ทุพภิยมักกฏชาดก


ว่าด้วยลิงผู้มักประทุษร้ายมิตร

ทุพภิยมักกฏชาดก

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]

ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑

๔. ทุพภิยมักกฏชาดก (จากพระไตรปิฎก ลำดับเรื่องที่ ๑๗๔)

ว่าด้วยลิงผู้มักประทุษร้ายมิตร

             (พราหมณ์โพธิสัตว์เห็นกิริยาของลิง จึงกล่าวติเตียนว่า)

             [๔๗] ข้าได้ให้น้ำอันเพียงพอแก่เจ้าผู้ถูกความร้อน ในฤดูร้อนแผดเผา กระหายอยู่ บัดนี้ เจ้าดื่มแล้วยังกระทำเสียงเจี๊ยกๆ อยู่อีก การคบหากับคนชั่วไม่ประเสริฐเลย

             (ลิงผู้มักประทุษร้ายมิตรได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวผูกอาฆาตว่า)

             [๔๘] ท่านเคยได้ยินหรือเคยได้เห็นมาบ้างไหมว่า ลิงตัวไหนที่ชื่อว่าเป็นสัตว์มีศีล บัดนี้ เราจะถ่ายอุจจาระรดศีรษะท่าน นี้เป็นธรรมดาของเรา

ทุพภิยมักกฏชาดกที่ ๔ จบ

---------------------

คำอธิบายเพิ่มเติมนำมาจากบางส่วนของอรรถกถา 

ทุพภิยมักกฏชาดก

ว่าด้วย การคบคนชั่ว

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน ทรงปรารภพระเทวทัต ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
               ความพิสดารมีอยู่ว่า วันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายนั่งสนทนากันในโรงธรรม ถึงความอกตัญญูความประทุษร้ายมิตรของพระเทวทัต. พระศาสดารับสั่งว่า เทวทัตเป็นผู้อกตัญญู ประทุษร้ายมิตร มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อนก็ได้เป็นเช่นนี้ แล้วทรงนำเรื่องในอดีตมาเล่า.
               ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ชาวบ้านกาสีแห่งหนึ่ง ครั้นเจริญวัย ดำรงตนเป็นฆราวาส
               ก็สมัยนั้น ได้มีบ่อน้ำลึกบ่อหนึ่งอยู่ที่ทางใหญ่ชันในแคว้นกาสี สัตว์เดียรัจฉานทั้งหลายข้ามไม่ได้ พวกมนุษย์ผู้ปรารถนาบุญเดินมาทางนั้น ใช้กระบอกมีสายยาวตักน้ำใส่ขังเต็มรางแห่งหนึ่ง ให้สัตว์เดียรัจฉานดื่ม. รอบบ่อนั้นเป็นป่าใหญ่ ลิงเป็นอันมากอาศัยอยู่ในป่านั้น. ต่อมา ที่ทางนั้นขาดผู้คนสัญจรไปมาสองสามวัน สัตว์เดียรัจฉานจึงไม่ได้ดื่มน้ำ ลิงตัวหนึ่งกระหายน้ำเต็มที่ เที่ยวหาน้ำดื่มในที่ใกล้บ่อน้ำ.
               พระโพธิสัตว์เดินไปถึงทางนั้นด้วยกิจธุระอย่างหนึ่ง จึงตักน้ำในบ่อนั้นดื่มล้างมือและเท้า เห็นลิงตัวนั้น ทราบว่ามันกระหายน้ำ จึงตักน้ำใส่รางให้มันดื่ม ครั้นให้เสร็จแล้ว คิดจะพักผ่อนจึงนอนลงที่โคนไม้ต้นหนึ่ง ส่วนลิงครั้นดื่มน้ำแล้วนั่งอยู่ไม่ไกล ทำหน้าล่อกแล่กหลอกพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์เห็นกิริยาของมัน จึงกล่าวว่า อ้ายวายร้าย ลิงอัปรีย์ เมื่อเองกระหายน้ำเหน็ดเหนื่อยมา ข้าก็ให้น้ำเองดื่ม บัดนี้ เอ็งทำหน้าล่อกแล่กหลอกข้าได้ น่าอนาถใจที่ข้าช่วยเหลือสัตว์ชั่วๆ ไม่มีประโยชน์เลย.
               แล้วกล่าวคาถาแรกว่า :-

               ข้าได้ให้น้ำเป็นอันมากแก่เจ้าผู้ถูกความร้อนแผดเผา หิวกระหาย บัดนี้ เจ้าได้ดื่มน้ำแล้วยังหลอกล้อทำเสียงครอกๆ อยู่ได้ การคบหากับคนชั่วไม่ประเสริฐเลย.
               ลิงผู้ประทุษร้ายมิตร ครั้นได้ยินดังนั้นแล้ว จึงกล่าวว่า ท่านอย่าสำคัญว่า เราทำเพียงเท่านี้แล้วจะเสร็จสิ้น บัดนี้ เราจะถ่ายคูถรดศีรษะท่านก่อน แล้วจึงไป
               แล้วกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
               ท่านได้ยินหรือได้เห็นมาบ้างหรือว่า ลิงตัวไหนชื่อว่าเป็นสัตว์มีศีล เราจะถ่ายอุจจาระรดศีรษะท่านเดี๋ยวนี้ แล้วจึงจะไป นี้เป็นธรรมดาของพวกเรา.
               ความย่อในคาถานั้นมีดังนี้ ท่านพราหมณ์ ท่านได้ยินหรือได้เห็นที่ไหนว่า ลิงรู้คุณคนมีมารยาทมีศีล มีอยู่. เราจะถ่ายคูถรดศีรษะท่านเดี๋ยวนี้แหละ แล้วจึงจะไป นี้เป็นธรรมดา นี้เป็นสภาพโดยกำเนิดของพวกข้าพเจ้าผู้ชื่อว่าเป็นลิง คือถ่ายคูถรดหัวผู้มีอุปการะ.
               พระโพธิสัตว์ ครั้นได้ยินดังนั้น จึงเตรียมจะลุกไป ขณะนั้นเอง ลิงกระโดดจับกิ่งไม้ทำคล้ายจะห้อยโหน ถ่ายคูถรดศีรษะพระโพธิสัตว์ แล้วร้องเข้าป่าไป พระโพธิสัตว์อาบน้ำชำระกาย แล้วจึงกลับไป.
               พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวทัตไม่รู้จักคุณ มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อน ก็ไม่รู้จักคุณที่เราทำไว้ เหมือนกัน.
               แล้วทรงนำพระธรรมเทศนานี้มา ทรงประชุมชาดก.
               ลิงในครั้งนั้น ได้เป็น เทวทัต ในครั้งนี้
               ส่วนพราหมณ์ คือ เราตถาคต นี้แล.

--------------------



 

หมายเลขบันทึก: 717784เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2024 04:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน 2024 04:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท