วันนี้ได้ตอบคำถามพี่เม้ง "เรื่องสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางกาย". เลยคิดได้ว่าจะต้องมาเขียนถึงเรื่องนี้ซักหน่อย พอให้ได้เป็นความรู้ สำหรับคนที่ไม่รู้ และเป็นการย้ำเตือนสำหรับคนที่รู้อยู่แล้ว เรื่องก็มีว่าอย่างนี้.....
วันหนึ่งพระสังฆปริยายกองค์ที่ 5 ได้เรียกประชุมศิษย์ทั้งหมด แล้วกล่าวกับศิษย์ผู้ใดเข้าใจถึง "จิตเดิมแท้" ให้เขียนโศลกมา ๑ โศลก ผู้ใดเข้าใจได้ถูกต้อง ว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นอย่างไร ผู้นั้นจะได้รับมอบผ้ากาสาวพัตร์ (อันเป็นเครื่องหมายพระสังฆปรินายก)
ชินเชา ผู้เป็นศิษย์เอกก็ได้เขียนไว้ที่ฝาผนังกำแพงว่า
"กายของเราคือต้นโพธิ์ ใจของเราคือกระจกอันเงาใส
เราเช็ดมันทุกๆ ชั่วโมงและไม่ยอมให้ฝุ่นละอองจับ"
เมื่อชินเชาเขียได้อย่างนี้ศิษย์คนอื่นก็ไม่กล้าเขียนอีกเลย แล้วก็มีศิษย์มามุงดูกันเต็มไปหมด มีศิษย์อยู่คนนึงอ่านหนังสือไม่ออก ทำหน้าที่ตำข้าว ได้ให้เสมียนประจำตำบลคนหนึ่งซึ่งมาอยู่อ่านอยู่ด้วยอ่านให้ฟัง แล้วศิษย์คนนั้นได้บอกว่า เขาก็ได้แต่งไว้ประโยคหนึ่งเหมือนกัน ให้เสมียนช่วยเขียนให้ โศลกมีว่า:-
"ไม่มีต้นโพธิ์ ทั้งไม่มีกระจกอันใสสะอาด
เมื่อทุกสิ่งว่างเปล่าแล้ว ฝุ่นจะลงจับได้อย่างไร"
หนังสือเล่มนี้น่าสนใจจะเป็นประวัติของพระสังฆปรินายกองค์ที่ 6 ฮุ้ยเน้ง ที่ท่านพุธทาส แปลไว้ตั้งแต่ปี 2496 ใครสนใจลองหาดู ของผมนี่ที่มีไม่แน่ใจว่าพิมพ์ครั้งที่เท่าใดแต่ปี 2521 เรื่องราวเกี่ยวกับคำสอนนี้ยังมีปรากฏแฝงไว้ในหนังสือที่โกวเล้งได้แต่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น ดาบจอมภพ เหยี่ยวเดือนเก้า จอบดาบหิมะแดง ผ่านตัวละครสามตัว ลี้คิมฮวง เอี๊ยบไค และ โป้วอั้งเสาะ
"กายของเราคือต้นโพธิ์ ใจของเราคือกระจกอันเงาใส
เราเช็ดมันทุกๆ ชั่วโมงและไม่ยอมให้ฝุ่นละอองจับ"
"ไม่มีต้นโพธิ์ ทั้งไม่มีกระจกอันใสสะอาด
เมื่อทุกสิ่งว่างเปล่าแล้ว ฝุ่นจะลงจับได้อย่างไร"
Dream Farm and Sir. Paul McCartney
แวะเข้ามาเยี่ยมอย่างเป็นทางการ... อันที่จริงก็เคยผ่านมาบ้างแล้ว...
เว่ยหลาง ฉบับแปลของท่านพุทธทาสเคยอ่านนานแล้ว อีกเล่มก็คือ ฮวงโป ... ก็คงจะเกือบๆ ๒๐ ปีก่อนโน้นแหละ...
แนวคิดกลุ่มนี้อยู่ใน ปรัชญาโยคาจาร (เรียกอีกอย่างว่า วิชญาณวาท) และ ปรัชญามาธยามิกะ (เรียกอีกอย่างว่า ศูนยตาวาท) ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้เป็นแนวคิดหนึ่งของพุทธปรัชญาฝ่ายมหายาน...
เจริญพร
สวสดีครับ