สัปดาห์แห่งสุขและทุกข์


เหตุแห่งการเดินทาง

มีหนังสือจากศาลปกครองกลางลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระหว่างผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้อง โดยศาลจะนั่งพิจารณาคดีเป็นครั้งแรกในวันที่ ๒๒ กันยาน ๒๕๖๕ เวลา ๑๑.๐๐ น. คดีนี้ดำเนินมา ๕ ปีแล้ว แต่ความร้อนแรงของโทสะไม่ได้ลดลง ได้แต่ร้องขอต่อบารมีของพระรัตนตรัยในการช่วยดลใจอย่าให้ทำสิ่งเลวร้าย เพราะจำนวนหนึ่งของความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในสังคม เกิดจากการขาดสติเพียงงูแลบลิ้น

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงวางแผนในการเดินทางไปขึ้นศาลเป็นครั้งแรกในชีวิต และไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันแบบนี้ในประวัติศาสตร์ของการพยายามทำตามกฎกติกาทางสังคม ความเชื่อมั่นตัวเองแบบนี้อาจไม่ถูกเสียเลยทีเดียว เพราะถ้าเราทำตามกฎกติกาทางสังคม มีหรือที่เราจะโดนกฎหมายทำให้เราเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม จะดีหรือร้าย จะชอบหรือไม่ชอบ ทั้งหมดคือประสบการณ์ของการมีชีวิตบนโลกใบนี้ จากโลกใบนี้ไปสู่โลกอีกแบบหนึ่ง หากโลกอีกแบบหนึ่งมีซ้อนอยู่กับโลกใบนี้ เราก็ต้องเคลื่อนผ่านไปสู่ประสบการณ์ที่สัมพันธ์กับดลกใบอื่นอีก 

ช่วงนี้โควิดไม่ได้หายไป จึงจัดการลาการลางาน กำหนดวันที่ชัดเจน เลี่ยงการโดยสารเครื่องบินเป็นการขับรถดนเดียว เป้าหมายหลักคือศาลปกครองกลาง จังหวัดนนทบุรี วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๕ 

พักผ่อนก่อนเดินทาง

วันศุกร์ที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๕ หลังจากปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ ๐๘.๐๐-๑๖.๕๐ น. ตั้งใจว่าหากไม่เหนื่อยข้างในร่างก็จะเดินทางทันที แต่ถ้าเหนื่อยก็จะนอนพักก่อนสักคืน หลังปฏิบัติหน้าที่เต็มวัน พบว่าน่าจะไม่รอด จึงพักนอนและรู้สึกตัวแต่ก็ยังหลับตารับรู้ตัวเองอยู่เพราะยังอยากจะนอนต่อเผื่อว่าจะหลับแต่ไม่หลับ ระหว่างนั้นเหมือนจะฝันแต่ไม่น่าจะใช่ฝันว่า แม่ที่ตายไปแล้วแต่งชุดผ้าถุงเสื้อลูกไม้ยืนนิ่งอยู่ การยืนนิ่งนั้นไม่ได้ยืนนิ่งที่ข้างเตียง แต่เป็นการยืนนิ่งมองมาที่ผมจากที่แห่งหนึ่งแต่ใกล้ผมมากๆ เหมือนยืนกันอยู่ต่อหน้า ผมได้แต่คิดในใจว่า “แม่อยากจะบอกอะไรหรือ” พักใหญ่เมื่อดูว่าคงนอนไม่หลับแล้ว ดูนาฬิกาตีสามกว่าๆของวันเสาร์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๕ อาบน้ำ แต่งตัว บอกสาวที่นอนด้วยว่า ขอเดินทางก่อน เพราะนอนไม่หลับแล้ว 

เดินทางมุ่งหน้าสู่ชุมพร 

ดำเนินการตั้งทริป A จากสงขลามุ่งหน้าสู่จังหวัดชุมพร เช้าตรู่ของวันเสาร์แบบนี้ ถนนโล่ง ขับรถสบายใจ มีความพยายามที่จะรักษากฎจราจรคือ “ช้ากรุณาช่องทางซ้าย” เพื่อที่จะไม่ขวางรถที่ใช้ความเร็วสูงสำหรับช่องทางขวา แต่ถนนไม่ได้เรียบ บางครั้งการขับด้วยความเร็ว เมื่อลงหลุม ล้อหน้าจะสบัด อาจเกิดอันตรายได้ จึงจำเป็นต้องใช้ช่องทางขวาเพื่อเลี่ยงช่องทางซ้ายที่ไม่เรียบ สิ่งที่คิดในใจตลอดเวลาของการเดินทางคือ ไม่เกิน ๑๒๐ กม./ชม. ได้ข่าวว่ากฎหมายใหม่ให้ขับได้ไม่เกิน ๑๑๐ กม./ชม. ขณะที่ตลอดเส้นทางจะมีป้าย ๖๐ บ้าง ๙๐ บ้าง เป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะขับทางไกลด้วยความเร็ว ๙๐ กม./ชม. บางครั้งมองเข็มไมล์เลยไปที่ ๑๓๐ ต้องรีบชลอไม่ให้เกิน ๑๒๐ กม./ชม. เหตุที่เกินเพราะเป็นทางลงเนิน ไปถึงเมืองชุมพรช่วงเที่ยงแวะกินก๋วยเตี๋ยวครู…เลยเรือนจำชุมพรไปหน่อยหนึ่ง จากนั้นจึงแวะไปที่ขนำเพื่อไปดูความก้าวหน้าของบ้านป่าจาก พบว่า เสาทั้งหมดถูกปักลงเป็นที่เรียบร้อย รอแบบและหล่อเสาต่อไป การเดินออกจากสงขลาก่อนกำหนดเป้าที่วางไว้เพราะมีเรื่องอื่นซ้อนกันอยู่ที่จะต้องดำเนินการล่วงหน้าด้วย

ไปวัดหาดทรายรี

ตั้งใจว่าช่วงบ่ายๆจะเดินทางไปหาอาจารย์ประมวล ยั่งยืน ที่วัดหาดทรายรี ทราบว่าท่านจะเดินทางไปกรุงเทพฯเพื่อตรวจสุขภาพ เมื่อพบและคุยกับท่านตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงห้าโมงเย็น ผมตัดสินใจเปลี่ยนแผนการเดินทางเล็กน้อย ทราบจากอาจารย์ว่า อาจารย์จะเดินทางวันที่ ๒๐ กันยายน เพราะวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๕ จะมีการทำบุญอายุเจ้าคณะจังหวัดชุมพรที่วัดราษฎร์บูรณะ (วัดนอก) อำเภอหลังสวน และฉลองตราตั้งรองเจ้าอาวาสวัดพระ อารามหลวง อาจารย์ตั้งใจจะไปงานนั้นก่อน และอาจารย์ก็จองตั๋วไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ผมคิดว่า เราไม่ได้รีบเดินทางขนาดนั้น และวัดมีงานบุญ ถ้าเราจะไปร่วมทำบุญก่อนก็น่าจะดีไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นการใช้หนี้สงฆ์ อีกส่วนหนึ่ง ตัวเราเองไม่ค่อยจะได้ให้เวลากับการทำบุญเท่าไรนัก เมื่อโอกาสเข้าอย่างนี้ก็น่าจะฉกฉวยโอกาสนั้นไว้ จึงวางแผนในการเดินทางวันจันทร์ หลังจากไปบุญแล้ว จึงบอกอาจารย์ประมวลว่า วันจันทร์ผมจะไปทำบุญที่วัดนอกด้วย หากอาจารย์ไม่ประสงค์จะไปนอนที่วัดนอกในวันอาทิตย์ ผมสามารถจะมารับอาจารย์ในเช้าวันจันทร์ เวลา ๐๗.๐๐ น. เพื่อเดินทางไปวัดนอกด้วยกัน อาจารย์เปลี่ยนใจจากการที่มีลูกศิษย์จะมารับไปนอนที่วัดนอกในคืนวันอาทิตย์เป็นเดินทางเช้าวันจันทร์เมื่อมีความสะดวกเรื่องรถ จึงนัดแนะเวลา ๐๗.๐๐ น. ผมจะมารับอาจารย์ที่วัดหาดทรายรีและเดินทางไปหลังสวนพร้อมกัน

การเดินทางมาหาอาจารย์ประมวลรอบนี้ไม่ใช่เฉพาะสอบถามเรื่องการเดินทางไปกรุงเทพฯเท่านั้น แต่มานัดแนะอาจารย์ให้ชัดเจนในการทำบุญอายุอาจารย์ในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ที่จะถึงนี้ จัดโดยศิษยานุศิษย์ อาจมีการร่วมสมทบในการสร้างโบสถ์วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย/วัดศาลาลอยที่ถูกไฟไหม้ ๒ ครั้งแล้วด้วย 

เมื่อพูดคุยกับอาจารย์ในหลายเรื่องโดยเฉพาะการนัดแนะวันทำบุญอายุและสถานที่อย่างชัดเจนแล้ว จึงไปกราบนมัสการอาจารย์อ้น เจ้าอาวาสวัดหาดทรายรี ในการขออนุญาตใช้อาคารเพื่อทำบุญอายุอาจารย์ประมวล อาจารย์อ้นยังคงใจดีเสมอ ไม่ขัดและพร้อมสนับสนุนอย่างเป็นกันเอง ท่านบอกว่า ก่อนถึงวันงานก็มาทำความสะอาดกันเอาเองนะ ใช้ประโยชน์ได้ตามสบายเลย นี้เป็นภาระกิจแทรกที่ ๒ ถัดจากการสอบถามเรื่องการเดินทางไปกรุงเทพฯ ของอาจารย์ หากยังไม่ได้จองตั๋วจะได้ไปด้วยกัน

กลางคืนตั้งใจจะนอนที่ห้องหลาน แต่ก็เปลี่ยนใจ เหมือนกับวันอื่นๆที่ผ่านมา ยอมรับว่า ความเกรงใจจำนวนหนึ่งทำให้เกิดช่องว่างระหว่างกัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจจะละทิ้งความเกรงใจได้ เพราะรู้สึกว่า จะเป็นการรบกวนเขาให้ลำบากเพราะเรา ดังนั้น เพื่อไม่ให้ใครต้องลำบากเพราะเรา จึงตั้งใจจะกางเต้นที่เตรียมไว้ตลอดเวลาและนอนพัก น้องเห็นอย่างนั้นก็ทักขึ้นว่า อย่ากางเต้นท์นอนเลย เสียวงู เพราะเมื่อสองวันก่อนเจอลูกมัน เป็นงูเห่า เกรงว่าจะอันตราย เมื่อถูกทักแบบนี้จึงตัดสินใจเช่าห้องพักผ่อนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดเหมือนที่ผ่านๆมา
 

วันอาทิตย์สดใสแต่ใจหมอง

เรื่องราวการถูกฟ้องร้องและการต้องเดินทางไปศาล วนเวียนเข้ามาเยือนในสมองตลอดเวลา ทั้ง (๑) การกระทำตอบโต้ (๒) การมองเชิงบวก ดีแล้วเราจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ (๓) การตั้งคำถามจากกรณีที่เกิดขึ้น
คืนวันเสาร์ ได้ห้องพักในตำบลท่ายาง ห้องจะ ๔๐๐ บาท เช่า ๒ คืน ก่อนนอนได้นำเอาผ้าห่มและหมอนที่เตรียมมาในนอนใช้ประโยชน์ด้วย โดยการนำผ้าห่มที่รีสอร์ทเตรียมไว้ให้เป็นผ้าปูนอน และห่มผ้าด้วยผ้าห่มที่เตรียมมาเอง คืนวันเสาร์หลังจากไหว้พระสวดมนต์เสร็จ หัวถึงหมอนก็นอนหลับยาว ตอนเช้าออกไปตลาดซื้อข้าวและกับข้าวไปกินที่ขนำของน้อง ขณะที่พวกน้องและหลานๆเตรียมตัวจะไปดูเรือแข่ง/เรือยาวที่จัดขึ้นที่คลองพนังตัก ส่วนผมไม่มีความรู้สึกอยากไปเที่ยวสนุกแบบนั้น ปกติแล้วกีฬาที่ชอบมากคือกีฬาพายเรืองแข่งนี่เอง เข้าใจว่าความชอบมาจากประสบการณ์ที่ซึมซับในใจสมัยเด็ก พ่อจะพาพวกเราไปดูเรือแข่งทุกปี ช่วงบ่ายฝนตก ทำงานก่อสร้างไม่ได้ จึงกลับไปเข้าที่พัก ช่วงเย็นจึงกลับมาที่ขนำของน้องและคุยสัพเพเหระก่อนกลับไปนอนพัก

เดินทางไปหลังสวน

๐๖.๐๐ น. ของวันจันทร์ รีบอาบน้ำแต่งตัว และไปรับอาจารย์ที่วัดหาดทรายรี ในเวลา ๐๗.๐๐ น. ตามที่นัดแนะ เมื่อไปถึงอาจารย์ยังเตรียมตัวไม่เสร็จ จึงรออาจารย์เตรียมตัวเสร็จก่อน จากนั้นจึงออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หลังสวน ผมขับเข้าทางบางผรา ออกคูขุด จึงถนนตัดใหม่และขับยาวไปอำเภอหลังสวน อาจารย์ขอไปทำธุระที่วัดขันเงินก่อน จึงขับรถไปส่งอาจารย์ที่วัดขันเงิน โดยขึ้นไปกราบนมัสการพระธรรมโกศาจารย์ (องอาจ ฐิตธมฺโม) ก่อน จากนั้นอาจารย์ได้กราบนมัสการทำบุญเข้าทุนนิธิที่ทำทุกปี ส่วนผมได้โอกาสที่น่ายินดีเช่นกัน ก่อนนั้นเคยขับรถเข้ามาวัดขันเงิน เพื่อจะมาหาท่าน แต่นิสัยของผมคือจะไม่เรียกหากท่านอยู่ในกุฏิ ที่ผ่านมาจึงไม่พบเลย รอบนี้ได้พบท่านนับเป็นบุญวาสนาจริงๆ ผมร่วมทำบุญเข้าทุนนิธิด้วย จากนั้นจึงขออนุญาตถามปัญหาธรรมที่ติดข้องมาเป็นเวลานานและอยากจะมาถามท่านโดยตรง คำถามคือ “กายในกายคืออะไร” ท่านได้วินิจฉัยให้จนผมรู้สึกอิ่มใจ เพราะสงสัยเรื่องนี้มานอนตามคติของปุถุชนคือ "มีกายที่อยู่ในกายนี้อีกหรือ กายที่อยู่ในกายนี้เป็นอย่างไร" แต่ท่านอธิบายว่า กายในกายคือกายที่เราเคลื่อนไหว ท่านพูดตอนท้ายว่า เราต้องปฏิบัติจึงจะรู้ ก่อนจาก ผมขออนุญาตเก็บภาพของท่านไว้เป็นที่ระลึก “เอาไปทำไหรเล่า” คือคำที่ท่านพูด แต่ไม่ได้ปฏิเสธ ผมบอกว่า “เป็นที่ระลึกครับ” ผมเคยมีอาจารย์/หลวงพ่อเป็นบุคคลในอุดมคติ แต่ผมเป็นคนสมองไม่ดีและความเพียรก็น้อย จึงไม่สามารถจะเป็นได้ จึงได้แต่เฝ้ามองอย่างชื่นชมแบบไกลๆ ท่านหัวเราะหึๆ 

สวรรค์ในชีวิต

การที่ท่านได้ไขปัญหาเรื่องกายในกายให้ฟัง ทำให้ผมรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ หลักจากแบกปัญหานี้มานานหลายปี กายในกายนี้ มาจากคำว่า กาเย กายานุปัสสีวิหรติ เป็นคำสวดป่าช้าเก้าสมัยเมื่ออายุประมาร ๑๕-๑๘ จริงๆแล้วมีปัญหาจะถามอีกเยอะ แต่แค่ปัญหาเดียวและได้รับการวินิจฉัยทำให้ผมลืมปัญหาอื่นๆไปเลย ปัญหาอื่นๆที่คิดได้ในเวลานี้คือ เทวดามีจริงไหม อย่างมีการพูดถึง การทำบุญอุทิศเทวดา เป็นต้น คนที่นับถือศาสนาที่ไม่ใช่พุทธศาสนา หากดำรงตนอยู่ในศาสนาเป็นอย่างดีแล้ว จะไปสวรรค์ คำถามคือ เป็นสวรรค์พื้นที่เดียวกันของทุกศาสนาหรือว่าต่างฝ่ายต่างมีสวรรค์ของตน อย่างไรก็ตาม จากการได้ฟังคำวินิจฉัยนั้น ผมคิดว่า หากสวรรค์มีจริง และผมตายในวันนั้น ผมต้องได้ขึ้นสวรรค์แน่ๆ เพราะปลื้มใจแบบกระปรี้กระเปร่าเหลือเกิน 

มุ่งหน้าสู่วัดราษฎร์บูรณะ (วัดนอก)

หลังจากกราบหลวงพ่อพระธรรมฯ แล้ว จึงมุ่งเหน้าเดินทางไปวัดนอก เมื่อไปถึงวัดเห็นคนมาวัดกันเยอะมาก มีการตั้งซุ้มโรงทาน มีพระเณรมาร่วมงาน มีเด็กนักเรียนมารับทุนการศึกษา งานเริ่มจากการมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนและพระเณรที่เรียนหนังสือ จากนั้นมีการเจริญพระพุทธมนต์ และพระฉันข้าว เป็นเสร็จพิธี ก่อนนั้น ได้กราบนิมนต์เจ้าอาวาสวัดนาสร้าง อาจารย์ปรีชา และอาจารย์พงศ์มิตร มาสวดมนต์ฉันเพลที่วัดหาดทรายรีงานทำบุญอายุอาจารย์ประมวลวันที่ ๒๑ ธันวาคม ด้วย บ่ายกว่าๆจึงออกจากวัดนอก ส่งอาจารย์ที่วัดหาดทรายรี และตีรถขึ้น กทม. ตั้งใจว่าหากขับไม่ไหวก็แวะนอนระหว่างทาง 

แวะวัดมาบอัมฤตและคลองวาฬ


ภาระกิจแทรก ๓ คือการแจ้งข่าวการจัดงานทำบุญอายุอาจาร์ประมวล แก่ศิษยานุศิษย์ ช่วงเช่้าได้แจ้งพระคุณเจ้า ๓ ท่านไว้แล้ว ระหว่างเดินทางเลยท่าแซะมา จึงแวะเข้าไปที่วัดมาบอัมฤต คาดหวังว่าจะแจ้งข่าวกับเจ้าอาวาสให้ได้รับทราบ ในฐานะศิษย์เก่า รอจน ๑๗.๐๐ น. พระลงทำวัตรสวดมนต์เย็น แต่ท่านก็ยังไม่ออกจากกุฏิ มีพระลูกวัดบอกว่า ให้เรียกได้เลย แต่ผมไม่ถนัดแบบนั้น และตั้งใจว่า หากไม่พบท่านก็ค่อยโทรหาหรือให้ท่านอื่นๆแจ้งข่าวภายหลัง เห็นว่าเลยเวลาแล้วเดี๋ยวจะค่ำซะก่อน จึงขับรถออกจากวัดมาบอัมฤต และมาค่ำที่ประจวบ มีความรู้สึกล้าและง่วง จึงแวะประจวบ หาที่พัก ได้ที่พักคือไม้รั้วรีสอร์ทแถวคลองวาฬ คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยมาพัก และรุ้สึกดีต่อหน้ารีสอร์ที่เป็นทะเลและหาดทราย ได้ห้องเดี่ยวริมทะเลในราคา ๙๐๐ บาท 

การเดินทางที่ดูเหมือนจะชอบแต่กลายเป็นเหนื่อยในอก เช้าวันรุ่งขึ้นขับรถออกไปตลาดคลองวาฬ ได้เข้าต้มมาถุงหนึ่ง และแบ่งปันอีกถุงหนึ่งให้แม่บ้าน ที่ดูแลรีสอร์ทอยู่คนเดียว 

หมายเลขบันทึก: 707881เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2022 22:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน 2022 22:56 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท