คำปรารภ
การทำงานในระบบราชการปัจจุบัน ได้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากการปฏิรูประบบราชการ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิดการพัฒนาและการเคลื่อนไหวอย่างมากในระบบราชการ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ถึงแม้ว่าการปฏิรูประบบราชการในระยะปีแรก จะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการบริหารราชการส่วนกลาง แต่ก็มีผล สืบเนื่องต่อเชื่อมโยงไปถึงการบริหารราชการส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นด้วยเช่นกันจังหวัดซึ่งเป็นส่วนราชการในการบริหารราชการส่วนภูมิภาคที่สำคัญที่สุด เป็นตัวแทนของรัฐบาลที่จะต้องให้มีการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ หากแต่การบริหารงานในระบบราชการในห้วงที่ผ่านมา มีหน่วยงานราชการจำนวนมาก การทำงานของแต่ละหน่วยก็มีเป้าหมายวัตถุประสงค์แตกต่างกัน มีลักษณะที่เป็นอาณาจักรของตนเองเกิดปัญหาในการทำงานร่วมกัน เกิดการขัดแย้งระหว่างองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์กรเป็นไปด้วยความไม่จริงใจและจริงจัง เป้าหมายองค์กรต่างกัน จึงทำให้ต่างคนต่างทำ สิ้นเปลือง สูญเสียงบประมาณ ไร้ประสิทธิภาพ ประเทศชาติและประชาชน ไม่ได้รับประโยชน์อย่างที่ทุกคนตั้งใจ ดังนั้น การบริหารงานจังหวัดที่ดีและสามารถเกิดผลจากการบริหารที่นำไปสู่ปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยยึดเอา "ประชาชนเป็นศูนย์กลาง" จึงน่าที่จะเน้นให้จังหวัดมีฐานะเสมือนหน่วยบริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์ ที่สามารถบูรณาการระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน สามารถวินิจฉัยข้อมูล ปัญหา อุปสรรค กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาและดำเนินการให้เป็นไปตามที่ตัดสินใจได้อย่างครบวงจร ภายในจังหวัด จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการบริหารงานเชิงบูรณาการมาโดยลำดับ ทั้งนี้ ก็เพื่อจัดสรรและระดมสรรพกำลังของทุกภาคส่วนทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและวิธีดำเนินการบริหารอันได้แก่ คน เงิน วัสดุ สิ่งของ รวมทั้งการประสานงานและกระบวนวิธีการบริหารจัดการต่าง ๆ เพื่อให้งานบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์และมุ่งสู่ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสำคัญอันเร่งด่วนที่มีผลกระทบต่อประชาชน ได้แก่ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกและโรคระบาดอื่นๆ การสร้างธรรมมาภิบาลในระบบราชการ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษและคณะทำงานเชิงยุทธศาสตร์บริหารจัดการเชิงบูรณาการ ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติการพิเศษของผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างบูรณาการและครบวงจร สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างหลากหลาย ฉับไวต่อการดำเนินงานในทุกสถานการณ์ เป็นทั้งหน่วยยุทธศาสตร์ หน่วยประสานงาน หน่วยบริหาร และหน่วยปฏิบัติการในหน่วยเดียวกัน บูรณาการปฏิบัติงานในหลายหน้าที่ อย่างเกี่ยวเนื่องกัน และดำเนินการได้อย่างสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถสนองการบริหารงานของผู้ว่าราชการจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเริ่มต้นของศูนย์ปฏิบัติการพิเศษดังกล่าว เริ่มมาจากการดำเนินการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดก่อนเป็นอันดับแรก และเมื่อมีนโยบายของรัฐบาลในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษขึ้นในทำนองเดียวกัน จึงเกิดการบูรณาการดำเนินงานขึ้น
การดำเนินงานสำคัญที่บูรณาการด้านการบริหารจัดการมีศูนย์ปฏิบัติการพิเศษอย่างครบวงจร ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ประกอบด้วย
1. การต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
2. การจัดระเบียบสังคมเชิงบูรณาการเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน
3. การขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ
4. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกซึ่งนอกจากการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้น แล้ว การสนับสนุนศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจอื่นๆ ตามนโยบายของรัฐบาล เช่น ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเป็นหน่วยหลักในการบูรณาการดำเนินงานเชิงยุทธศาสตร์ อำนวยการและปฏิบัติการอยู่ในหน่วยเดียวกัน
เป็นกระบวนการสุดท้ายเพื่อพิจารณาปรับฐานข้อมูลสถานการณ์ของปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน ชุมชน ให้ถูกต้องและทันสมัย สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน ชุมชนให้สอดคล้องกันระหว่างนโยบาย ข้อสั่งการในการปฏิบัติของส่วนกลาง และสถานการณ์และสภาพปัญหาที่เกิดในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการ และคณะทำงานต่างๆ ขึ้น และมีหนังสือสั่งการให้แต่ละอำเภอได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดอำเภอต่างๆ จนครบทุกอำเภอ โดยเฉพาะการจัดองค์กรได้มีการกำหนดเจ้าภาพ ในด้านต่างๆ การจัดองค์กรภายในศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์ได้มีการสนธิกำลังพลจากส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคเอกชนและประชาชน ที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นองค์กรต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
จังหวัดเพชรบูรณ์ได้จัดให้มีที่ตั้งสำนักงาน ศตส.จ.พช. ณ ห้องริมสุดชั้นล่างของปีกตะวันออกอาคารศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นห้องปฏิบัติงานที่มีขนาดของห้องประมาณ 4 X 6 เมตร สำหรับปฏิบัติงานประจำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ ในด้านการบริหารจัดการ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานฝ่าย กำกับดูแลในภาพรวม ภายใต้บังคับบัญชาโดยตรงของผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ปฏิบัติงานด้านนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนยาเสพติด การอำนวยการ การสารบรรณ การเงินและบัญชี การประสานงาน การสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติ และปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ตามที่ได้รับ มอบหมาย มีหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเพชรบูรณ์ / เลขานุการ ศตส.จ.พช. เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ เมื่อเริ่มตั้งศูนย์ฯ ปัจจุบัน ฝ่ายอำนวยการ ศตส.จ.พช. มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจริง จำนวน 7 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 1 คน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 1 คน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน 1 คน และได้จ้างเหมาบริการเอกชนเพื่อทำหน้าที่เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลและปฏิบัติงานอื่นๆ จำนวน 3 คน
นอกจากปฏิบัติงานด้านการอำนวยการของ ศตส.จ.พช. แล้ว ยังปฏิบัติงานด้านอื่นๆ ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์มอบหมาย ได้แก่ งานขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง งานของคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ คณะที่ 3 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญประสานการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประชามติ สภาร่างรัฐธรรมนูญ
ไม่มีความเห็น