หน้าแรก
สมาชิก
"คนเมืองน้ำดำ"
สมุด
รวมสารพัดเรื่องรา...
ประวัติศาสตร์ไทย ...
"คนเมืองน้ำดำ"
นาย ทรงศักดิ์ ภูเก้าแก้ว
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ประวัติศาสตร์ไทย (พ.ศ. 2516–2544)..(ประชาธิปไตยลุ่ม ๆ ดอน ๆ)
“ประวัติศาสตร์ไทย” (พ.ศ. 2516–2544).
.(ประชาธิปไตยลุ่ม ๆ ดอน ๆ)
ผลจาก
เหตุการณ์ 14 ตุลา
ทำให้เกิด "
ยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน"
หรือ
"การทดลองประชาธิปไตย"
การแสดงความเห็นต่างที่ถูกเก็บกดมาหลายสิบปีกลับมามีปากเสียง เกิดรัฐบาลพลเรือน และรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้ทั้งสมาชิกรัฐสภามาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เกิดองค์การการเมืองและการดำเนินกิจกรรมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เกิดการประท้วงของกรรมกรและชาวนาไปทั่ว การแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะมีอิสระ งานเขียนของปัญญาชนฝ่ายซ้ายได้รับความนิยม สมัยนายกรัฐมนตรี
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
สามารถเจรจาให้สหรัฐถอนฐานทัพออกจากประเทศและเจรจาสร้างความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในภูมิภาคขณะนั้นประเทศลาวมีการเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์ และคอมมิวนิสต์ชนะสงครามเวียดนาม หลัง
การเลือกตั้งในปี 2519
ได้รัฐบาลผสมอีกสมัยที่มีความเปราะบาง เกิดขัดแย้งในสภาทำให้รัฐบาลแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้น้อย และนักศึกษาฝ่ายซ้ายเริ่มทำให้ผู้สนับสนุนรู้สึกแปลกแยก สถาบันพระมหากษัตริย์ ชนชั้นนำในเมืองและชนชั้นกลางจำนวนมากเริ่มหันมาสนับสนุนกลุ่มฝ่ายขวาต่าง ๆ เช่น
นวพล
ลูกเสือชาวบ้าน
กลุ่มกระทิงแดง
เพราะมองว่านักศึกษาถูกลัทธิคอมมิวนิสต์ชักนำ ในช่วงนี้กลุ่มนักศึกษาฝ่ายซ้ายถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรง ในปี 2519 จอมพลถนอมที่บวชเป็นสามเณรเดินทางกลับประเทศ โดยมีสมาชิกราชวงศ์เสด็จไปเยี่ยมที่วัด เกิดการประท้วงขึ้นรายวันในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ย่างเข้าเดือนตุลาคม 2519 ฝ่ายขวามีปฏิกิริยาต่อการประท้วงโดยการปลุกระดมใส่ร้ายนักศึกษาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ จนสุดท้ายมี
การสังหารหมู่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นักวิชาการต่างประเทศมองว่า สถาบันพระมหากษัตริย์มีส่วนส่งเสริมเหตุการณ์จากการสนับสนุนกลุ่มฝ่ายขวาและการเสด็จฯ เยี่ยมพระถนอม กองทัพเข้ามาครอบงำการเมืองอีกครั้ง และการแสดงออกถูกปิดกั้น
*พลเอก
เปรม ติณสูลานนท์
(ขวา) กับประธานาธิบดีสหรัฐ
โรนัลด์ เรแกน
พลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปีในระบอบ "ประชาธิปไตยครึ่งใบ
"
- หลัง
รัฐประหารในปี 2519
มีรัฐบาลขวาจัดที่ใช้อำนาจควบคุมอย่างเข้มงวด นักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายหนีเข้าป่าและออกนอกประเทศจำนวนมาก รัฐบาลเริ่มเสียการสนับสนุนจากกองทัพ จนมี
การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีในปี 2520
-
รัฐบาลใหม่พลเอก
เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
ลดความรุนแรงของฝ่ายขวาและพยายามนำผู้หลบหนีออกจากป่า ในช่วงนั้นเกิดเหตุการณ์เวียดนามบุกกัมพูชา ทำให้ชายแดนตะวันออกของประเทศมีผู้ลี้ภัยเข้ามานับแสนคน และกลุ่มติดอาวุธบางกลุ่มพยายามโจมตีข้ามชายแดนเข้ามา เมื่อประกอบกับรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เขาถูกบังคับให้ลาออกก่อนมีรัฐประหารโดยพลเอก
เปรม ติณสูลานนท์
ในปี 2523
- ในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม มีการใช้นโยบายยันกองทัพเวียดนามที่ชายแดนโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ รัฐบาลยังสามารถนำผู้ก่อการเริบกลับเข้าสู่สังคมและจัด
การเลือกตั้งทั่วไปได้ในปี 2526
-
ในทศวรรษนั้น เริ่มเห็นได้ชัดว่าพระมหากษัตริย์ทรงมีบทบาททางการเมือง หลังจากทรงสนับสนุนนักศึกษาในปี 2516 ทรงเปลี่ยนมาสนับสนุนกลุ่มฝ่ายขวาในปี 2519 และรัฐบาลธานินทร์ จนสู่รัฐบาลพลเอกเปรม ปรากฏชัดในครั้ง
กบฏยังเติร์ก
ในปี 2524 ที่ทรงประกาศสนับสนุนรัฐบาลพลเอกเปรมทำให้กบฏล้มเหลว
(ผู้ประท้วงกับทหารในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ)
-ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 ถึง 1990 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารอีกครั้ง กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ประเทศมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในโลก ประเทศเข้าสู่ความเป็น
ประเทศอุตสาหกรรมใหม่
ซึ่งดึงดูดนักลงทุนต่างชาติพลเอก
ชาติชาย ชุณหะวัณ
ชนะการเลือกตั้งในปี 2531
.เขาดูแลกองทัพที่เป็นพวกของตน ทำให้กองทัพอีกฝ่ายยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ 2534 นำโดยพลเอก
สุจินดา คราประยูร
ทีแรกเขาให้สัญญาว่าจะไม่รับอำนาจทางการเมืองแต่สุดท้ายเขาตระบัดสัตย์และเข้าเป็นหัวหน้ารัฐบาลใหม่"
-
เหตุการณ์เดินขบวนประท้วงในกรุงเทพมหานครในเดือนพฤษภาคม 2535 ลงเอยด้วย
การสั่งปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้
พลเอกสุจินดาและพลตรี
จำลอง ศรีเมือง
แกนนำผู้ประท้วง เข้าเฝ้าฯ
จากนั้นพลเอกสุจินดาลาออกจากตำแหน่ง กลางปี 2540
-
เกิดเหตุการณ์
ฟองสบู่เศรษฐกิจแตก
อัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง
บาทไทยต่อดอลลาร์สหรัฐลดลงอย่างรวดเร็ว
วิกฤตนี้ทำให้รัฐบาล
บรรหาร ศิลปอาชา
และพลเอก
ชวลิต ยงใจยุทธ
ล้ม
-ชวน หลีกภัย
กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง รัฐบาลสามารถเจรจาข้อตกลงกับ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ
(IMF) ได้ แม้การ
กู้เงินดังกล่าวจะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย แต่มีเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นกองทุนช่วยเหลือคนรวย มีการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างใหญ่โต
*ยุคทักษิณและวิกฤตการณ์การเมือง
-ความขัดแย้งทางการเมืองในปี 2549–2557 เป็นความขัดแย้งระหว่างผู้สนับสนุนและต่อต้าน
ทักษิณ ชินวัตร
-ประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลังปี 2544 ถูกครอบงำด้วยความขัดแย้งระหว่างฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านนายกรัฐมนตรี
ทักษิณ ชินวัตร
ในปี 2544
พรรคไทยรักไทย
ซึ่งขณะนั้นมีอายุได้ 3 ปี ชนะ
การเลือกตั้งทั่วไป
นโยบายเศรษฐกิจของเขาที่เรียก
ทักษิโณมิกส์
เน้นกระตุ้นการบริโภคในประเทศและการเพิ่มความสามารถการแข่งขันของประเทศ นโยบายของเขายังรวมการเพิ่มสวัสดิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในชนบท
-อย่างไรก็ดี การเอื้อพวกพ้องของทักษิณในการเลื่อนยศทหารใกล้ชิดในกองทัพทำให้พลเอกเปรมและพลเอก
สุรยุทธ์ จุลานนท์
ไม่พอใจ
- การเคลื่อนไหวต่อต้านทักษิณครั้งแรกเริ่มจากนโยบายภาคใต้
- เริ่มจากการเปลี่ยนองค์การของกองทัพมาให้ตำรวจคุมในปี 2545
- ปฏิกิริยาต่อ
เหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหารจังหวัดนราธิวาสแห่งหนึ่ง
ในปี 2547
- ชนชั้นกลางในกรุงเทพมหานครเริ่มไม่พอใจนโยบายประชานิยม การวิจารณ์ในสื่อเพิ่มขึ้น
-สนธิ ลิ้มทองกุล
ซึ่งเป็นเจ้าของสื่อคนหนึ่งวิจารณ์ทักษิณทางโทรทัศน์จนรายการของเขาถูกสั่งระงับ จึงหันมาเดินขบวนตามท้องถนนและปลุกเร้าอารมณ์ด้วยการอ้างว่าทักษิณเป็นภัยคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์
-การประท้วงในปี 2548 ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่ในปี 2549 หลังมีเหตุการณ์
ขายหุ้นกลุ่มบริษัทชินคอร์ป
ให้แก่
เทมาเส็กโฮลดิงส์
ของรัฐบาลสิงคโปร์โดยไม่เสียภาษี ทำให้เริ่มมี
การชุมนุม
โดยกลุ่ม
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
(พธม.)
-กองทัพบางส่วนเล็งเห็นโอกาสในการโค่นทักษิณจึงร่วมมือกับ พธม. การชุมนุมเน้นกล่าวหาทักษิณว่า
มีแผนเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ
และ
หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
-ทักษิณประกาศยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์คว่ำบาตรการเลือกตั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเรียกทักษิณไปเข้าเฝ้าและหลังจากนั้นทักษิณประกาศจะถอยออกจากการเมืองแถวหน้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระราชดำรัสให้
ฝ่ายตุลาการมีบทบาทเพิ่มขึ้นใน “การขับเคลื่อนประชาธิปไตย”
*
รัฐประหารในปี 2549
มีผู้นำเป็นกลุ่ม
นิยมเจ้า
อย่างเข้มข้น และอ้างว่ารัฐบาลทักษิณสร้างความแตกแยกและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
-อย่างไรก็ดี ฝ่ายทหารได้ฉวยประโยชน์จากโอกาสนี้ด้วย โดยมีนายทหารได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจและตำแหน่งสำคัญ ๆ งบประมาณของกองทัพเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 ภายในสองปี
-เป้าหมายหลักของรัฐบาลทหารคือ
การกำจัดทักษิณ ลดบทบาทของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง และคืนอำนาจให้แก่ข้าราชการและกองทัพ
-กองทัพยังตั้งใจใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อทวงบทบาทควบคุมดูแลการเมืองของประเทศ โดยผ่านรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ลดอำนาจของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ
-การก่อตั้ง
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
และ
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
-
นับตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 กองทัพและพวกนิยมเจ้ายกให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางความมั่นคงของชาติ และมีการใช้กฎหมายความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์อย่างกว้างขวาง
-บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการเมืองไทยชัดเจนขึ้นหลังการมีส่วนและสนับสนุนรัฐประหารครั้งนี้
-ความพยายามทั้งหลายนี้ไม่อาจกำจัดเสียงสนับสนุนทักษิณในชนบทได้ หลังมี
การรื้อฟื้นการปกครองแบบรัฐสภาในเดือนธันวาคม 2550
พรรคไทยรักไทยที่ถูก
สั่งยุบพรรคในปี 2549
ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกในชื่อ
พรรคพลังประชาชน
โดยมี
สมัคร สุนทรเวช
เป็นหัวหน้า พรรคพลังประชาชนครองอำนาจอยู่พักหนึ่งก็เกิดการประท้วงของ พธม. ด้านกลุ่ม
แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
(นปช.)
ซึ่งถือกำเนิดในเดือนกรกฎาคม 2550 ชุมนุมต่อต้าน พธม.
- ฝ่าย พธม. อ้างว่าตนกำลังพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ และ นปช. อ้างว่าตนกำลังพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตย
หลังการชุมนุมดำเนินมาจนสิ้นปี ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ยุบพรรคพลังประชาชน
-
หลังจากนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือก
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคใหญ่อันดับสองในสภา เป็นนายกรัฐมนตรี ในครั้งนั้นพลเอกเปรมและพลเอก
อนุพงษ์ เผ่าจินดา
ผู้บัญชาการทหารบก อำนวยความสะดวกหรือสั่งการโดยตรงให้มีการซื้อตัว
กลุ่มเพื่อนเนวิน
-นปช. ชุมนุมในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดย
เข้าขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในปี 2552
และในปีต่อมา มี
การชุมนุมยืดเยื้อในกรุงเทพมหานครตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2553
และปิดฉากลงด้วยเหตุการณ์เผาย่านธุรกิจในเขตราชประสงค์ และเผาอาคารราชการ 4 แห่งในต่างจังหวัด
(ภาพกรุงเทพมหานครบางส่วนเกิดอัคคีภัยระหว่างวิกฤตการณ์การเมืองเดือนพฤษภาคม 2553)
-เมื่ออภิสิทธิ์ยุบสภาและจัด
การเลือกตั้งใหม่ในปี 2554
ปรากฏว่า
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
น้องสาวผู้ไม่มีประสบการณ์การเมืองของทักษิณ นำ
พรรคเพื่อไทย
ชนะการเลือกตั้ง ดูเหมือนว่าเธอจะใช้วิธีประนีประนอมกับพระราชวังและให้กองทัพจัดการตนเอง วิธีนี้ดูเหมือนทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ถูกท้าทายอย่างจริงจังในช่วงแรก
-ปลายปี 2556 อดีต พธม. ร่วมกับกลุ่มต่อต้านทักษิณและนิยมเจ้าอื่น ๆ เข้าพวกกันตั้ง
คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(กปปส.)
ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
-กลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเมืองเมื่อพรรครัฐบาลพยายามเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมซึ่งจะให้ประโยชน์แก่ทักษิณ แต่แม้ว่ารัฐบาลจะถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป
กปปส. ยังคงชุมนุมอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับใช้วาทศิลป์ค้านการเมืองแบบเลือกตั้ง เห็นได้จากการขัดขวางและทำร้ายร่างกายผู้ออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งปี 2557
ฝ่ายตุลาการถอดถอนยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่ง แต่รัฐบาลรักษาการยังดำรงอยู่ จนมี
รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
การปราบปรามการประท้วงในเดือนสิงหาคม 2564
-
คณะผู้ยึดอำนาจปกครอง
ควบคุมรัฐบาล ปราบปรามฝ่ายตรงข้ามอย่างกว้างขวาง มีการแต่งตั้งสภาหุ่นเชิดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่างรัฐธรรมนูญที่จะกวาดล้างความนิยมของทักษิณได้ดีกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 พยายามก่อรูปร่างของสังคมด้วยค่านิยมตามที่พวกตนกำหนด -นอกจากเพื่อต่อต้านทักษิณแล้ว กองทัพยังรู้สึกว่าตนต้องควบคุมการเปลี่ยนรัชกาลที่กำลังมาถึง และมีแผนจัดโครงสร้างทางการเมืองเพื่อสงวนอำนาจของอภิชน
-ผู้นำรัฐประหารยังเพิ่มบทบาทและอำนาจของกองทัพขณะที่ลดอำนาจของประชาสังคมและการปกครองส่วนท้องถิ่นจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีการวางแผนปฏิรูปประเทศ 20 ปี และให้วุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งเป็นผู้ดำเนินการ
- เมื่อ
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคตในปี 2559
และเข้าสู่รัชกาล
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
(ครองราชย์ตั้งแต่ปี 2559)
-ระเบียบการเมืองเดิมที่ยึดโยงพระมหากษัตริย์ที่มีบารมีหมดไป และกองทัพก้าวเข้ามาเป็นผู้ชี้นำการกระจายอำนาจและผลประโยชน์ในช่วงหลังเปลี่ยนรัชกาลใหม่ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลทหารที่เรียก
“ประชารัฐ”
ทำให้เกิดทุนนิยมแบบลำดับชั้นที่ธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยเชื้อสายจีนเข้าไปเลี้ยงดูและชี้นำธุรกิจในท้องถิ่น มีการประกาศใช้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
ซึ่งเป็นฉบับที่ 20 หลังจากครองอำนาจเกือบห้าปี
-คสช. ยอมให้จัด
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562
-ผลทำให้เกิดรัฐบาลผสมที่มี
พรรคพลังประชารัฐ
เป็นแกนนำ โดยได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสภา ในปี 2563 เริ่มเกิด
การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย
เขียนใน
GotoKnow
โดย
"คนเมืองน้ำดำ"
ใน
รวมสารพัดเรื่องราว และ นานาสาระ
คำสำคัญ (Tags):
#พลเมืองไทย
หมายเลขบันทึก: 707300
เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2022 16:39 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2022 21:10 น. (
)
สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
หน้าแรก
สมาชิก
"คนเมืองน้ำดำ"
สมุด
รวมสารพัดเรื่องรา...
ประวัติศาสตร์ไทย ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท