รีวิว MORBIUS: มอร์เบียส​ (2022)


รีวิว MORBIUS​ (2022)

ในช่วงเวลาประมาณ​เดือน​มีนาคม​ เมษายน​ ไปจนถึงพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาเทศกาลหนังก็ว่าได้นะครับ​ เพราะว่าทุกอาทิตย์เนี่ยจะมีหนังดี ๆ เข้าให้ชมค่อนข้างจะต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ในช่วงเมษายนต่อพฤษภาคม จะเป็นช่วงที่หนังบล็อกบัสเตอร์เข้าฉายค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นจะเป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่จะมีหนังให้คนได้ชมเพื่อความบันเทิงมากมาย อย่างสัปดาห์นี้ก็มีหนังซุปเปอร์ฮีโร่ เข้าฉายอย่าง Morbius ครับ

ดูคลิปรีวิวที่นี่

Morbius เป็นหนึ่งใน หนังของ Marvel comics ที่ยังไม่ได้กลับไปสู่จักรวาลหลักที่อยู่ภายใต้สังกัดของ Walt Disney เพราะฉะนั้น Morbius จึงเป็นหนังที่ถูกสร้างโดยค่าย Sony ที่พยายามจะสร้างจักรวาลของสไปเดอร์แมนขึ้นมา โดยภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย​ Daniel Espinosa และได้ จาเร็ด​ เลโต้ มารับบทเป็นคุณหมอไมเคิล มอน์เบียส

สำหรับ Morbius ถ้าเป็นแฟน Comic Spider-man คงจะรู้จักกันดีในฐานะตัวร้ายหลักตัวหนึ่งที่ถือเป็นคู่ปรับสำคัญของสไปเดอร์แมน แต่คนดูหนังที่ไม่ได้ตามคอมมิคหรือคนทั่ว ๆ ไปคงจะไม่รู้จักตัวละครตัวนี้​

โดยหนังจะเล่าเรื่องของคุณหมอไมเคิล มอร์เบียส ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับเลือดที่พยายามรักษาตัวเอง คุณหมอจึงพยายามทำการทดลองต่างๆ เพื่อทำให้ตัวเองหายจากโรคดังกล่าว​  จนนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ทำให้คุณหมอ กลายเป็น anti-hero ที่ชื่อว่า morbius

ในการรีวิวภาพยนตร์เรื่องนี้ผมขอแบ่งความรู้สึกในการรีวิวออกเป็น 3 ช่วงนะครับ ความรู้สึกแรกคือความรู้สึกก่อนที่จะเข้าไปดูภาพยนตร์เรื่อง morbius ช่วงที่ 2 เป็นช่วงความรู้สึกขณะกำลังดูภาพยนตร์ และช่วงที่ 3 คือความรู้สึกหลังจากภาพยนตร์จบ

ในความรู้สึกที่ก่อนชมภาพยนตร์ ตอนที่รู้ว่าจาเร็ด เลโต้​จะได้รับบทเป็น morbius ผมค่อนข้างที่จะรู้สึกดีนะครับ​ เพราะเห็นแกล้มเหลวมาจากบทโจ๊กเกอร์ใน Suicide Squad จากฝั่ง​  DC​ จึงอยากให้แกมาล้างบาปในหนังของฝั่ง Marvel

ซึ่งแนวโน้มและข่าวก่อนที่หนังจะเข้าฉายถูกกล่าวไปในทางบวกหรือคาดหวังความดีงามเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อหนังเข้าฉายในรอบสื่อ คะแนนฝั่งนักวิจารณ์ที่ออกมา ต้องใช้คำว่ายับเยิน​

แต่ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อคะแนนในเว็บมะเขือฝั่งนักวิจารณ์เท่าไหร่​ เพราะเมื่อได้เห็นคะแนนลักษณะแบบนี้ มันจะมีอยู่ 2 แบบ คือหนังมันแย่จริง ๆ​ แบบ Suicide Squad กับอย่างที่สองคือหนังไม่ถูกใจนักวิจารณ์แต่อาจจะถูกใจคนดู​ เหมือนที่ Venom เคยทำได้ เพราะฉะนั้น เมื่อผมเข้าไปดูจึงพยายามปล่อยวางที่สุดและไม่คาดหวังอะไรจากหนังเรื่องนี้

กระทั่งในช่วงที่ผมกำลังดูหนัง ความรู้สึกของผมในตอนดูหนังคือ Morbius แทบจะเดินเรื่องตามขนบของหนังฮีโร่ในยุคบุกเบิก ความรู้สึกเหมือนเราดูหนังฮีโร่เมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว อย่างสไปเดอร์แมน ของโทวบี​ แม็คไกวร์ หรือดูฮัล์คที่ยังอยู่ภายใต้สังกัดของยูนิเวอร์แซล  หรือแม้แต่ไอรอนแมน​ ภาคแรก คือ

เริ่มต้นจากการเล่าเรื่องว่า ฮีโร่ตัวนี้ได้พลังมาจากอะไร แล้วก็เรียนรู้พลัง จากนั้นก็พูดถึงตัวร้ายที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด​กับตัวละครเอก แล้วก็ไปจนถึงจุดแตกหัก เรียกว่าแทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยสำหรับการเดินเรื่องของ Morbius

ในขณะที่องค์ประกอบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกราฟิกฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ ที่ควรจะเป็นตัวชูโรงอีกที่ดี แต่กับกลายเป็นว่าไอ้การที่เราได้เห็นอะไรที่มันแปลกใหม่ หวือหวาจากหนังฮีโร่ก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น มิติกระจกของ Doctor strange หรือ ฉากกราฟฟิก ของมิสเตริโอ เราจึงไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับเทคนิคมน Morbius มากนัก

เรียกได้ว่า ฉากแอคชั่นและกราฟฟิกไม่โดดเด่นแต่ก็ไม่ได้แย่ พูดง่ายๆ​ คือหนังฮีโร่​ทั่วไปก็มีฉากแบบใน Morbius ได้ทั้งนั้น

สิ่งที่ผมรู้สึกอีกหนึ่งอย่างคือ หนังน่าจะถูกตัดฉากออกไปพอสมควร ผมเชื่อว่าคนดูหนังหลายคนน่าจะรู้สึกคล้าย ๆ กัน​คือ หนังมันขาดความเชื่อมต่อ และกระโดดไปกระโดดมาจนทำให้ความรู้สึกของคนดูกับตัวหนังมันไม่เข้าหากัน​

จนเมื่อถึงฉากไคลแมกซ์​ มันก็ดึงอารมณ์คนดูไม่ได้เลย และสังเกตได้อีกหนึ่งอย่างว่าฉากที่มีใน trailer ตัวอย่างไม่ปรากฏในหนังนะครับ อันนี้เป็นฉากอะไรต้องไปดูเอาเองครับ

ถึงแม้ว่าหนังจะ มีจาเร็ด​ เลโต้มาเป็นตัวเอก แต่เราจะเห็นในตัวอย่างว่าหนังมีนักแสดงชื่อดังอีกหลายคนอยู่ในหนังด้วย แต่หนังกลับกระจายบทให้กับตัวละครเหล่านั้นน้อยมาก จนถึงขนาดที่ว่าตัวละครบางตัวสำหรับผมไม่ต้องมีก็ได้ โดยเฉพาะไทเรียน​ กิ๊บสับ​ ที่งงว่า​เอาแกมาทำไมวะเนี่ย​ แต่ก็พอจะเข้าใจได้นะครับ​ ว่าหนังเขาอาจจะปูบทเอาไว้เผื่อใช้ตัวละครนี้ในอนาคต

การแสดงของจาเร็ด​ เลโต้ว่าทำได้ดีทีเดียวนะครับ โดยมีอยู่ฉากหนึง ที่แกจะต้องโชว์กระดูกสันหลัง คล้าย ๆ กับ​ที่​ วาคีน​ ฟีนิกซ์ ทำใน​ Joker นั่นแหละครับ อันนี้เข้าใจว่าเขาต้องการล้อเลียน หรือให้​ จาเร็ด​ เลโต้​ ที่เคยรับบทโจ๊กเกอร์มาก่อนได้ล้อเลียนโจ๊กเกอร์ของ DC ในฉากนี้ ก็เป็นได้นะครับ

ความรู้สึกเมื่อดูหนังจบนะครับ ผมมีความรู้สึกว่าหนังไม่ได้แย่เหมือนกับที่นักวิจารณ์กล่าวหา​ เพียงแต่ว่าหนังมันไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือมีอะไรโดดเด่น​

เทียบง่าย ๆ นะครับ Morbius ถูกชูโรงออกมาในรูปแบบของ anti-hero เหมือนกับที่ Venom ทำหรือ Deadpool ทำ ซึ่งหนังทั้ง 2 เรื่องนั้นประสบความสำเร็จมาก เพราะเขามีการขายจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์มาก ๆ คือความกวนของตัวละครเอก ทำให้คนดูชื่นชอบมาก แต่ Morbius ไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวเองได้แบบนั้น​  เมื่อดูจบมันจึงเป็นหนังฮีโร่ธรรมดาธรรมดาเรื่องหนึ่ง ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยเท่านั้นเอง

โดยสรุปนะครับ​ Morbius​ เป็นหนัง anti-hero ที่ Sony พยายามสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นองค์ประกอบในจักรวาลของสไปเดอร์แมน​ หนังมีการดำเนินเรื่องตามขนบของหนังฮีโร่แบบเก่า​ ​ที่ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือทำให้คนดูรู้สึกจดจำ หนังไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดี แต่หนังจะมีความสำคัญเป็น​หนึ่งในองค์ประกอบ ที่จะเป็นการรวมเข้ากับหนังของสไปเดอร์แมนในอนาคต เพราะฉะนั้นแฟนสไปเดอร์แมน​ แฟนหนังซุปเปอร์ฮีโร่​ หรือคนที่อยากหาความบันเทิงให้กับตัวเอง ในช่วงนี้ ผมแนะนำให้ไปดูและต้องเป็นในโรงนะครับ ต่อไปทิศทางของ Mobius จะเป็นยังไงก็เป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันครับ

เรื่องนี้ผมให้​ 6.5/10
@Sampan Yingyut @Vatinsansanti

#SuperReviewChannel #Morbius #มอร์เบียร์

ปล.​1. หนังมี End Credit 2 ตัวนะครับ
    2. เอาตรง ๆ นะผมสงสารจาเร็ด​ เลโต้​ แกนะครับ แกไม่ได้แสดงแย่เลยกับหนังเรื่องนี้ แต่ปัจจัยอื่นมันทำให้หนังเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะถูกมองในแง่ลบมากกว่าแง่บวก
   3. ความพยายามของ Sony มันจะทำให้จักรวาลของ Marvel เละเทะหรือเปล่าก็ไม่รู้ รอดูครับตัวละครต่อไป​ใน​ Kraven the hunter ที่เริ่มถ่ายทำไปแล้วว่า​ จะออกมาดีหรือไม่ครับ

หมายเลขบันทึก: 700467เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2022 10:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2022 10:51 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท