หน้าแรก
สมาชิก
หนอนอ้วน
สมุด
ชุมชนโรงเรียนนาย...
การวิจัยประเมินผล
หนอนอ้วน
น.ท.หญิง จงกล ทองโฉม
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การวิจัยประเมินผล
บทความนี้จะแยกให้เห็นความแตกต่างของ การวิจัยประเมินผล ว่ามีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากการวิจัยประเภทอื่นๆ อย่างไร รวมถึงลักษณะที่เป็นคุณและลักษณะที่อาจเป็นโทษ...
การวิจัยแบ่งประเภทได้หลายรูปแบบ เช่นแบ่งตามสาขาวิชาด้วยการกำหนดของสถาบันวิจัยต่างๆ
แบ่งตามโครงสร้างการออกแบบ
ตามการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ฯลฯ
และจากการแบ่งประเภทต่างๆ มากมายก็ทำให้เราพบชื่อการวิจัยหลายแบบ
จนบางครั้งสงสัยว่าเข้าใจความหมายของชื่อประเภทการวิจัยได้ถูกต้องตรงกันหรือไม่
บทความนี้จะแยกให้เห็นความแตกต่างของ
การวิจัยประเมินผล
ว่ามีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากการวิจัยประเภทอื่นๆ อย่างไร
รวมถึงลักษณะที่เป็นคุณและลักษณะที่อาจเป็นโทษหากเรานำการวิจัยประเมินผลมาใช้ในการประเมินสิ่งต่างๆ
ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาอันเนื่องมาจากการประเมิน
โดยเฉพาะการประเมินที่ดูว่ามีความน่าเชื่อถือมาก
ถึงขนาดที่เรียกว่าเป็นการวิจัย
๑
.
ความหมายที่แตกต่างกันของการประเมินผลและการวิจัยประเมินผล
ความหมายของ
การประเมินผล
คือการตีค่าด้วยการวัด
(
เชิงปริมาณ
)
หรือการตีค่าด้วยการไม่วัด
(
เชิงคุณภาพ
)
แล้วบวกการตัดสินคุณค่าให้กับสิ่งที่วัดนั้น
(Evaluation = Quantitative descriptive or qualitative descriptive + Value judgment)
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์
(
๒๕๔๓
:
๒๓๐
)
ดังนั้นในรายละเอียดแล้วเราสามารถแยกได้อีกว่า
การประเมินเชิงปริมาณก็คือการวัด ซึ่งต้องมีเครื่องมือมาวัด แล้วเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ก่อน
จึงจะตัดสินคุณค่าได้
นอกจากนี้การประเมินยังหมายถึงตรวจสอบความสอดคล้อง
(Determine Congruence)
เช่น
ถ้าหลักสูตรที่จัดสอนประสบความสำเร็จ
ผู้เรียนก็ควรจะเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทิศทาง
ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
คือผลที่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
และเมื่อการประเมิน วัดหรือสังเกตจากผลทั้งผลที่คาดว่าจะเกิดถ้าลงมือปฏิบัติ
ผลหลังการปฏิบัติไปบางส่วน
หรือปฏิบัติไปแล้วทั้งหมด
การประเมินลักษณะนี้จึงเป็นการประเมิน
ผล
การประเมินผล
มีระดับความน่าเชื่อถือตามลำดับคือ
ถ้าตัดสินให้คุณค่าไปเลยหลังจากได้รับข้อมูลมาจากมองเห็น
อ่านข่าว หรือชั่งตวงได้ก็ตาม
จัดเป็นความน่าเชื่อถือที่มีระดับต่ำสุด
เหตุผลเพราะการได้มาของข้อมูลที่แต่ละคนเชื่อว่าเป็นจริง แตกต่างกัน
บางคนเชื่อว่าจริงจากการเทียบกับประสบการณ์
(
อัตนัยนิยม
: Subjectivism)
ขณะที่อีกหลายคนจะเชื่อว่าถ้าเป็นข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง ต้องวัดได้ทำซ้ำได้ เกิดขึ้นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์
(
ปรนัยนิยม
: Objectivism)
และอาจมีบางคนเชื่อว่าการหยั่งรู้ด้วยจิตมนุษย์แต่ละคนรู้ได้ไม่เท่ากัน
เมื่อข้อมูลมีระดับความจริงตามการเชื่อของคนต่างกัน
การตัดสินให้คุณค่าก็ยิ่งต่างกันหนักเข้าไปอีก
เพราะบางคนอาจตัดสินด้วยการยึดประโยชน์เป็นใหญ่
(Utilitarianism)
ขณะที่บางคนบอกว่าต้องมองให้ครอบคลุมทุกด้านที่เกี่ยวข้อง
(Pluralism) (
ศิริชัย
กาญจนวาสี ๒๕๔๕
:
๔
-
๑๑
)
ดังนั้นการประเมินผลที่จะได้รับการยอมรับจึงต้องใช้ระเบียบวิธีวิจัยเข้ามาช่วย
การวิจัยประเมินผล
จึงหมายถึง การวิจัยประยุกต์รูปแบบหนึ่ง ที่จำเป็นต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์ กำหนดรูปแบบ ชนิดของการเก็บข้อมูลรวมทั้งวิธีการต่างๆ ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ชัดเจน เพราะหากไม่ชัดเจนรัดกุมมากพอ ก็ยังมีระดับความน่าเชื่อถือที่เป็นปัญหาอีกได้
เช่น เก็บตกข้อมูลมาเพียงบางส่วนแล้วนำมาตัดสินหรือเปล่า
หรือเก็บข้อมูลแบบสำรวจก็จริงแต่สำรวจเฉพาะส่วนที่จะให้คำตอบตรงตามวัตถุประสงค์เท่านั้นใช่หรือไม่ เป็นต้น
๒
.
ลักษณะเฉพาะของการวิจัยประเมินผลและข้อควรระวังในการนำไปใช้
เมื่อจะประเมินผลให้ผลของการประเมินได้รับการยอมรับ
ขั้นแรกต้องชัดเจนในวัตถุประสงค์ของการประเมินก่อนว่า
ต้องการใช้ผลจากการวัดและการประเมินนั้นไปใช้ทำอะไร
เช่น
เพื่อจัดตำแหน่ง
(Placement)
เพื่อการวินิจฉัย
(Diagnosis)
เพื่อต้องการเปรียบเทียบ
(Assessment)
เพื่อคาดการณ์พยากรณ์
(Prediction)
หรือเพื่อใช้ให้เป็นผลสะท้อนกลับ
(Feedback)
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์
(
๒๕๔๓
:
๒๓๖
)
จากวัตถุประสงค์ที่ต่างๆ กันนี้
เราจึงแบ่งชนิดของการเก็บรวบรวมข้อเท็จจริงมาใช้ในการประเมินหรือการวิจัยประเมินผล
(
แล้วแต่วิธีการที่ใช้และระดับความน่าเชื่อถือ
)
ได้เป็น ๒ ชนิด
คือเก็บข้อมูลมาวิจัยเป็นระยะเพื่อประเมินผลความก้าวหน้า
(Formative Evaluation)
กับอีกชนิดเก็บข้อมูลผลครั้งสุดท้าย
หรือผลหลังการปฏิบัติ
เป็นการประเมินผลสรุป
( Summative Evaluation)
หลังจากมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และเลือกชนิดของการประเมินผลได้แล้วจึงค่อยออกแบบการวิจัย
ในการออกแบบการวิจัยนั้น
การตีความจากสมมุติฐานบนพื้นฐานของข้อเท็จริงที่ปรากฎ
(Empirical Data)
ยังคงเป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่ได้รับการยอมรับ
และหากมองวิธีการวิจัยประเมินผลอย่างเป็นระบบจะเห็นว่า
วิจัยประเมินผลมีองค์ประกอบที่สำคัญและสัมพันธ์กันคือ
เมื่อรู้ว่าจะประเมินไปเพื่ออะไร
(Objective)
จะประเมินเมื่อไร
(Formative
หรือ
Summative)
มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะประเมินอะไร เช่น โครงการดำเนินไปถึงระยะไหนต้องได้ผลผลิตอะไรออกมาเท่าไหร่
หรือต้องทำอะไรอย่างไร
(
ประเมินวิธีการหรือกระบวนการ
)
เพื่อวัดหรือประเมินด้วยวิธีการอื่นเช่นการสังเกตเราจำเป็นต้องกำหนดตัวชี้วัด
(Indicators)
ขึ้นมาก่อนว่าจะพิจารณาจากอะไรที่บอกได้ว่าเป็นอย่างนั้นจริงแล้วจึงค่อยสร้างแบบวัดหรือไปสังเกตจากตัวชี้วัดนั้น
เพื่อให้ได้ข้อมูลมาเทียบกับเกณฑ์
(Criteri)
หรือมาตรฐาน
(Standard)
เป็นการตัดสินให้คุณค่าตามที่กำหนดเกณฑ์ประเมินไว้
ข้อพึงระวังคือแม้การประเมินจะทำอย่างเป็นระบบแต่ให้คุณค่านั้นมีผลทั้งก่อนและหลังการประเมิน
รูปแบบการวิจัยในการวิจัยประเมินผลอาจทำเป็นแบบ ศึกษาเฉพาะกรณี
(Case study)
วิจัยแบบตัดขวางเฉพาะช่วงเวลา
(Cross-Sectional Studies)
วิจัยระยะยาว หรือตามดูเป็นช่วงๆ
(Longitudinal or Follow – up Studies)
หรือเลือกเพียงบางส่วนที่เป็นตัวแทนมาทำการทดลอง
(Experimental Studies)
ก็ได้ ซึ่งแต่ละวิธีมีรายละเอียดการออกแบบได้อีกมาก
ปัญหาสำคัญของการประเมินและการวิจัยประเมินผลพบว่า ปัญหาขาดการวางแผนสำคัญที่สุด การวางแผนการประเมินผลนั้นควรวางแผนไว้ตั้งแต่วางแผนงานหรือโครงการ เหตุที่ควรกำหนดการประเมินผลไว้ตั้งแต่ตอนวางแผน
เพราะจะทำให้การ
กำหนดช่วงเวลาและความถี่การประเมินเป็นไปอย่างเหมาะสมดีกว่าทำไปพบปัญหาแล้วจึงประเมิน
อีกทั้งอคติหรือความลำเอียงจากการให้คุณค่ามีอยู่ได้ตลอดเวลาดังกล่าวแล้ว
ทางแก้สำหรับการลดความลำเอียงจึงควรกำหนดตัวชี้วัด เกณฑ์การประเมินหรือมาตรฐาน
รวมทั้งข้อมูลที่จะนำมาใช้ไว้ก่อนล่วงหน้า
แม้จะลดอติความกลัวของทั้งผู้ประเมินและผู้ถูกประเมินเมื่อรู้ว่าจะถูกประเมินไม่ได้ทั้งหมด
แต่ก็จะช่วยให้เกิดการยอมรับหรืออย่างน้อยปรับตัวกับการประเมินได้
นอกจากนี้ ปัญหาสำคัญของการประเมินอีก ๒ ประการได้แก่ การขาดข้อมูลที่เที่ยงตรง และการขาดการประเมินทั้งระบบ
(
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์ ๒๕๔๓
:
๓๐๓
)
แนวทางการแก้ไขให้ผลการประเ
มินได้รับความเชื่อถือ
นอกจากต้องใช้ระเบียบวิธีวิจัยมาทำให้เป็นการวิจัยประเมินผลแล้ว
การบริหารจัดการเพื่อให้ได้และใช้ผล
การประเมินอย่างคุ้มค่า ควร
ทราบถึงทักษะผิดๆ ในการประเมินผล
ซึ่งศาตราจารย์
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์
(
๒๕๔๓
:
๒๙๓
)
ได้สรุปไว้ให้
ดังนี้
·
ตบตา
ประเมินเฉพาะส่วนดี
·
ผักชีโรยหน้า
ปกปิดความผิด
·
ระเบิดใต้น้ำ
พยายามล้มล้างคู่แข่ง
·
วางท่า
อาศัยการวิจัยเป็นเครื่องมือ
·
ผลัดวันประกันพรุ่ง
ถ่วงเวลา
·
แทนที่
พรางส่วนล้มเหลวที่สำคัญ โดยเบนไปในเรื่องที่ไม่สำคัญที่พอจะแก้ตัวได้
·
ปัดความรับผิดชอบ
ตั้งกรรมาการประเมิน
·
เสริมสร้างบารมี
เลือกให้ประเมินเฉพาะที่รู้แล้วว่าให้ผลดี
·
สนองตัณหา
ประเมินตามคำขอ
จากความเข้าใจเรื่องความหมายของการประเมิน
นำมาสู่การประเมินให้ได้รับการยอมรับในผลของการประเมิน ด้วยการประเมินอย่างใช้ระเบียบวิธีวิจัย ทำให้การประเมิน เป็นการวิจัยประเมินผล
แต่ด้วยธรรมชาติของการประเมินที่มีการให้คุณค่าอยู่ทุกขั้นตอนของการประเมิน
ทั้งผู้ประเมิน
ผู้ถูกประเมิน
และผู้ใช้ผลการประเมิน
จึงจำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานการวิจัยประเมินผลไว้ แม้ไม่ทำเองก็อาจได้ใช้ และที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือทุกคนต้องถูกประเมินและให้คุณค่าโดยคนที่อยู่ใกล้ไม่มากก็น้อยเป็นประจำ
เอกสารอ้างอิง
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์
รวมบทความ การวิจัย การวัดและประเมินผล
พิมพ์ครั้งที่ ๒
กรุงเทพฯ
โรงพิมพ์ศรีอนันต์ ๒๕๔๓
ศิริชัย
กาญจนวาสี
ทฤษฎีการประเมิน
พิมพ์ครั้งที่ ๓ กรุงเทพฯ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๒๕๔๕
Gabriele Beissel-Durrant
A Typology of Research Methods Within the Social Sciences
NCRM Working Paper
http://www.ncrm.ac.uk/publications/documents/NCRMResearchMethodsTypology.pdf
.
Richard Pigeon & Ralph Kellett
Glossary of Common Terms Used In Reserch and Evaluation
http://www.rcmplearning.org/docs/ecdd1310.htm#researdesig
เขียนใน
GotoKnow
โดย
หนอนอ้วน
ใน
ชุมชนโรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง และวิทยาลัยการทัพอากาศ
คำสำคัญ (Tags):
#การวิจัยประเมินผล
หมายเลขบันทึก: 86978
เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2007 00:54 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 22:11 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
หนอนอ้วน
สมุด
ชุมชนโรงเรียนนาย...
การวิจัยประเมินผล
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท