สีหจัมมชาดก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๙. สีหจัมมชาดก (จากพระไตรปิฎก ลำดับเรื่องที่ ๑๘๙)
ว่าด้วยลาปลอมตัวเป็นราชสีห์
(พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นชาวนาได้ยินเสียงลาปลอมร้อง ก็รู้ว่าเป็นลา จึงกล่าวคาถาว่า)
[๗๗] นั่นไม่ใช่เสียงบันลือของราชสีห์ ไม่ใช่เสียงของเสือโคร่ง ไม่ใช่เสียงของเสือเหลือง ลาชั่วช้าคลุมตัวด้วยหนังราชสีห์ร้องอยู่
(พ่อค้ามาเห็นลาถึงความบอบช้ำ จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า)
[๗๘] ลาเอาหนังราชสีห์คลุมตัว เคี้ยวกินข้าวเหนียวอันเขียวสดเป็นเวลานาน มันร้องออกมานั้นแหละ จึงทำร้ายตัวเอง
สีหจัมมชาดกที่ ๙ จบ
-------------------------
คำอธิบายเพิ่มเติมนำมาจากบางส่วนของอรรถกถา
สีหจัมมชาดก
ว่าด้วย ลาปลอมเป็นราชสีห์
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภพระโกกาลิกะ นั่นแล ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
ในเวลานั้น พระโกกาลิกะประสงค์จะกล่าวสรภัญญะ พระศาสดาทรงสดับเรื่องนั้นแล้ว จึงทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลชาวนา ครั้นเจริญวัย หาเลี้ยงชีพด้วยกสิกรรมนั่นเอง. ในกาลนั้น มีพ่อค้าคนหนึ่งเที่ยวทำการค้าด้วยการบรรทุกสินค้าบนหลังลา พ่อค้านั้นขนสินค้าลงจากหลังลาในที่ที่ไปถึง แล้วเอาหนังราชสีห์คลุมลา ปล่อยไปหากินที่นาข้าวสาลีและข้าวเหนียว. คนรักษานาเห็นแล้ว ไม่อาจเข้าใกล้ ด้วยเข้าใจว่าเป็นราชสีห์.
อยู่มาวันหนึ่ง พ่อค้านั้นพักอยู่ที่ประตูบ้านแห่งหนึ่ง หุงอาหารเช้า แต่นั้นจึงเอาหนังราชสีห์คลุมหลังลา ปล่อยไปหากินในนาข้าวเหนียว พวกเฝ้านาเห็นมันเข้าก็ไม่อาจเข้าใกล้มันได้ ด้วยสำคัญว่าเป็นราชสีห์ จึงพากันกลับไปเรือน พวกชาวบ้านทั้งหมดต่างถืออาวุธ เป่าสังข์ รัวกลองโห่ร้องไปยังที่ใกล้นา. ลากลัวตายจึงเปล่งเสียงเป็นเสียงลา.
ครั้นพระโพธิสัตว์รู้ว่ามันเป็นลา จึงกล่าวคาถาแรกว่า :-
นี่มิใช่เสียงบรรลือของราชสีห์ ไม่ใช่เสียงบรรลือของเสือโคร่ง ไม่ใช่เสียงบรรลือของเสือเหลือง ลาผู้ลามกคลุมตัวด้วยหนังราชสีห์บรรลือเสียง.
แม้พวกชาวบ้านก็รู้ว่ามันเป็นลา จึงพากันโบยให้ล้มลงกระดูกหัก แล้วเอาหนังราชสีห์ไป. ครั้นพ่อค้านั้นมาเห็นลาถึงความบอบช้ำ จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
ลาเอาหนังราชสีห์คลุมตัว เที่ยวหากินข้าวเหนียวนานมาแล้ว ร้องให้เขารู้ว่าเป็นลา ได้ประทุษร้ายตนเองแล้ว.
เมื่อพ่อค้านั้นกล่าวอย่างนี้เสร็จแล้ว ลาก็นอนตายในที่นั้นเอง แม้พ่อค้าก็ทิ้งลากลับบ้าน.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก.
ลาในครั้งนั้น ได้เป็น พระโกกาลิกะ ในครั้งนี้.
ส่วนชาวนาบัณฑิต คือ เราตถาคต นี้แล.
-----------------------------
ไม่มีความเห็น