ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าในไนจีเรียจะมีคนไทยไปปักหลักหากินที่นั่น แต่ในวันแรกที่อยู่ที่กรุงลากอส ขณะที่นั่งรถจากสนามบินเข้าเมือง ก็ผ่านร้านอาหารร้านหนึ่ง ชื่อ Bangkok ด้วยความตื่นเต้นจึงขอให้โชเฟอร์หยุดรถ แต่ช้าไป รถแล่นเลยไปแล้ว โชเฟอร์ใจดีบอกว่าไม่ต้องห่วง ร้านยังไม่เปิด เอาไว้เย็นนี้จะพามา ผมก็เลยได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้คนเดียวเพราะถามโชเฟอร์เกี่ยวกับร้านก็ไม่ได้ความมากนัก แต่ก็ทราบว่าร้านอาหารไทยร้านนี้ เป็นร้านที่มีระดับ ราคาแพง จะมีก็แต่คนต่างชาติเท่านั้นที่เข้าไปทานได้
เข้าพักที่โรงแรมชั้นหนึ่งของกรุงลากอส อยู่ติดทะเล มองจากหน้าต่างโรงแรม กรุงลากอสเป็นเมืองใหญ่ อาคารใหญ่โตมีให้เห็นทั่วไป
ผมเปิดดูรายการให้บริการของโรงแรมแล้วก็มาสะดุดตาที่บริการนวดโดยหมอนวดไทย ไม่น่าเชื่อที่ประเทศไนจีเรียนี่นะ มีหมอนวดไทย เพื่อแก้ความสงสัยให้หมดไป ผมรีบโทรไปถามประชาสัมพันธ์โรงแรมซึ่งได้ให้เบอร์โทรภายในมาให้ ผมไม่รอช้ารีบโทรไปทันที เสียงคนรับสายเป็นคนไนจีเรีย แต่พอผมบอกว่ามีหมอนวดคนไทยอยู่หรือไม่ เธอก็บอกว่ามีอยู่ 2 คน เป็นผู้ชายหนึ่งผู้หญิงหนึ่ง แต่ยังไม่เข้ามาทำงาน ผมจึงได้ทิ้งข้อความไว้และนัดให้ทั้งสองคนโทรมาหาที่ห้องในตอนเย็น
เย็นนั้นเองระหว่างที่ดูโทรทัศน์ของไนจีเรียเพลินๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อรับสายก็เป็นเสียงผู้ชายพูดภาษาไทยที่นุ่มนวลว่า
“พี่เป็นคนไทย ต้องการพบหนูหรือ ตื่นเต้นจังเลยที่ได้พบคนไทย”
ผมเองก็งงและตื่นเต้นเหมือนกันที่มาพบคนไทยในดินแดนซีกนี้ของโลก ผมจึงนัดเธอ(ผู้ชาย)และเพื่อนไปพบกันที่สระน้ำของโรงแรมในเย็นนั้น
“หนูชื่อกานต์(นามสมมุติ).และนี่มาลีเพื่อนหนู” หนุ่มวัยสามสิบต้นๆ แนะนำเพื่อนสาวที่เดินมาด้วยกัน ผมรู้ทันทีเพราะที่โรงแรมถ้าไม่ใช่คนดำก็เป็นฝรั่ง คนเอเซียอย่างเราไม่มีเลย
“หนูมาทำงานที่ไนจีเรียได้เดือนหนึ่งแล้ว เรื่องมันเป็นอย่างนี้พี่……..หนูรู้จักกับมามาซังที่เมืองไทย เขาไปนวดที่ร้าน แล้วติดใจเลยชวนให้หนูมาทำงานที่ลากอส โดยเขาให้ค่าจ้างเป็นเงินเดือน”
เธอไม่บอกว่าเท่าไหร่แต่ก็ใบ้ว่ามากพอดู จึงยอมเสี่ยงที่จะมา สภาพความเป็นอยู่มาใหม่ๆ ก็กลัวเหมือนกันเพราะเราไม่เคยเห็นมีแต่ดำๆ ไปหมด แต่พออยู่ไปๆ ก็ชิน
“คนไนจีเรียไม่มีอะไร เดี๋ยวนี้หนูไปเดินตลาดได้สบาย คนเขาชอบเอะอะโวยวายมากไปหน่อย ก็ต้องคอยระวังตรงนี้หน่อย”
หนูกานต์ บอกด้วยว่าคนไทยในกรุงลากอสมีประมาณ 40-50 คน รวมตัวกันดี เพราะมีไม่มาก รู้จักกันหมด เสาร์-อาทิตย์ก็จะนัดมารวมกันที่บ้านของคนไทย ทำอาหารทานกัน เล่นไพ่กันตามประสาคนอยู่ห่างบ้าน อยากให้สถานทูตไทยกลับมาเปิดอีกครั้งหนึ่งจะได้ช่วยเหลือคนไทย อย่างน้อยก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น
.....................................
(ปล.อ่านเรื่องเต็มๆ ที่นี่ครับ http://www.polpage.com/mynigeria.htm
*ในปัจจุบัน ไทยเรากลับไปเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่ไนจีเรียอีกครั้งหนึ่งแล้วปลายปีที่แล้วโดยมีสถานเอกอัครราชทูตตั้งอยู่ที่เมืองอาบูจา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของไนจีเรีย
สวัสดีครับ
ขอบพระคุณมากนะครับที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับไนจีเรียให้ฟัง ไม่ทราบว่าคนไทยที่ไปอยู่ในไนจีเรียนั้นส่วนใหญ่ทำอะไรกันหรือครับ
แล้วไม่ทราบว่าคนไนจีเรียนั้นนิสัยเป็นอย่างไรบ้างครับผม
คุณ ไปอ่านหนังสือ ครับ
เท่าที่ผมทราบจากเจ้าของร้านอาหารไทยในลากอส คนไทยไปทำธุรกิจครับเพราะไนจีเรียเป็นประเทศใหญ่มาก มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกาคือประมาณ 110 ล้านคน ดังนั้น การบริโภคจึงมีสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาและอาหารพื้นฐาน ขายอะไรก็ได้....รวมทั้งเกลือซึ่งล้วนเป็นธุรกิจที่สร้างความร่ำรวยให้ผู้ค้าขายเป็นอย่างมาก บางคนก็ไปเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง บางคนก็ไปทำงานตามโรงแรม เช่นที่ผมไปเจอ
คนไนจีเรียเป็นคนตัวใหญ่และใหญ่โตในทวีปแอฟริกา จะเรียกว่าลูกพี่ก็ได้ เป็นทหารก็เป็นทหารที่เข้มแข็ง มีบุคคลิกที่เด่น ชอบส่งเสียงดัง ถึงดังมาก...
ครั้งแรกที่ผมและคณะไปที่กรุงลากอส เจอดีเข้าจนได้ ทั้งที่มีคนพื้นเมืองที่มีตำแหน่งไปรับ ปรากฏว่าที่สนามบินเจอกลุ่มคนประมาณ 15-20 คนที่คอยไปต้อนและรับ พยายามจะทำเป็นช่วยเข็นรถเข็นกระเป๋าให้คณะของเรา( 8 คน) เมื่อเราปฏิเสธิ์ก็เดินตามมาทั้งกลุ่ม พอเราเดินถึงรถตู้ที่มารับ ก็เรียกค่าเข็น คันละ 100 เหรียญสหรัฐฯ พวกเราสะดุ้งโหยง เพราะจริงๆ ไม่ได้ช่วยเข็นหรือทำอะไรเลย พอเราไม่ให้เงินก็เอะอะโวยวาย ทั้งที่เรามีคนพื้นเมืองมารับ ....ในที่สุดพอพวกเราขึ้นไปนั่งบนรถตู้ได้ เราเห็นท่าไม่ดีก็เลยปิดประตูรถ คนกลุ่มนั้นซึ่งมีประมาณ 15 คน ก็มารุมรถตู้ของเราทันที ดีที่เราปิดกระจกและล๊อคประตูเอาไว้แล้ว แต่กระนั้นก็ทำให้พวกเราอกสั่นขวัญแขวนมากเพราะพวกทำท่าจะมาเขย่ารถตู้ คนพื้นเมืองที่มารับต้องลงไปเจรจาแล้วบอกให้รถเรารีบออกไปก่อน...ผมหันหลังไปดูข้างหลังเห็นคนที่มารับเราถูกห้อมล้อมด้วยคนดำหน้าตาน่ากลัวทั้ง 15 คนนั้น ท่าท่างส่งเสียงทำมือทำไม้ดูน่ากลัวมาก ผู้หญิงในคณะเราถึงกับหน้าซีดด้วยความตกใจ.........เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ไปสัมผัสมา.......เรียกว่าเจอดีตั้งแต่ก้าวแรกเลยครับ
ผมมาทราบในภายหลังว่าคนไนจีเรียชอบโวยวายไปอย่างนั้นเอง ความจริงไม่น่ากลัวอย่างที่คิด.....(หรือเปล่า) ก็อย่างว่าเราไม่เคยที่ไปอยู่ในหมู่คนผิวสีมากๆ แบบนั้น
อ้อ...คนในไนจีเรียมีลักษณะที่เฉพาะอีกอย่างที่ทำให้ดูน่ากลัวมากขึ้นคือ เขาจะชอบมีรอยบาก(รอยขีดลึก)บนใบหน้า บริเวณแก้มทั้งสอง ทราบว่าเป็นประเพณีของเผ่าที่ต้องบากเป็นเครื่องหมายของเผ่า...แต่เราดูกลับเป็นเรื่องที่น่ากลัว....
ยังมีประสบการณ์อีกหลายอย่างครับ เอาไว้ต่อวันหลัง....
ด้วยความปรารถนาดี
ขอบคุณ คุณ Paew
คนไนจีเรียมีผิวดำมากครับ ดำจนเขียว นับถือศาสนาอิสลาม(ทางเหนือของประเทศ)ประมาณ 50 เปอร์เซนต์และคริสต์(ทางใต้) 40 เปอร์เซนต์ ครับ ภาพมีเหมือนกันครับ แต่ยังไม่เคยเอาขึ้น(เอาขึ้นไม่เป็น.....:) )สงสัยต้องเอาขึ้นบนเว็บส่วนตัวก่อนแล้ว link ไปนะครับ
ร้าน Bangkok ได้ไปทานครับ ปรากฏว่าร้านขายดีมาก เรียกว่านั่งนับเงินเลยเพราะกุ้งมังกรตัวโตๆ มีมากมายที่ไนจีเรีย คนไนจีเรียไม่นิยมทานกัน ราคาซื้อจึงถูกมาก จะมีก็ต่างชาติที่อยู่ที่นั่นนิยมกันมาก.....จึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า..... ผ่านมาอีก 4 ปีได้ข่าวว่าเจ้าของร้านไทยแห่งนี้ไปซื้อร้านอาหารจีนเพิ่มอีก 1 ร้านแล้ว น่าดีใจแทนครับ
ด้วยความปรารถนาดี
วิธีนำรูปมาประกอบในบันทึกนะค่ะ...ก่อนอื่นต้องนำไฟล์รูปขึ้นไว้ใน gotoknow ก่อนค่ะ โดยไปที่ เมนูเครื่องมือ ที่อยู่ด้านขวามือค่ะ แล้วเลือกที่ไฟล์อัลบัมค่ะ
คลิกที่ไฟล์อัลบั้มค่ะ
จากนั้นหน้าจอจะไปอยู่ในโหมดให้นำรูปขึ้น รูปที่นำมาใช้ควร resize ก่อน เหลือประมาณความกว้าง 300 - 350 ค่ะ เลือกรูปโดยคลิกที่ Browse เมื่อเลือกรูปได้แล้ว ใก้กรอกข้อความต่างในช่อง รวมทั้งคำหลักด้วย แล้วบันทึกเก็บค่ะ
เมื่อ G2K ขึ้นไฟล์ให้เรียบร้อยแล้ว จะเห็นภาพ ที่ใต้ภาพจะมี 2 ปุ่มให้เลือก คือแสดงภาพกับ ดาวน์โหลด ให้คลิกที่ดาวน์โหลด.....เมื่อภาพมาให้เลื่อนเมาส์ไปที่ภาพ คลิกขวา เลือก copy จากนั้นกลับมา paste ที่บันทึก ก็จะได้ภาพแล้วค่ะ......ลองดูนะค่ะ ถ้าไม่เข้าใจถามได้ค่ะ ยินดีค่ะ....
1.ถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมในประเทศว่าเป็นอย่างไร
2.ช่วงนี้ตลาดสินค้าในประเทศเป็นอย่างไรบ้าง
3.คนในประเทศตอนนี้สนใจอะไรบ้างค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ
ดิฉันกำลังศึกษาป.โทในวิชาอินเตอร์บิวสิเนท ต้องทำโปรเจคเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าไปประเทศที่สนใจ และได้เลือกประเทศไนจีเรีย ตกลงใจจะส่งข้าวไปขายที่นั่น อยากรบกวนขอทราบข้อมูลดังนี้
1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ
2. ค่านิยม วิถีการดำรงชีวิต การศึกษา
3. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จำนวนสายโทรศัพท์ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
ขอขอบพระคุณมาล่วงหน้านะคะ
คุณสิริมาครับ
ปัจจุบันเรามีสถานทูตไทยที่กรุงอาบูจาแล้ว ขอให้เข้าไปดูที่นี่เลยครับ http://www.mfa.go.th/web/1830.php?depcode=26200100
คุณนิยมจะยินดีที่จะให้ข้อมูลที่จำเป็นตามที่ถามมาครับ
ด้วยความปรารถนาดี
สวัสดีค่ะ...
หนูเป็นสมาชิกคนหนึ่งที่โกทูโนแห่งนี้...ตอนนี้กำลังมีเรื่องที่สนใจและเป็นปัญหาอยู่เล็กน้อย หนูอยากทราบว่าคุณรู้จักชายที่ชื่อ Chief Joshua Dariye หรือไม่คะ?
จริงๆ หนูไม่เคยสนใจรายละเอียดอะไรที่เกี่ยวข้องกับประเทศนี้มาก่อน แต่ตอนนี้หนูอยากทราบว่าชายคนนี้มีความเป็นมาและมีความสำคัญกับประเทศนี้ในทางใด
รบกวนตอบด้วยได้ไหมคะ
ขอบพระคณมากค่ะ