แนวการดำเนินงาน 1. สพฐ.จะแจ้งกรอบวงเงินให้ สพท. พิจารณาจัดสรรให้โรงเรียนที่ขาดแคลนด้านอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้าง และการปรับปรุงซ่อมอาคารเรียนที่ชำรุด 2. สพท.แจ้ง โรงเรียนในสังกัดสำรวจความต้องการ จำเป็นของโรงเรียน แล้วจัดทำคำของบประมาณประจำปี เสนอ ไปยัง สพท. (ประมาณเดือนธันวาคม – มกราคม ของทุกปี) 3. สพท.แต่งตั้งกรรมการพิจารณาจัดสรรงบประมาณตามกรอบวงเงินที่ได้รับ คณะกรรมการประกอบด้วย ผอ.สพท. ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา (ทุกอำเภอๆละ 1 คน) เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและหัวหน้ากลุ่มนโยบายและแผนเป็นกรรมการและเลขานุการ 4. หากมีปัญหาในการพิจารณาคระกรรมการจะออกตรวจสภาพความจำเป็นขาดแคลนตามที่ ร.ร.เสนอของบประมาณและพิจารณารายละเอียด/เกณฑ์เพิ่มเติมตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของแต่ละ สพท. 5. การจัดตั้งงบประมาณค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างจะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ก่อสร้างอาคารเรียน อาคารประกอบเพิ่มเติม กลุ่มที่ 2 ก่อสร้างอาคารเรียนทดแทน กลุ่มที่ 3 ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ สิ่งก่อสร้าง กลุ่มที่ 4 สร้างสนามกีฬา 6. เมื่อส่งบัญชีจัดสรรตามกรอบวงเงินให้ สพฐ.พิจารณาแล้ว สพฐ.จะนำไปจัดตั้งงบประมาณและพิจารณารายละเอียดเสนอสำนักงบประมาณอนุมัติแล้วแจ้งกลับมายัง สพท. เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติมทุกฉบับ จะก่อหนี้ผูกพันได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติเงินประจำงวดแล้วเท่านั้น 7. เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งบัญชีอนุมัติรายการก่อสร้างงบลงทุนให้ตรวจสอบความถูกต้องกับบัญชีเสนอขอตรวจสอบราคากลาง บันทึกเสนอแจ้ง โรงเรียนและกลุ่มที่เกี่ยวข้อง 8. สิ่งสำคัญที่สุดเจ้าหน้าที่ต้องมีความละเอียดรอบคอบใฝ่หาความรู้ศึกษาระเบียบอยู่เสมอและเป็นผู้ให้บริการและประสานงานที่ดีเยี่ยม นอกจากนั้น สิ่งที่ต้องจัดเตรียมข้อมูลประกอบการพิจารณาที่ถูกต้องตามสภาพจริง เป็นปัจจุบันจึงจำเป็นต้องตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่อง