หน้าแรก
สมาชิก
"คนเมืองน้ำดำ"
สมุด
รวมสารพัดเรื่องรา...
"ตำนาน นายขนมต้ม"
"คนเมืองน้ำดำ"
นาย ทรงศักดิ์ ภูเก้าแก้ว
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
"ตำนาน นายขนมต้ม"
"ตำนาน นายขนมต้ม"
“นายขนมต้ม”
เป็นนัก
มวยคาดเชือก
ชาว
กรุงศรีอยุธยา
บ้างก็ว่าไม่มีจริง
-เรื่องราวของนายขนมต้ม ปรากฏครั้งแรกใน
พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน
โดยกล่าวว่า
-ฝ่ายพระเจ้าอังวะยังอยู่ ณ
เมืองย่างกุ้ง ทำการยกฉัตรยอดพระมหาเจดีย์เกษธาตุ
สำเรจ์แล้วให้มีการฉลอง
-มีขุนนางพม่ากราบทูลว่า
"คนมวยเมืองไทมีฝีมือดียิ่งนัก
-พระองค์ตรัสสั่งให้จัดหามา ได้นายขนมต้มคนหนึ่ง เป็นมวยดีมีฝีมือแต่ครั้งกรุงเก่า เอาตัวมาถวายพระเจ้าอังวะ
-พระเจ้าอังวะจึ่งให้จัดพม่าคนมวยเข้ามาเปรียบกับนายขนมต้มได้กันแล้ว ก็ให้ชกกันหน้าพระธินั่ง
-แลนายขนมต้มชกพม่าไม่ทันถึ่งยกก็แพ้ แล้วจัดคนอื่นเข้ามาเปรียบชกอิก นายขนมต้มชกพม่าชกมอญแพ้ถึ่งเก้าคนสิบคนสู้ไม่ได้
-พระเจ้าอังวะทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระตรัสสรรเสรีญฝีมือนายขนมต้มว่า
“ไทมีพิษอยู่ทั่วตัว แต่มือเปล่าไม่มีอาวุธเลยยังสู้ได้ คนเดียวชณะถึงเก้าคนสิบคนฉนี้ เพราะจ้าวนายไม่ดีจึ่งเสียบ้านเมืองแก่ข้าศึก ถ้าจ้าวนายดีแล้วไหนเลยจะเสียกรุงศรีอยุทธยา”
แล้วพระราชทานรางวัลแก่นายขนมต้มโดยสมควร
“พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน”
-ส่วน
พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา
"
ที่ชำระในสมัยหลัง และเป็นฉบับที่มีการตีพิมพ์อย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา ก็ยังคงยึดถือเนื้อหาในพระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียนเป็นต้นแบบ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับหลักฐานอื่นๆ แล้ว ไม่ปรากฏพบเรื่องราวของนายขนมต้มแต่อย่างใด
-
มหาราชวงศ์ ฉบับหอแก้ว
มีการกล่าวเพียงแค่
พระเจ้ามังระ
โ
ปรดฯ ให้บูรณะและการยกยอดฉัตร
พระมหาเจดีย์
ชเวดากอง
เมืองย่างกุ้ง ปิดทองพระเจดีย์เท่าน้ำหนักตัวพระองค์ และสร้างฉัตร 7 ชั้น ทำด้วยทองคำฝังอัญมณี 15,038 เม็ดสำหรับประดิษฐานบนยอดพระเจดีย์ พระเจ้ามังระเสด็จไปยกฉัตรด้วยพระองค์เอง
ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือนตะเบางก์ จ.ศ. 1136 (17 มีนาคม พ.ศ. 2317)
สอดคล้องกับคำให้การชาวอังวะ ที่กล่าวถึงเพียงการยกฉัตรมหาเจดีย์ชเวดากองใน พ.ศ. 2317 และให้ประหารชีวิต
พญาทะละ
-ส่วนพงศาวดารมอญพม่าก็มีเนื้อหาไม่แตกต่างกัน และไม่ปรากฏพบเรื่องราวของนายขนมต้มแต่อย่างใด
*สิ่งสืบทอด
-ได้เคยมีการจัดให้วันที่ 17 มีนาคม เป็น
วันมวยไทย
เพื่อเป็นเกียรติประวัติต่อ
นักมวยไทย
-นอกจากนี้ ชาวพระนครศรีอยุธยาได้พร้อมใจกันสร้าง
อนุสาวรีย์นายขนมต้ม
ไว้ที่บริเวณสนามกีฬากลาง
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
*ในวัฒนธรรมร่วมสมัย
-พ.ศ. 2529
คมทวน คันธนู
กวีซีไรต์ ได้นำเรื่องราวของนายขนมต้มมาเขียนเป็นนวนิยายเรื่อง
นายขนมต้ม คนกล้านอกตำนาน
-โดยผูกเรื่องให้นายขนมต้มเกิดที่
ตำบลบ้านกุ่ม
อำเภอบางบาล
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เป็น
บุตรนายเกิด และนางอี่ มีพี่สาวชื่อนางเอื้อย ทั้งพ่อแม่และพี่ถูกพม่าฆ่าตายหมด ต้องไปอยู่กับหลวงตาคง วัดปีกกาตั้งแต่เล็ก และได้เรียนวิชามวยกับชายนิรนาม"
-
สมรักษ์ คำสิงห์
เคยรับบทเป็นนายขนมต้มในละครโทรทัศน์เรื่อง
นายขนมต้ม
ซึ่งออกอากาศเมื่อปี พ.ศ. 2539
*
ประวัตินายขนมต้ม
-นายขนมต้ม เกิดวันอังคาร เดือนยี่ ปีมะเมีย พ.ศ. ๒๒๙๓ ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ครั้งกรุงศรีอยุธยา
ที่บ้านกุ่ม (ปัจจุบันคือ ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
บิดาชื่อ
นายเกิด
มารดาชื่อ
นางอี่
มีพี่น้อง
๒
คนคือ
๑.นางเอื้อย
ถูกพม่าฆ่าตายเมื่อเล็กๆ
๒.นายขนมต้ม
-
นายขนมต้มต้องอยู่วัดตั้งแต่เล็กๆ
อายุประมาณ ๑๐ ขวบ พ่อแม่ถูกพม่าฆ่าตายหมด และเริ่มฝึกวิชามวยไทย ตั้งแต่เริ่มแตกหนุ่ม จนในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ กรุงศรีอยุธยาต้องเสียแก่พม่า จึงถูกกวาดต้อนไปเมืองพม่า
-นายขนมต้มได้สร้างชื่อเสียงให้กับกรุงศรีอยุธยาและชาติไทย
โดยอาศัยความสามารถในเชิงหมัดมวย ดังข้อความตอนหนึ่งว่า...
-ในสมัยกรุงศรีอยุธยา
เรามีนักมวยไทย คือ นายขนมต้ม ออกไปแสดงฝีไม้ลายมือถึงเมืองพม่า การชกมวยของนายขนมต้มนั้น ทางวงการมวยของเราได้ถือเป็น"วันนักมวย" คือ วันที่ ๑๗ มีนาคม ในพงศาวดารกล่าวว่า เมื่อพระเจ้าอังวะโปรดให้ปฏิสังขรณ์และก่อเสริมพระเจดีย์เกศธาตุในเมืองร่างกุ้งเป็นการใหญ่นั้น ครั้นงานสำเร็จลงในปี พ.ศ.๒๓๑๗ พอถึงวันฤกษ์งามยามดี คือวันที่ ๑๗ มีนาคม จึงโปรดให้ทำพิธียกฉัตรใหญ่ขึ้นไว้บนยอดเป็นปฐมฤกษ์ แล้วได้ทรงเปิดงานมหกรรมฉลองอย่างมโหฬาร
-ขุนนางพม่ากราบทูลว่า
"นักมวยไทยมีฝีมือดียิ่งนัก" พระเจ้าอังวะจึงตรัสสั่งให้เอาตัว นายขนมต้มนักมวยดีมีฝีมือตั้งแต่ครั้งกรุงเก่ามาถวาย พระเจ้าอังวะได้ให้จัดมวยพม่าเข้ามาเปรียบ (ชก) กับนายขนมต้ม โดยจัดให้ชกต่อหน้าพระที่นั่ง ปรากฏว่านายขนมต้มชกพม่าไม่ทันถึงยกก็แพ้ถึงเก้าคนสิบคนก็สู้ไม่ได้ พระเจ้าอังวะทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระตรัสสรรเสริญนายขนมต้มว่า
"ไทยมีพิษทั่วตัว แม้แต่มือเปล่าไม่มีอาวุธเลย สู้ได้คนเดียวชนะถึงเก้าคนสิบคน" คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ถึงเก้าคนสิบคนนี่หากว่ามีเจ้านายดี มีความสามัคคีกัน ไม่ขัดขากันเอง และไม่เห็นแก่ความสุขส่วนตัว และโคตรตระกูลแล้ว ไฉนเลยกรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่ข้าศึก ดั่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้”
-ฉะนั้นหลังจากนายขนมต้มได้เอาชนะนักมวยพม่าแล้ว
พระเจ้ามังระได้ปูบำเหน็จแก่นายขนมต้ม
โดยแต่งตั้งเป็นข้ารับใช้ในกรุงอังวะแต่นายขนมต้มกลับปฏิเสธและขอให้พระเจ้ามังระปลดปล่อยตนและเชลยคนไทยทั้งหมดให้เป็นอิสระเพื่อกลับบ้านเกิด พระเจ้ามังระก็ยอมทำตามความประสงค์ ในที่สุดนายขนมต้มและเหล่าเชลยคนไทยก็ได้รับอิสรภาพและกลับไปยังบ้านเกิดก็คือแผ่นดินไทยที่มีกรุงธนบุรีเป็นราชธานีโดยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีนามว่า "ตากสินมหาราช
-นายขนมต้มก็ได้อาศัยอยู่บ้านเกิดอย่างสงบแต่ไม่ทราบว่าเสียชีวิตไปเมื่อใด
-สำหรับชาวพระนครศรีอยุธยา ได้สำนึกในบุญคุณของนายขนมต้มและถือเป็นเกียรติศักดิ์คนดีศรีอยุธยา จึงได้พร้อมใจกันสร้าง"อนุสาวรีย์นายขนมต้ม" ไว้ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นอนุสติเตือนใจและให้ลูกหลานไทยยึดถือเป็นแบบอย่างสืบไป"
เขียนใน
GotoKnow
โดย
"คนเมืองน้ำดำ"
ใน
รวมสารพัดเรื่องราว และ นานาสาระ
คำสำคัญ (Tags):
#นายขนมต้ม
หมายเลขบันทึก: 710282
เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2022 16:31 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2022 20:42 น. (
)
สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
หน้าแรก
สมาชิก
"คนเมืองน้ำดำ"
สมุด
รวมสารพัดเรื่องรา...
"ตำนาน นายขนมต้ม"
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท