พรุ่งนี้ก็จะถึงวันมาฆบูชาแล้ว ทำให้ผู้เขียนนึกถึง คาถาสุดท้ายของโอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งยอมรับกันว่าเป็นการสรุปหลักคำสอนทั้งหมดของพระพุทธศาสนา คือ...
๑) สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง การไม่กระทำบาปทั้งปวง
๒) กุสะลัสสูปะสัมปะทา การสร้างกุศลให้ถึงพร้อม
๓) สะจิตตะปะริโยทะปะนัง การชำระจิดรของตนเองให้สะอาดหมดจด
... เอตัง พุทธานะสาสะนัง สามอย่างนี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
เมื่อแรกบวช ผู้เขียนสงสัยว่า ไม่ให้กระทำบาป แล้วทำไมจึง ไม่บอกว่า ให้กระทำบุญ แต่กลับบอกว่า ให้สร้างกุศล แทน ประมาณนี้... ต่อมาก็คิดตีปริศนาในประเด็นนี้เอง จึงขอเล่าสู่กันอ่านในโอกาศมาฆบูชา..
อันที่จริง บุญ แปลว่า ชำระจิดใจให้สะอาด ดังอรรถวิเคราะห์ว่า จิตฺตํ ปุนาติ วิโสธยตีติ ปุญญํ ธรรมชาติใดย่อมฟอก คือชำระจิตให้สะอาด ดังนั้นธรรมชาตินั้น ชื่อว่า บุญ (ฟอกจิตใจให้สะอาด) ...เมื่อถือเอาตามนัยนี้ คำว่าบุญ น่าจะตรงกับโอวาทปาฏิโมกข์ในข้อที่ ๓..
ส่วน กุศล หรือ โกศล (เขียนตามบาลีว่า กุสล) เรามักแปลกันว่า ปัญญา หรือฉลาด ...แต่ถ้าจะแปลตามศัพท์ก็อาจแปลได้ว่า ตัดหญ้าคา ดังมีอรรถวิเคราะห์ว่า...
กุสมิว กิเลสํ ลุนาตีติ กุสโล ธรรมใดย่อมตัดซึ่งกิเลสเพียงดังหญ้าคา ดังนั้น ธรรมนั้น ชื่อว่า กุศล (ตัดกิเลสเพียงดังหญ้าคา)..
ประเด็นนี้มีอุปมาโวหารว่า พื้นนาหรือภาคพื้นที่เราต้องการเพาะปลูก ถ้ามีหญ้าคางอกคลุมผิวหน้าอยู่ เราก็ไม่สามารถจะปลูกอะไรได้ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการเพาะปลูก เราจะต้องกำจัดหญ้าคาซึ่งเป็นวัชพืชเสียก่อน วิธีการกำจัดมี ๓ ระดับ คือ
๑ ใช้มีดพร้าตัดฟันหญ้าคาที่คลุมดินอยู่ แต่ไม่นานได้น้ำใด้ปุ๋ย หญ้าคาก็จะงอกขึ้นมาอีก...คล้ายๆ กับกิเลสซึ่งแสดงออกมาทางกายและวาจา เป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เราก็ต้องกำจัดด้วยศีล
๒. ใช้ก้อนดินถมทับ หรือใช้แผ่นอิฐวางทับหญ้าคานั้นไว้ แต่เมื่อได้น้ำได้ปุ๋ยหญ้าคาก็อาจงอกแทรกดินที่ถมทับขึ้นมาได้อีก หรือเมื่อยกแผ่นอิฐออกไปหญ้าคาก็จะงอกขึ้นมาได้อีก... คล้ายๆ กับกิเลสซึ่งครุ่กรุ่นอยู่ภายในใจ ถ้าจิตรมีสมาธิก็อาจกำจัดได้โดยการข่มไว้ แต่เมื่อไรก็ตามที่ได้ปัจจัยอันเหมาะสมก็ทำให้กิเลสฟุ้งขึ้นมาภายในใจได้อีก หรือเมื่อไม่มีสมาธิกดทับไว้กิเลสก็จะเกิดขึ้นได้อีก...กิเลสที่ครุ่กรุ่นภายในใจนี้จัดเป็นระดับกลางๆ
๓. ขุดหญ้าคาขึ้นมาให้หมดทั้งต้นทั้งรากอย่าให้เหลือเชื้อ แล้วตากให้แห้ง ก่อนที่จะใช้ไฟเผา ถ้าทำได้อย่างนี้ พื้นนาก็จะควรแก่การเพาะปลูกได้ เพราะไม่มีเชื้อวัชพืชที่จะมารบกวนอีกต่อไป ... คล้ายๆ กับกิเลสระดับลึกๆ ที่นอนเนื่องอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ต้องใช้ปัญญาในการจำกัดฉะนั้น...
ดังนั้น กุศล หรือ โกศล จึงแปลว่า ตัด (กิเลสเพียงดัง) หญ้าคา และผู้ใดกระทำได้ดังนี้ชื่อว่าผู้ฉลาดหรือผู้มีปัญญานั้นเอง...
จะเห็นได้ว่า การสร้างกุศลให้ถึงพร้อมก็คือการใช้วิธีการกำจัดกิเลสให้หมดไปอย่างสิ้นเชิงนั้นเอง ...
ติฎฺฐตุ สทฺธมฺโม อนาคเต กาเล ขอพระสัทธรรมจงดำรงอยู่ต่อไปในอนาคตกาลเทอญ.....