เป็นพื้นฐาน และเพื่อให้การดำเนินการแก้ไขสอดรับกับทิศทาง และเป้าหมายการจัดการศึกษาของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่เป็นยุคของการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาเองในฐานะตัวแทนภาครัฐจึงมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาโดยมุ่งเน้นไปที่การนำ "คุณธรรมนำความรู้" เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีการดำเนินการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
........................................
โดย คนึงนิจ อนุโรจน์
ไม่มีความเห็น