เริ่มต้นด้วยปัญญาปฏิบัติ


           เป็นวันที่เตรียมความพร้อมในการระดมกำลังหาวัตถุดิบตามแปลงนา แปลงสวน แปลงผัก โดยการใช้กระบวนการมีส่วนร่วมที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจในการหาวัตถุดิบในท้องถิ่นมาไว้ใส่ถังหมักเพื่อเตรียมความพร้อมในการเกิด โรงผลิตปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆออกจำหน่ายและใช้ในแปลงเกษตรและแปลงสาธิตของกลุ่มเอง โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนนี้เพราะ ขั้นแรกต้องเตรียมหมักปุ๋ยน้ำหมักมักชีวภาพก่อนที่จะเริ่มผลิตปุ๋ยอัดเม็ด โดยชาวกลุ่มสมาชิกโรงเรียนเกษตรกร วันนี้เริ่มทยอยกันนำมาใส่ถังโดย นักจัดการความรู้ท้องถิ่น (นจท.) และกำนัน น้าหมู           แผนนี้คิดขึ้นมาจากการมองเห็นทุนร่วมกันจากศัตรูพืชในนาข้าว ที่เคยสร้างแต่ปัญหาและไม่มีทางออกให้เกษตรกรนอกจากการใช้ยาปราบศัตรูพืช และแปลงเกษตรพวกหอยเชอรี่ ไข่หอยเชอรี่ รวมไปถึงพืชสมุนไพรต่างๆตามบ้าน โดยการได้ใช้วิชาความรู้จากการสั่งสมประสบการณ์การเรียนรู้มาระยะแรกในการเรียนห้องเรียนเกษตรกร โดยเริ่มต้นการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นและไม่ยึดติดกับการเรียนรู้แบบห้องเรียนและกิจกรรม แต่มุ่งเน้นที่การเรียนรู้ที่จะลงมือปฏิบัติทดลองจริง จากการผ่านมือ สมอง ความคิด ความรู้ที่ถูกสั่งสมเป็นประสบการณ์ เพื่อเปลี่ยนทัศนคติและความคิดใหม่ที่เกิดจากผลที่เกิดขึ้นจริง การจัดการความรู้ที่เกิดขึ้นเพราะปัญญาปฏิบัติที่เกิดจากการกระตุ้นความรู้ภูมิปัญญาด้านการเกษตร โดยการเริ่มต้นจากการวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกแต่ละคนว่าไม่รู้จะทำอย่างไรกับปัญหาหอยเชอรี่กัดกินต้นข้าว ที่มีเยอะมากๆในแปลงนา แต่ตอนนี้พอได้เรียนรู้ไปแล้วกลับมีทิศทางในการนำศัตรูพืชไปปุ๋ย และเชื้อจุลินทรีย์ทำให้เกิดประโยชน์ย้อนกลับมาสู่แปลงนา คือสามารถนำมาทำปุ๋ยบำรุงต้นข้าวเร่งการเจริญเติบโต แถมด้วยฮอร์โมนไข่หอยเชอรี่ยังมีสรรพคุณช่วยตัดวงจรการเจริญเติบโตของไข่หอยอีกด้วย คือเข้าไปทำลายไข่ระยะฟักตัวนั้นเอง คล้ายๆกับการปั้นดินให้เป็นดาว โดยใช้ภูมิปัญญาที่ นจท.ได้นำมาผสมผสานกับความรู้เก่า โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่คุ้มค่ามากที่สุด
เมื่อเห็นประโยชน์ที่ไม่ต้องลงทุน สมาชิกแต่ละคนก็ต่างคนต่างนำวัตถุดิบ ทั้งตัวหอยเชอรี่ และไข่หอยที่พบมากตามแปลงนา มาใส่ไว้ในถังหมักในแต่ละวันที่เก็บได้ตลอดทั้งเดือนนี้เป็นต้นไป ใครเก็บได้ก็มาหมักไว้ เพราะนจท.ได้เตรียมกากน้ำตาลและน้ำใส่ในถังหมักไว้แล้ว เพื่อให้ง่ายต่อการนำมาใส่ได้เลย โดยสถานที่ศูนย์รวมการผลิตอยู่ที่หนองทางหลวงห้องเรียนเกษตรกรที่จะสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนตำบลไชยภูมิ
และนี้เองที่จะเป็นที่มาของการเกิดกลุ่มออมทรัพย์เกษตรกร ที่เริ่มต้นจากการสร้างการมีส่วนร่วมก่อนที่จะสร้างอาคารสถานที่ คือต้องสร้างแปร้นบ้านร่วมกันก่อน ที่เกิดจากการวางแผนร่วม วิเคราะห์ทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค ในความเป็นไปได้ที่จะเกิดกลุ่มออมทรัพย์และกลุ่มผลิตปุ๋ยชีวภาพจำหน่ายเริ่มต้นจากคนในกลุ่มก่อน และขยายสู่เกษตรกรในตำบลและขยายตลาดออกไปเรื่อยๆ เพื่อที่อนาคตจะไปเชื่อมโยงช่องทางการตลาดจากแหล่งสนับสนุนต่างๆได้ จึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มก่อน และจากการที่วิเคราะห์จากลุ่มใกล้ตัวก่อนแล้วก็สามารถสร้างการมีส่วนร่วมจากการผลิตร่วมและร่วมรับผิดชอบโดยการนำไปใช้ เพื่อคุณภาพชีวิตของแต่ละคนและที่สำคัญคือจะเกิดการขยายผลจากการที่กลุ่มนำไปปฏิบัติใช้ได้ผลและเป็นทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรรายอื่นๆต่อไป เพื่อผลประโยชน์ของการทำการเกษตรที่ยั่งยืนของเกษตรกรๆไทย ตรงนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มที่ดีในการนำไปวิเคราะห์เพื่อประเมินผลการดำเนินงานต่อไป

โดยพิมพ์พร  ช้างทองคำ
นักจัดการความรู้ท้องถิ่นตำบลไชยภูมิ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง

หมายเลขบันทึก: 9352เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2005 17:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท