รีวิว คำเชิญจากฆาตกร : A Deady Invitation (2023 netflix)


รีวิว สปอยล์ คำเชิญจากฆาตกร : A Deady Invitation (2023 netflix) หญิงสาวคนหนึ่งที่หมกมุ่นกับอาชญากรรม เข้าไปโพธิ์พันธ์กับคดีฆาตกรรมของพี่สาวในแวดวงไฮโซ โดยการถูกรับเชิญไปยังเกาะกลางทะเลแห่งหนึ่ง พร้อมกับใครอีกหลายคนที่ดูแล้วล้วนแต่น่าสงสัย เธอจะต้องหาตัวคนร้ายให้พบก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย

ดูคลิปสปอยล์ที่นี่

#เหตุการณ์ฆาตกรรม
หนังเปิดเรื่องด้วยอากธา เฮอร์นันเดส หญิงสาวคนหนึ่งที่หมกมุ่นกับการไขปริศนาและเหตุการณ์ฆาตกรรม จนมีช่อง podcast อันโด่งดังเป็นของตัวเอง วันหนึ่งเธอได้รับ จดหมายจากใครคนหนึ่งที่ห่างหายจากเธอไปนานแล้ว นั่นก็คือ โอลิเวีย พี่สาวที่แต่งงานกับคาลอส มหาเศรษฐฐีคนหนึ่ง ให้ไปยังคฤหาสน์กลางเกาะที่ประเทศเม็กซิโก

แต่การเชิญไปครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เธอกับมีบุคคลอีก 5 คนร่วมด้วย รวมกับเธอก็เป็น 6 คนซึ่งแต่ละคนนั้นก็มีความสัมพันธ์กันแบบหลวม ๆ และทุกคนก็รู้ว่าคาลอสกับโอลิเวีย ได้สูญเสียลูกสาวชื่อว่าเอลิซ่าไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นได้สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับ 2 สามีภรรยาคู่นี้เป็นอย่างมากจนถึงขนาดตั้งชื่อคฤหาสน์การเกาะที่ว่า วิลล่าเอลิซ่า

เมื่อไปถึงทุกคนก็ได้แบ่งห้องนอนกัน ในงานเลี้ยงอาหารริมชายหาด คริสติน่าหญิงสาวที่ทำงานในคฤหาสน์หลังนี้ก็ได้ออกมาอ่านจดหมายได้บอกกับทุกคนว่าให้เตรียมตัวทุกคนนั้นจะถูกเชิญให้ไปกินอาหารค่ำบนเรือสำราญกลางทะเล

เมื่อทุกคนขึ้นไปบนเรือแล้วก็ได้พบกับคาลอส มหาเศรษฐฐีที่เป็นหมอทำธุรกิจโรงพยาบาล และอีกหลายกิจ กลับโอลิวียอดีตภรรยาที่เลิกรากันไปได้สักพัก ยืนต้อนรับอยู่ แล้วในคืนนี้ทุกคนจะต้องออกไปกลางทะเลและนอนบนเรือสำราญลำนี้

ในอาหารค่ำ โอลิเวียก็ได้พูดกับทุกคนว่า ทุกคนนั้นไม่ได้มาที่นี่โดยบังเอิญแต่มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญก็คือ จะต้องช่วยกันไขปริศนาให้ได้ว่า ในคืนนี้จะมีคนในกลุ่มทั้ง 8 คน จะมีคนใดคนหนึ่งไม่ได้ขึ้นฝั่ง ทุกคนมีโอกาสที่จะถูกทำร้ายจากคนข้างๆ ทุกคนจะต้องหาได้ว่าคนนั้นคือใครและมีเหตุผลในการทำร้ายอย่างไร และหาแรงจูงใจในการทำร้ายนั้นด้วย

จากนั้นโอลิเวียก็ได้พูดถึงแรงจูงใจของทุกคนตามที่ตัวเองได้พูดในเชิงสันนิษฐานโดยเรียงลำดับก็คือ

อากธาที่เป็นน้องสาวของเธอนั้นจะได้รับผลประโยชน์หากเธอเสียชีวิตเพราะอากาธาจะกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวและจะได้รับมรดกมามหาศาล  อากธาก็จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดบนเรือลำนี้

คนต่อมาก็คือโซเนีย หญิงสาวที่เป็นเพื่อนน่ารักของโอลิเวีย และเป็นคนที่น่าจะเกลียดโอลิเวียมากที่สุด เพราะเคยเป็นอดีตคนรักของคาลอสสามีของเธอ แต่กลับถูกโอลิเวีย ที่เป็นอดีตหุ้นส่วนในการทำธุรกิจน้ำหอมแย่งมาจนแต่งงานกัน จึงทำให้โซเนียน่าจะมีแรงจูงใจในการฆ่าโอลิเวียก็เป็นได้

คนที่สามก็คือนารัม ชายหนุ่มมาเซอร์ผมยาวที่คลั่งไคล้อินเดียและเป็นครูสอนโยคะ เขารักโซเนียมากที่จะทำร้ายทุกคนที่คิดจะทำร้ายโซเนีย เพราะซาเนียได้พูดกับนารัมว่า นารัมก็คือรักแท้ของเธอ

คนต่อมาชื่อว่าการี่ เป็นชายหนุ่มรูปงามเป็นนักแสดงและเป็นอดีตคนรักของโอลิเวีย แต่มีชีวิตที่ล้มเหลวเพราะในขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเขาได้ทำปืนลั่นใส่นักแสดงคนหนึ่งถึงเสียชีวิต จากนั้น ชีวิตการแสดงและธุรกิจก็ไม่ได้รุ่ง แถมยังต้องยืมเงินคาลอสมาช่วยจ่ายค่าทนาย และก็ไม่มีเงินคืน ดังนั้นถ้าเขาสามารถหาตัวคนร้ายที่จะก่อเหตุฆาตกรรมในคืนนี้ได้เขาก็จะได้เงินจากการไขคดีครั้งนี้

คนที่ห้าก็คือ ฟีเก เป็นชายหนุ่มอดีตศัลยแพทย์ที่เคยทำงานในโรงพยาบาลของคาลอส แต่ก็ลาออกเพราะว่ามีปัญหากับการผ่าตัดคนไข้ครั้งสุดท้าย และ มีปัญหาเรื่องเงินประกันในโรงพยาบาลที่คาลอสเป็นเจ้าของ

จากนั้นโอลิเวียเลียก็ได้พาดพิงไปที่คาร์ลอส เธอได้ตัดพ้อต่อหน้าทุกคนว่าเขาเป็นผู้ชายที่สนใจแต่เงิน เป็นผู้ชายที่สนใจแต่ยา ไม่สนใจเมีย ไม่สนใจครอบครัว และไม่สนใจลูกสาวซึ่งก็คือเอลิซ่าที่เสียชีวิตไปเมื่อห้าปีที่แล้ว

เมื่อโอลิเวียสันนิษฐานแรงจูงใจของทุกคนที่จะสามารถก่อเหตุฆาตกรรมได้ทุกเมื่อให้กับทุกคนได้ฟังแล้ว เธอก็ได้บอกให้ทุกคนนั้นเตรียมตัวเอาไว้ สิ่งที่เธอพูดนั้นไม่ใช่เกมคืนนี้จะต้องมีคนเสียชีวิตอย่างแน่นอน ทุกคนต้องหาให้ได้ใครจะเป็นคนที่ก่อเหตุฆาตกรรม แล้วใครจะเป็นคนที่ถูกฆาตกรรม

เมื่อทุกคนแยกย้ายกันเข้าห้องส่วนตัวแล้ว อากธาก็เข้าไปห้องนอนของโอลิเวีย เข้าไปพูดคุยกันฉันพี่น้อง อากธาถามพี่สาวของเธอว่าเพราะเหตุใดจึงถึงเรียกทุกคนมา ไม่ได้พูดเรื่องราวการเกิดฆาตกรรมในวงอาหาร โอลิเวียก็จะพูดกับน้องสาวไปว่าเธอเป็นคนฉลาดอยู่ไปสักพักเธอก็จะสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมดและมองเห็นความจริงทั้งหมดได้เอง

ในค่ำคืนนั้นเองในขณะที่ทุกคนกำลังหลับไหลอยู่บนเรือสำราญ อากธานอนอยู่ในห้องนอนของเธอมีผ้าปิดตา แต่ก็มีเสียงดังกุกกักทำให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมากลาง เธอได้ยินเสียงคนร้องเสียงดังเสียงของแตก แล้วเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องนอนแล้วก็พบว่าทุกคนนั้นกำลังยืนอยู่บนชั้น 2 ของเรือมองไว้ที่ด้านหลังของเรือที่ด้านล่างของเรือนั้นก็เห็นร่างของโอลิเวียนอนแน่นิ่งไร้ลมหายใจอยู่ในชุดนอน เมื่อมองไปรอบข้างก็เห็นว่าเธอนอนอยู่บนพรม แล้วก็มีดอกไม้สีม่วงกระจัดกระจายอยู่รอบตัวเธอ เมื่อหมอฟรีเกลงไปตรวจก็พบว่าเธอนั้นหมดลมหายใจไปแล้ว คออยู่ในสภาพคอหัก ไม่สามารถช่วยชีวิตได้

จากนั้นก็รีบได้บอกให้กัปตันโทรศัพท์ไปที่ฝั่ง เพื่อแจ้งเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ แต่กัปตันเองก็ไม่สามารถโทรศัพท์ไปแจ้งได้ก็เพราะว่า น่านน้ำกลางทะเลที่เรือลอยลำอยู่นั้นมันอยู่ในเขตเชื่อมต่อของสามเมือง ซึ่งจะไม่มีเมืองไหนรับเหตุฆาตกรรมนี้ ทำได้เพียงแค่ลอยเรือกลับไปบนเกาะส่วนตัวของครอบครัวโอลิเวีย

แต่เมื่อเรือสำราญกำลังจะเที่ยวฝั่งทุกคนก็ได้ยินเสียงระเบิดดังลั่นและเห็นว่าเสาอากาศสื่อสารเพียงหนึ่งเดียวบนเกาะนั้นได้ถูกทำลายต่อหน้าต่อตา

โชคดีที่สารวัตรมากาโลนและผู้หมวดคนหนึ่งมาดูแลคดี แต่เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นกลางทะเลสารวัตรจึงสั่งให้ทุกคนห้ามออกนอกพื้นที่เด็ดขาด เขาจะไปติดต่อกับทางการเพื่อดูว่าสถานีตำรวจที่ไหนต้องรับผิดชอบคดีนี้ ในระหว่างนี้ทุกคนจะต้องอยู่ภายในบ้านบนเกาะแห่งนี้ และเขาก็ทิ้งผู้หมวดคนหนึ่งทิ้งไว้เฝ้าทุกคน

#การสืบหาความจริง 
ก่อนที่จะมีการสืบคดีเป็นเรื่องเป็นราวนั้นก็มีเหตุการณ์ยิงเกิดขึ้นภายในบ้าน มีเสียงปืนดังขึ้นมาสามนัด นารัมถูกยิงที่แขน แต่คนร้ายนั้นก็หนีไปได้

เมื่อผู้หมวดกับอากธามาที่ห้อง ด้วยความที่อากธามีนิสัยชอบสืบค้นเรื่องราวและศึกษาเหตุการณ์ฆาตกรรมมาก เมื่อเธอเข้ามาเธอก็ได้กลิ่นดินปืนทันที เธอสูดดมกลิ่นนั้นแล้วก็พบว่าที่ตู้เสื้อผ้านั้นมีทางลับอยู่ด้านหลัง แล้วเธอก็เดินไปตามทางลับหลังตู้เสื้อผ้า จนรู้ว่าไปโผล่ที่ไหน

ผู้หมวดก็เป็นติ่งของอากธา เขาฟังพอดแคสต์ของเธอทุกวันชอบการวิเคราะห์คดีการฆาตกรรมของเธอเป็นอย่างมาก ในขณะทุกคนที่กำลังติดอยู่ในบ้านแห่งนี้อากธา ก็เลยชวนผู้หมวดไวละอ่อนทำการสืบคดีฆาตกรรม กันเพียงลำพังรอไปพลางๆก่อนที่จะมีตำรวจเข้ามา แล้วเธอก็ได้ให้สัญญากับผู้หมวดหน้าอ่อนคนนี้ว่าหากสามารถไขคดีได้เธอจะชวนตำรวจคนนี้ไปออกรายการ พอดแคสต์ของเธอซึ่งตำรวจเองก็ยินยอมพร้อมใจแต่โดยดี

ผู้หมวดกับอากธาจึงได้มาขอร้องให้ทุกคนบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฆาตกรรมบอกว่าในคืนวันเกิดเหตุบนเรือสำราญนั้นทุกคนทำอะไรอยู่ และก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นนั้นทุกคนอะไร ทุกคนก็ยินยอมพร้อมใจที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังทีละคนให้ฟัง จากนั้นหนังก็ได้ตัดภาพไปที่เหตุการณ์หรือสถานการณ์ของแต่ละคนที่ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้หมวดกับอากธา

ทั้งสองคนก็ได้รวบรวมข้อมูลโดยเริ่มต้นจากเหตุการณ์เสียชีวิตอย่างปริศนาของโอลิเวีย พบบุคคลต้องสงสัยมากมายรวมไปถึงคริสติน่าผู้เป็นคนรับใช้บ้าน กุสตาโว ใช่วัยกลางคนที่เป็นคนรับใช้ชายที่มีปัญหาด้านการมองเห็นเพียงแค่ตาข้างเดียวที่ทำตัวมีพิรุจ ทุกคนมีความน่าสงสัยทั้งสิ้น แม้แต่ตัวของหมอฟีกีเองก็ได้พกยาที่ไม่ควรจะพกขึ้นมาในเกาะแห่งนี้จำนวนมาก ทุกคนมีเรื่องปิดบัง และเมื่อทำการปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว มันก็มีเรื่องการเสียชีวิตของอาลิซ่าลูกของโอลิเวียร่วมด้วย

เมื่ออากธา สามารถปะติดปะต่อคำให้การของทุกคนได้แล้วเธอจึงสามารถสรุปเรื่องราวและเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับพี่สาวของเธอได้ทั้งหมดและเธอก็ได้เฉลยให้กับทุกคนได้ฟังโดยสรุปเป็นประเด็นดังนี้

#การสรุปเรื่องของอากธา

#เอลิซ่าไม่ใช่ลูกของโอลิเวีย
เอลิซ่าที่เป็นลูกของโอลิเวียที่ตายไปแล้วจากอบัติเหตุทางรถยนตร์แท้จริงแล้วไม่ใช่ลูกของเธอกับคาร์ลอส  แต่เป็นลูกของหญิงสาวแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งที่ถูกรับตัวเข้ามาในโรงพยาบาลของคาลอส ซึ่งหญิงสาวคนนั้นได้รับการดูแลโดยคริสติน่าที่อดีตนั้นเคยทำงานเป็นสังคมสงเคราะห์ที่ดูแลผู้หญิงขาดโอกาส และหญิงสาวคนนั้นก็เป็นน้องสาวของนารัม ซึ่งนางรำกับน้องสาวของเขานั้นก็เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้มีเงินทองอะไรทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่งเท่านั้น

#นารัมคือพี่ชายของแม่ที่แท้จริงของเอลิซา
วันหนึ่งนารัมได้เดินไปเห็นหนังสือพิมพ์และก็พบภาพเหตุการณ์การเสียชีวิตของเอลิซ่าลูกสาวของโอลิเวียจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อเขาเห็นใบหน้าของเด็กสาวก็รู้ทันทีว่านี่คือลูกสาวของน้องสาวของเขาเองที่ครั้งหนึ่ง เชื่อว่าเสียชีวิตตอนคลอด เขาจึงหาทางแก้แค้นครอบครัวนี้เพราะรู้ว่าลูกสาวของน้องสาวนั้นถูกลักพาตัว และเขารู้ว่าคาลอสนั้นมีส่วนเกี่ยวข้อง เขาจึงทำการหาคนที่จะสามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวของคาลอสให้ได้ก็คือเข้าทางโซเนีย อดีตแฟนสาวของคาร์ลอสที่เลิกร้างกันไป

นารัมรู้ว่าโซเนียนั้นชอบการเล่นโยคะเป็นอย่างมาก เขาจริงทำการฝึกวิชาโยคะ อ้างว่าตัวเองนั้นเป็นร่ำเรียนมาจากประเทศอินเดีย และทำตัวเป็นคนนิยมอินเดียจ๋า นั่นก็เพื่อให้โซเนียหันมาสนใจเขา แต่หลังจากที่พยายามแล้วโซเนียก็ไม่สนใจ เขาจึงตัดสินใจบอกกับโซเนียแบบตรง ๆ ว่า ต้องการจะแก้แค้นครอบครัวของคาลอส จึงขอความร่วมมือจากเธอ แล้วเธอก็เต็มใจเป็นอย่างยิ่งเพราะว่าเธอนั้นก็โกรธแค้นที่คาลอสเลิกกับเธอไปแต่งงานกับโอลิเวีย

ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องของนารัม โอลิเวีย รู้เรื่องมาตลอดจึงถูกเชิญมาบนเกาะส่วนตัวของเธอ

นอกจากที่อากธารู้ว่านารัมไม่ใช่คนรวยแต่เป็นคนที่ปลอมตัวเป็นคนรวยแล้ว ก็ยังรู้ว่าเขานั้นไม่ได้เคยไปอินเดีย ไม่เคยคลั่งอินเดียด้วยซ้ำ ที่รู้ก็คือเขาใช้มือซ้ายในการกินอาหาร ซึ่งคนอินเดียที่คลั่งการปฏิบัติตนมาก ๆ จริง ๆ แล้วจะไม่ใช้มือซ้ายที่ใช้ในการชำระล้างมากินอาหาร ดังนั้นนารัมจึงถูกจับผิดได้ง่ายที่สุด

แต่หลังจากที่นารัมได้รู้ว่าลูกสาวของน้องสาวของเขานั้นได้อยู่ดีมีสุข ได้รับการเลี้ยงดูจากโอลิเวียเป็นอย่างดี เขาก็ไม่ได้คิดจะแก้แค้นกับโอลิเวียเลย เขาจึงปล่อยให้ความแค้นนั้นมันผ่านไป และก็คบหากับโซเนียต่อไปด้วย จนเมื่อทั้งสองคนได้รับจดหมายเชิญมาที่เกาะนั่นแหละ

#คาลอสกับคริสติน่าจัดหาลูกให้คนรวย
คาลอสเป็นหมอสูตินารีที่เล่นไม่ชื่อกับวิชาชีพ เขาสามารถหาช่องทางรวยให้กับอาชีพของเขาได้ก็คือนำเด็กที่ถูกคลอดจากหญิงสาวที่ขาดโอกาสนั้น ไปมอบให้กับมหาเศรษฐีในเม็กซิโกที่ต้องการ ลูกมาเลี้ยงมาก ๆ ซึ่งแต่ละคนนั้นยอมจ่ายในราคามหาศาล และตัวของคาร์ลอสก็ได้ร่วมมือกับคริสติน่าในการทำเรื่องเลวร้ายนี้ แต่ในกรณีของลูกที่เกิดจากน้องสาวของนารัม ไม่ได้ถูกนำไปให้มหาเศรษฐีคนไหน แต่ถูกนำมาให้กับโอลิเวียเลี้ยงดู โดยหลอกโอลิเวียว่าเป็นลูกที่เกิดมาจากแม่ที่เสียชีวิต โอลิเวียก็เลี้ยงดูเป็นอย่างดี จนเมื่อลูกสาวบุญธรรมของเธอคนนี้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เธอก็ได้สืบเรื่องราวจนพบว่านี่มันเกิดมาจากธุรกิจอุบาทว์ของสามีของเธอ เธอทำการสืบค้นเรื่องราวจนรู้ความจริงทั้งหมดและนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอนั้น เลิกลากับคาลอส

#คริสติน่ายิงนารัม
ส่วนเหตุการณ์ที่มีการยิงในบ้านถึง 3 นัดนั้น ก็เป็นการยิงจากคริสตินาเอง ซึ่งเธอนั้นเป็นคนชราที่ไม่มีเรี่ยวแรงในการถือ เธอยิงปืนถึง 3 นัดก็ไม่สามารถจัดการกับนารัมได้ และแรงจูงใจที่ทำให้คริสติน่าต้องยิงนารัมนั้นก็คือเธอจำหน้าผู้ชายคนนี้ได้ทันที ซึ่งถ้าชายคนนี้ยังมีชีวิตอยู่เขาก็จะเปิดเผยความชั่วร้ายที่คริสติน่าร่วมกันทำกับคาลอสนั่นเอง

โอลิเวียได้กำชับว่านารัมกับโซเนียจะต้องอยู่ในห้องนี้เท่านั้น เพราะเธอรู้ว่าหลังตู้เสื้อผ้านั้นมีทางเดินไปจนถึงห้องของคริสติน่า เธอรู้ว่าคริสติน่าจะต้องมาจัดการกับนารัมอย่างแน่นอน แล้วมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ

และแท้จริงแล้วห้องนี้อากธาเลือกก่อน แต่เธอก็ถูกสั่งให้ย้ายห้อง ถึงแม้ว่าเธอจะเก็บข้าวของออกไปหมดแล้วแต่เธอก็ได้ทิ้ง กล้องที่เอาไว้สำหรับทำพอดแคสต์เอาไว้ในห้อง และกล้องนั้นก็ได้ถ่ายทอด เห็นคริสติน่าเดินออกมาจากตู้แล้วก็ยิงปืนใส่นารัมสามนัดอย่างชัดเจน และเธอก็รู้ว่าทางเดินจากตู้เสื้อผ้าในห้องนอนนั้นเชื่อมไปถึงห้องนอนของคริสติน่า

#โอลิเวียไม่ได้ถูกใครฆ่า
ส่วนการตายของโอลิเวียบนเรือสำราญนั้นไม่ได้เกิดจากใครทำ แต่เป็นเพราะโอลิเวียนั้นเลือกที่จะจบชีวิตด้วยตัวเองเพราะเธอมีปัญหาด้านสุขภาพเป็นมะเร็งในระยะสุดท้าย ซึ่งคนที่รู้เรื่องการป่วยก็คือหมอฟีเก แล้วหมอคนนี้ก็ช่วยดูแลเธอเป็นอย่างดี

เหตุผลที่หมอช่วยดูแลโอลิเวียก็เพราะว่าครั้งหนึ่งหมอฟีเกได้ทำการผ่าตัดให้กับคนไข้คนหนึ่งและทำให้เสียชีวิตไม่ตั้งใจ เขาเสียใจในความผิดนั้นมาก จึงไปปรึกษากับคาลอส แตกคารอสบอกให้ปิดปากเรื่องนี้เอาเงียบ พร้อมเสนอเงินจำนวนหนึ่งให้เขาเพื่อเป็นการปิดปาก ถึงแม้ว่าเขาจะรับเงินนั้นมาแต่ก็ไม่สบายใจ เขาจึงนำเรื่องราวทั้งหมดไปปรึกษากับโอลิเวียอีกต่อหนึ่ง โอลิเวียแนะนำว่าให้เก็บเงินจำนวนนั้นเอาไว้แล้วก็ไปทำในสิ่งที่ถูกต้อง หมอซีเกย์จึงนำเงินนั้นไปเปิดคลินิกเพื่อช่วยเหลือคนทั่วไป หมอจึงรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณของโอลิเวีย

#ทุกอย่างวางแผนโดยโอลิเวีย
ส่วนเสาสัญญาณบนเกาะที่ถูกระเบิดนั้น แท้จริงแล้วก็คือฝีมือขอกุสตาโวคนรับใช้ ซึ่งเขานั้นมีความซื่อสัตย์กับโอลิเวียเป็นอย่างมาก โอลิเวียได้แอบรักษาตาของเขาจนหายทั้ง 2 ข้าง แต่เมื่อหายแล้วเขาก็ยังปิดบังว่าตัวเองนั้นตายังไม่ดีโดยการปิดบังดวงตาเอาไว้ เขาจึงรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณ และเมื่อโอลิเวียสั่งให้ทำอะไรก็ทำ โอลิเวียสั่งให้เขาจัดหาดอกไม้มาตกแต่งบ้านในวันที่ทุกคนขึ้นมาบนเกาะ และก็สั่งให้เขานั้นระเบิดเสาอากาศหลังจากที่เรือกับมา ดังนั้น กุสตาโวจึงรู้ว่าโอลิเวียนั้นวางแผนจบชีวิตของตนกลางทะเล

การที่โอลิเวียวางแผนให้ทุกคนไปกินอาหารค่ำกลางทะเลนั้น มันก็คือการเลือกที่เธอจะจบชีวิต ในช่วงเวลากับสถานที่อันพอเหมาะ เธอรู้ว่าตำรวจจะไม่สามารถจัดการ การเสียชีวิตของเธอได้อย่างรวดเร็ว นั่นเป็นการซื้อเวลาให้น้องสาวของเธอ ซึ่งก็คืออากาธาได้ทำการสืบเรื่องราวนี้ให้ได้ทั้งหมด ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะว่าอากาธามองทุกอย่างปรุโปร่ง ตำรวจที่ดูแลก็มีความลังเลในการจัดการกับคดีด้วย มันทำให้อากธารู้ว่าคาลอสทำธุรกิจเลวร้าย และยังคงจัดหาเด็กให้กับมหาเศรษฐีอีกต่อไป ซึ่งตัวของเธอเองก็ไม่สามารถแจ้งตำรวจได้เพราะรู้ว่าสามีของเธอนั้นรู้จักกับผู้มีอิทธิพลจำนวนมาก และผู้มีอิทธิพลนั่นแหละที่ต้องการลูก ต่อให้มีการดำเนินคดีทุกอย่างมันก็จะจบไปอย่างรวด เธอจึงใช้วิธีการทำให้ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาที่เกาะแห่งนี้ แล้วก็ให้น้องสาวที่มีความฉลาดปราดเปรื่องนั้นไขคดีนี้ทั้งหมด

#การีนักแสดงก็สำคัญ
ส่วนการี่นักแสดงหนุ่มก็เหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่ก็มีส่วนมากเพราะเขาเป็นคนพบเอกสารการเสียชีวิตของทารกหลายคนจนอ้างอิงไปถึงโรงพยาบาลของคาลอสได้ จนทำให้อากธาไขปริศนาได้นั่นเอง

#ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
การเฉลยการก่อเหตุฆาตกรรมและแรงจูงใจทั้งหมดนี้ ได้เปิดเผยต่อสารวัตรมากาโลนและผู้หมวด แล้วหลังจากเฉลยเสร็จคาลอสกับคริสติน่าก็พสกันหนีวิ่งไปบนชายหาดจะไปยังเรือสำราจที่ลอยลำห่างจากฝั่งเพียงนิดเดียว

แต่กุสตาโวก็ได้บอกกับทุกคนว่า แท้จริงแล้วโอลิเวียไม่ใช่สั่งให้เขาติดตั้งระเบิดที่เสาสื่อสารเท่านั้น แต่ที่สั่งให้ติดตั้งระเบิดไว้ที่เครื่องของเรือสำราญด้วย หากจะทำการระเบิดเพื่อตัดเส้นทางการหนีของคาลอสกับคริสติน่าจะต้องระเบิดเครื่องเรือ และจะกดระเบิดได้ก็ต่อเมื่ออากธานั้นยินยอมพร้อมใจเพราะสมบัติทั้งหมดที่เป็นของโอลิเวียนั้นได้กลายเป็นของอากธาทั้งหมดอากาธาก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะระเบิดเครื่องเรือ เธอได้ส่งที่กฎระเบิดให้กับนารัม เพราะมันสะสมแล้วกับสิ่งที่นารัมกับน้องสาวของเขาได้เจอ นารัมก็ได้กดรีโมททันที ทำให้คาลอสกับคริสติน่าก็ถูกจับไปตามระเบียบ

อากาธาได้บอกแรงจูงใจทั้งหมดที่โอลิเบียพี่สาวได้จัดการเรื่องราวอันซับซ้อนเหล่านี้ว่า หลังจากที่โอลิเวียร์นั้นเศร้าโศกเสียใจจากการสูญเสียลูกสาวของเธอในเหตุการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอก็ทำการสืบจนรู้ว่าทั้งหมดนั้นมันคือธุรกิจอะไรของสามีเธอ เธอต้องการจะชดใช้และขอโทษให้กับนารัมและน้องสาวของเขา เธอสำนึกผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น เธอสื่อสารด้วยการตกแต่งช่อดอกไม้ไว้ทั่วบ้าน เธอไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครอีกต่อไป

#ปริศนาทิ้งท้าย 
หลังจากประกอบพิธีไว้อาลัยการเสียชีวิตของโอลิเวีย เอลิซ่าที่ริมชายหาด ประกอบด้วยอากธา นารัม ฟีเก โซเนีย การี่นักแสดง จบลงทุกคนก็แยกย้าย เหลือไว้เพียงอากาธากับหมอฟีเก

จากนั้นเพื่อนสาวคนสำคัญของอากธา ที่เธอให้ช่วยเหลือในการสืบหาเบาะแสของทุกคนผ่านระบบอินเทอร์เน็ทก็เดินทางมาที่เกาะแห่งนี้ แล้วมอบเอกสารผลการชันสูตรศพของโอลิเวียให้อากาธา นั่นมันทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ในร่างของโอลิเวียนั้นด้พบสารมอฟีนจำนวนมาก ซึ่งเธอเองเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าหมอฟีเกพกมาจำนวนมากทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น นั่นมันทำให้หมอมีส่วนเกี่ยวกับการตายของโอลิเวียด้วย

แต่หมอฟีเกได้บอกกับอากาธาเรื่องที่เขาดูแลโอลิเวียทั้งหมด เพราะเขาทำเพื่อตอบแทน ที่โอลิเวียดูแลเขาเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องคดีคนไข้ที่เขารักษาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และการที่เขาต้องฉีดมอร์ฟีนเข้าไปในร่างกายของโอลิเวียจำนวนมากนั้นมันก็คือประสงค์ของโอลิเวียเอง ซึ่งเธอนั้นรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายแล้วจะเสียชีวิตอีกไม่นาน เธอจึงเลือกจบชีวิตบนเรือสำราญเพื่อให้เรื่องราวทั้งหมดนั้นมันถูกไขปริศนาด้วยอากาธา โอลิเวียสั่งให้ฉีดมอร์ฟีนเพราะว่าไม่อยากให้เธอต้องเจ็บปวดมากนักจากสิ่งที่ตัดสินในบนเรือในคืนนั้น

แล้วหมอพีเกยกได้บอกกับอากาธาว่า จะนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้กับตำรวจก็ได้นะเพราะเขาพร้อมที่จะรับผลจากการกระทำอยู่แล้ว แตกอาคาก็ตัดสินใจไม่แจ้งตำรวจเพราะรู้ว่า สิ่งที่พี่สาวของเธอต้องการนั้นจะต้องทำให้ได้ แล้วหมอพีเกย์นั้นก็ทำตามทุกอย่างที่พี่สาวของเธอสั่ง จากนั้นทั้งสามคนก็แยกย้ายกันไป

อากาธาได้อวดบ้านหลังใหม่กลางเกาะส่วนตัวที่เพิ่งได้รับมรดกกับเพื่อสาว

จากนั้น คำเชิญจากฆาตกร : A Deady Invitation ก็จบลง ณ ตรงนี้

#บทวิจารณ์ภาพยนตร์ 
คำเชิญจากฆาตกร : A Deady Invitation ถ้าเป็นภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนไขปริศนาฆาตกรรม โดยใช้เหตุการณ์ฆาตกรรม บนเรือสำราญกลางทะเลเป็นตัวตั้ง โดยมีหญิงสาวผู้ที่คลั่งไคล้ในการสืบและไขคดีปริศนาฆาตกรรมมาเป็นคนไข แล้วก็ค่อยสืบหาเบาะแสทุกอย่าง นำมาปะติดปะต่อกันแล้วค่อยเฉลยในช่วงท้ายเรื่อง ดูไปดูมามันก็เหมือนกับอารมณ์ที่เราดู Knives Out ฆาตกรรมหรรษาใครฆ่าคุณปู่ หรือ Glass Onion: A Knives Out Mystery ฆาตกรรมปริศนาใครฆ่าเพื่อน เล่าเรื่องราวการสืบหาเหตุการณ์ฆาตกรรมในพื้นที่ปิด โดยมีนักสืบเบอนัวต์ บลองก์เป็นผู้หขคดีนั่นแหละ เพราะบรรยากาศนั้นมันไม่ได้เคร่งเครียดอะไรมาก ไม่ได้ขมปี๋แบบ Murder on the Orient Express

แต่ส่วนหนึ่งที่ดูแล้วรู้สึกได้ก็คือทุกอย่างนั้นมันง่ายไปหมด อากธา สามารถสรุปเรื่องราวต่าง ๆ และวิเคราะห์ออกมาได้เป็นฉาก ๆ โดยที่เราในฐานะคนดูนั้น ถูกงำภาพสำคัญเอาไว้อย่างชัดเจน เหมือนว่าอะไรที่เขาอยากจะเฉลยเขาก็เอาออกมาเลย ไม่ได้มีปมหรือสิ่งสังเกตทิ้งเอาไว้ได้มากเท่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ก็ยังไม่มีตัวล่อลวงที่มีพลังมากพอ

อย่างเช่นชายรับใช้ที่ปิดตาไปข้างเดียวที่ดูถูกสร้างมาเป็นตัวล่อ แต่สูตรนี้มันก็เป็นอะไรที่ตายในตัวมาก ๆก็คือใครที่น่าสงสัยมากที่สุดในช่วงแรกมักจะไม่ใช่คนนั้นแหละ ดังนั้นในประเด็นการล่อลวงคนดูก็ถือว่ายังทำได้ไม่น่าประทับใจมากพอ นอกจากนี้ก็ยังไม่มีสถานการณ์พลิกผันกลางเรื่องด้วย ซึ่งหนังหรือนิยายสืบสวนที่ดีนั้นมันจะมีจุดพลิกอยู่กลาง ที่ดูเหมือนว่ามันจะใช่อย่างที่สุดแล้วแต่มันก็พลิกได้อย่างทันทีทันใด ที่เราเรียกว่าการหักมุมนั่นแหละ ถึงแม้คำเชิญจากฆาตกร : A Deady Invitation มันอาจจะพอมีบ้าง แต่ส่วนตัวรู้สึกว่ายังไม่มีพลังมากพอ

คำเชิญจากฆาตกร : A Deady Invitation เป็นหนังจากสเปนมันจึงทำให้เรานั้นไม่รู้จักนักแสดงคนไหนเลย มันจึงมีประโยชน์เป็นอย่างมากเพราะเราไม่รู้ว่าใครคนไหนควรจะเป็นอย่างไร เราสามารถตัดทิ้งทางด้านภาพลักษณ์ของนักแสดงกับตัวละครไปได้เลย

ส่วนภาพรวมและปมปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหนัง ที่จะสามารถสร้างแรงจูงใจทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดได้นั้นก็ถือว่าทำออกมาใช้ได้ดี น่าติดตาม น่าสงสัย เพียงแค่จุดเฉลยมันยังไม่ถึงกับว๊าวเท่านั้น แต่ภาพรวมทั้งหมดนั้นก็พูดได้เต็มปากเช่นกันว่า คำเชิญจากฆาตกร : A Deady Invitation มีความสนุกพอตัว

ส่วนชื่อของตัวละครหลักที่ไขคดีคือ อากธา ก็เชื่อว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากอกาธา คริสตี นักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่สร้างความประทับใจกับนิยายสืบสวนสอบสวนหลายเรื่องของเธอ โดยเฉพาะการสร้างเบอนัวต์ บลองก์ ให้กลายเป็นสุดยอดนักสืบคนสำคัญของโลกที่มีชื่อเสียงไม่แพ้เชอร์ล็อค โฮล์ม ของอังกฤษเลย ส่วนตัวมองว่า ตัวละครอากธานักพอตแคสต์สาวที่คลั่งไคล้การสืบและการวิเคราะห์เหตุกทรณ์ฆาคกรรมยังสามารถไปได้ต่อได้อีก ถ้า netflix ทำอีกก็จะตามดู

7/10
@วาทิน ศานติ์ สันติ

#SuperReviewChannel
#ADeadyInvitation2023
#ADeadyInvitationNetflix 
#คำเชิญจากฆาตกร
#หนังสืบสวนสอนสวนจากสเปน 
#หนังไขคดีฆาตกรรมจากสเปน

หมายเลขบันทึก: 714980เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2023 11:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 ตุลาคม 2023 11:56 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท