สัมมนาที่กรุงเทพฯ 30 พ.ย. - 1ธ.ค.48


....อะไรมากมายที่ได้จากหน่วยจัดการความรู้ฯ

สัมมนาที่กรุงเทพฯ วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 1 ธันวาคม 2548....อะไรมากมายที่ได้จากหน่วยจัดการความรู้ฯ

การสัมมนาครั้งนี้เป็นการสัมมนาเกี่ยวกับกับความก้าวหน้าในโครงการการจัดการความรู้ ที่นำไปใช้กับองค์กรต่างๆในชุมชน ของแต่ละจังหวัด โดยมีการถอดบทเรียนที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกพื้นที่ แล้วนำมาเรียนรู้แลกเปลี่ยนกัน โดยแต่ละกลุ่มสามารถที่จะเสนอแนะและซักถามถึงข้อสงสัยต่างๆในการปฏิบัติงานของแต่กลุ่มได้อย่างเต็มที่

การไปสัมมนาครั้งนี้ ผมได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมอีกมากมาย ผมเป็นนักศึกษาที่เรียนมาทางด้าน การจัดการสารสนเทศ ผมเรียนรู้ในการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบระเบียบ สามรถที่จะสืบค้นข้อมูลที่เก็บไว้มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและทันต่อความต้องการ โดยที่ข้อมูลหรือสารสนเทศเหล่านั้นจะต้องเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้ทันสมัย และสามารถนำมาใช้ในการประกอบการตัดสินใจในการทำกิจกรรมต่างตามความต้องการได้ แต่สิ่งที่ผมได้เล่าเรียนมานั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทฤษฎีและกระบวนการมากกว่า

การได้เข้าปฏิบัติงานสหกิจศึกษาครั้งนี้กับหน่วยจัดการความรู้ฯทำให้ผมได้เรียนรู้และฝึกฝน ฝึกปฏิบัติการประมวลผล และวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูล โดยสิ่งเหล่านี้ผมจะได้จากการออกพื้นที่ และการไปสัมมนาในที่ต่างๆ การออกพื้นที่นั้นผมจะได้ฝึกการเก็บข้อมูลต่างๆที่ชาวบ้านได้ออกมานำเสนอโดยที่ผมนั้นจะต้องจับประเด็นให้ได้เพราะชาวบ้านโดยส่วนใหญ่แล้วเขาจะพูดสิ่งต่างๆออกมาเหมือนกับการบอกเล่าหรือเล่าเรื่องต่างๆที่ตัวเองประสบพบมาตามความรู้สึกดังนั้นเราจะต้องฟังแล้วนำมาเรียบเรียงเป็นความรู้ขึ้นมาเอง ส่วนการได้ไปสัมมนานั้นผมก็จะได้ฝึกการถอดความรู้และนำความรู้นั้นไปแก้ปัญหากับสิ่งต่างๆโดยมีวิทยากรเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ท่านวิทยากรแต่ละท่านจะรับทราบปัญหาต่างๆแล้วนำข้อมูลที่ได้รับจากคุณวิจัย(นักวิจัย)มาวิเคราะห์สังเคราะห์ถอดความรู้แล้วนำไปใช้แก้ปัญหาต่างๆในการดำเนินงานของในแต่ละองค์กร

การได้เข้าปฏิบัติงานสหกิจครั้งนี้ของผมได้อะไรมากมาย ซึ่งผมไม่เคยได้รับรู้มาก่อนเลยทั้งจากหนังสือและห้องเรียน ดูผิวเผินแล้วอาจดูเหมือนผมไม่ได้เรียนรู้อะไรมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนๆคนอื่นๆที่ไปปฏิบัติงานตามต่างจังหวัดตามองค์กรใหญ่ๆ

แต่อันที่จริงแล้วผมได้อะไรมากกว่าที่คิด และสิ่งที่ผมได้รับนั้นก็ตรงกับความต้องการของผมมาก เพราะอนาคตผมต้องการที่จะทำงานของตัวเอง มีธุรกิจเป็นของตัวเอง

เป็นเจ้านายของตัวเอง และอยู่ที่บ้านเกิดของตัวเอง ผมได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนนครศรีฯมากยิ่งขึ้น รู้จุดแข็งจุดอ่อนของบ้านเกิดตัวเอง และรู้ว่าธุรกิจอะไรที่เหมาะสมกับบ้านเกิดตัวเอง รู้แนวทางช่องทางการดำเนินการ ถ้าหากการปฏิบัติงานสหกิจศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนาตัวเองและนำความรู้ที่ได้ไปเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ ผมคิดว่าผมได้รับอะไรมากมายที่ไม่สามารถแสดงออกมาในลักษณะของรูปธรรมให้เห็นได้ และผมคิดว่าการที่ผมได้มาปฏิบัติงานสหกิจศึกษาที่นี่ทำให้ผมได้เรียนรู้การจัดการสารสนเทศได้อย่างถ่องแท้มากขึ้น

ตอนนี้ผมก็ใกล้ที่จะเสร็จสิ้นการปฏิบัติงานสหกิจศึกษาแล้ว ผมอยากจะกลับไปบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆให้กับน้องๆได้รับฟังถึงความรู้อันมีคุณค่า ที่สามารถสัมผัสได้ในทางปฏิบัติ มิใช่แต่ในทางทฤษฎีหรือแค่ตั้งอยู่บนหิ้งเท่านั้น

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 8963เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2005 14:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 22:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ดีมาก..อย่าลืมนะทุกครั้งหลังทำกิจกรรมอะไร..หากเรามีการจดบันทึกไว้...นั่นแหละคลังความรู้ที่เยี่ยมมาก...

มัวแต่เก็บเอาไว้ในสมองวันแล้ววันเล่าไม่ได้ถอดออกมาเป็นเรื่องราวลายลักอักษรบางครั้งอาจจะลืมเลือนไปได้นะจ๊ะน้อง...

ที่สำคัญหากน้องได้บันทึกไว้จะเป็นประโยชน์ในการทำรายงานสหกิจ หรืออนาคตหากเราต้องการข้อมูลเหล่านี้ขึ้นมาก็จะหยิบจับเอามาใช้ง่ายมากขึ้น

....พี่เอาใจช่วย..ขยันเข้าไว้

ถ้าได้เขียนแต่ต้นก็มีเรื่องเล่าให้น้องๆฟังเยอะทีเดียวครับ

ช่วยเล่าที่เป็นเนื้อเป็นหนังสัก2-3เรื่องได้มั้ยครับ

พี่ภีม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท