พระยาเพชรบุรี หรือ พระยาสุรินทรฤๅไชย อภัยพิริยบรากรมพาหุ มีนามเดิมว่า เรือง เกิดเมื่อพ.ศ. ๒๒๔๘ ในรัชกาลพระสุริเยนทราธิบดี(พระเจ้าเสือ) บิดาชื่อฤทธิ์เป็นหลวงกัลยาราชไมตรี(อุปทูตไปกรุงไปกรุงฝรั่งเศสกับโกษาปาน) มารดาชื่อแม่จันทร์ (นางข้าหลวงตำหนักกรมหลวงโยธาทิพ) ตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ตำบล บ้านสวนตาล หลังวัดพนัญเชิง เป็นพระญาติในสมเด็จกรมพระเทพามาตย์ราชชนนีในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และเป็นพระญาติกับเจ้าขรัวเงิน พระชนกในสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระอัครมเหสีในรัชกาลที่ 2 โดยพระยาเพชรบุรี (เรือง) นั้นสืบเชื้อสายมาแต่ตระกูลขุนนางที่รับราชการต่อเนื่องกันมาในราชสำนักหลายชั่วอายุคนแล้ว ทั้งยังเป็นตระกูลขุนนางซึ่งรู้จักกันเป็นอย่างดีในหมู่ราษฎรกรุงศรีอยุธยาเวลานั้น
เริ่มเข้ารับราชการโดยถวายตัวเป็นมหาดเล็กในกรมขุนพรพินิต (สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร) ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเห็นฝีมือจึงขอตัวไปทำราชการอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งให้เป็นขุนนางฝ่ายทหาร ว่าราชการเมืองเพชรบุรี เมื่อ พ.ศ. 2275 และเป็นขุนนางจากราชสำนักอยุธยาคนสุดท้ายที่ได้ออกไปครองเมืองเพชรบุรี
สมรสกับคุณหญิงปิ่น มีบุตรคือ เจ้าพระยาสุรบดินทรสุรินทรฤๅไชย (บุญมี) และพระยาพิชัยราชา
พระยาเพชรบุรี เป็นนักรบที่เก่งกล้าสามารถ เลื่องลือว่าอยู่ยงคงกระพัน ในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ กรมหมื่นเทพพิพิธ ร่วมกับเจ้าพระยาอภัยราชา พระยายมราช พระยาเพชรบุรี และหมื่นทิพเสนา วางแผนถอดสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ออกจากราชสมบัติ แล้วถวายให้สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรซึ่งทรงผนวชอยู่ครองราชย์ ต่อมาความทราบถึงสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ จึงมีพระราชโองการให้กุมตัวเหล่ากบฏ พระยาเพชรบุรีรู้ข่าวจึงพาทหารไปเชิญเสด็จกรมหมื่นเทพพิพิธ หนีออกจากพระนคร แต่ก็มาถูกจับ พระยาเพชรบุรีจึงต้องพระราชอาญาเฆี่ยนแล้วจำไว้ ต่อมาเมื่อพม่ายกทัพเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ มีรับสั่งให้ไปเชิญสมเด็จพระเจ้าอุทุมพรลาผนวช แล้วมอบราชสมบัติให้ เมื่อพระเจ้าอุทุมพรได้ราชสมบัติแล้ว จึงมีรับสั่งให้ปล่อยตัว เจ้าพระยาอภัยราชา พระยายมราช และ พระยาเพชรบุรี ออกมารับราชการดังเก่า ต่อมาเมืองเมาะตะมะเกิดกบฎ พระยายมราชและพระยาเพชรบุรีจึงได้ไปปราบจนพวกมอญราบคาบ
ต่อมาเมื่อพม่ายกทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยาครั้งหลัง พระยาเพชรบุรีได้มีหน้าที่รักษากรุง ได้รบกับทัพพม่าที่ริมวัดสังฆาวาศแล้วถูกพม่าจับกุมได้และถูกพม่าประหารเมื่อ เดือน 12 ปีจอ พุทธศักราช 2309
พระยาเพชรบุรีมีบุตรคนหนึ่งนามว่า บุญมี ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีบรรดาศักดิ์ที่หลวงพิไชยราชา ต่อมาได้กลายเป็นแม่ทัพสำคัญของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และต่อมาได้รับการพระราชทานยศขึ้นเป็น เจ้าพระยาพิไชยราชา รามราชแสนญาธิบดีศรีสัชนาไลย อภัยพิริยบรากรมพาหุ เจ้าเมืองสวรรคโลก
พระยาเพชรบุรี เป็นต้นของสกุล บุญ-หลง บุญมี หมายมั่น พลางกูรและอีกหลายสกุลสาขา
-เจ้าขรัวศุข สมรสกับท่านยายอิ่ม มีบุตร คือ
หลวงกัลยาราชไมตรี (ฤทธิ์)
-หลวงกัลยาราชไมตรี (ฤทธิ์) สมรสกับคุณจันทร์ มีบุตรคือ
พระยาเพชรบุรี (เรือง)
-พระยาเพชรบุรี (เรือง) สมรสกับคุณหญิงปิ่น มีบุตรคือ
๑. เจ้าพระยาสุรบดินทรสุรินทรฤๅไชย (บุญมี)
๒. พระยาพิชัยราชา
เจ้าพระยาสุรบดินทรสุรินทรฤๅไชย (บุญมี) สมรสกับ ท่านผู้หญิงเจริญ มีบุตรคือ
๑. พระสุวรรณภักดี (ชิด)
๒. เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
๓. เจ้าพระยาพลเทพ (หลง) ต้นสกุล “บุญ-หลง”
-พระสุวรรณภักดี (ชิด) สมรสกับ คุณหญิงน้อยเล็ก มีบุตรคือ
พระศรีราชอักษร์ (แช่ม)
-พระศรีราชอักษร์ (แช่ม) สมรสกับคุณหญิงรื่น ชำนาญบริรักษ มีบุตรคือ
พระยาพิทักษนคราธำรง (มั่น)
-พระยาพิทักษนคราธำรง (มั่น) สมรสกับคุณหญิงนิ่ม ณ น่าน (ธิดาพระเจ้าสุริยพงษผลิตเดช) มีบุตรคือ
พระหมายมั่นราชกิจสุรฤทธิฤๅไชย (ชุ่ม) ต้นสกุล “หมายมั่น”
พระยาเพชรบุรี กองหน้านำกองเรือตะลุมบอนกับพม่า กลางทุ่งวัดสังฆวาส พม่าเอาหม้อดินดำติดเพลิงโยนเข้าใส่ จับพระยาเพชรบุรีไว้ได้ พระยาเพชรบุรีเป็นคนมีวิชา ฟันแทงไม่เข้า “จึงเอาไม้เหลาเสียบแทงทางทวารหนัก ถึงแก่ความตาย”
พงศาวดารบันทึกว่า ในกองหน้า พระยาเพชรบุรี มีพระยาตาก เป็นนายกองเรือ และหลวงศรเสนี เป็นกองหนุน...แต่ทั้งสอง จอดรอดูเสีย หาเข้าช่วยอุดหนุนไม่
ศึกครั้งนี้ กรุงศรีอยุธยามีผู้เสียชีวิตด้วยอาวุธ ป่วยไข้ อดตายราว 2 แสนคน ถูกจับเป็นเชลยราว 3 หมื่นคน
ไม่มีความเห็น