*เน้นจากตามข้อมูลที่ได้มายังไม่มีรายละเอียดตามหัวข้อทั้งหมด จึงต้องการประเมินเพิ่มเติมดังต่อไปนี้*
1.1 Volitional Anticipation : เนื่องจากในผู้รับบริการเด็กนั้นไม่มีVolition ที่แน่ชัด จึงอิงจากพัฒนาการเป็นหลัก ซึ่งก็คือการเล่นและการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ดูแล
1.2 Role Identity : สัมภาษณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้รับบริการกับผู้ดูแล และบทบาทของผู้รับบริการ
1.3 Preference & Choices : สังเกตและสัมภาษณ์ผู้ดูแลเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผู้รับบริการชอบทำ และของเล่นที่ผู้รับบริการชอบเล่น
1.4 Personal Causation : ผู้ดูแลสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผู้รับบริการ จึงได้พาเข้ามารับการรักษากับนักกิจกรรมบำบัด
1.5 Meaningful Interest : สังเกตการเล่นของผู้รับบริการและสัมภาษณ์ความต้องการของผู้ดูแลและเชื่อมโยงถึงพัฒนาการของเด็กตามช่วงวัย
2.Occupational Presentation (Competence)
2.1 Objective Viewpoint to Lifestyle Habits
ประเมินเพิ่มเติมเพื่อทราบว่าผู้รับบริการมีพัฒนาการล่าช้าในด้านใด และส่งผลต่อ area of occupation ด้านใดบ้างและส่งผลต่อlifestyle habits ของตัวผู้รับบริการและผู้ดูแลอย่างไร
2.2 Activities Needed, Wanted, or Expected
สัมภาษณ์ความต้องการและความคาดหวังของผู้ดูแลที่มีต่อผู้รับบริการ และต้องการให้OTมีส่วนช่วยในด้านใด
2.3 Environmental Impact on Skills & Performance
สังเกตและสัมภาษณ์ความสัมพันธ์ของผู้ดูแลกับผู้รับบริการ รวมถึงวิธีการเลี้ยงดูและบริบทในครอบครัว
3. Occupational Focus (Adaptation)
3.1 SMART goal setting
3.2 TICKS
ผู้รับบริการสามารถตอบรับเสียงเรียกชื่อของตนเองได้เมื่อมีคนเรียกโดยการหันหาต้นกำเนิดเสียงที่เรียกชื่อให้ผู้รับบริการหันหาคนที่เรียกชื่อตนเองโดยให้ผู้ดูแลเรียกชื่อพร้อมนำของเล่นที่เด็กสนใจมาทำให้เกิดเสียง และระหว่างการทำกิจกรรมใดๆร่วมกันระหว่างผู้ดูแลและผู้รับบริการแนะนำให้ผู้ดูแลเรียกชื่อของผู้รับบริการระหว่างท่าทางต่างๆในกิจกรรม เช่น น้องAกำลังยกมือ ,น้องAเอาลูกบอลให้แม่ ,น้องAมีความสุข เป็นต้น ใช้เวลาการฝึกเป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยวิธีการ occupation engagement และครอบครัวเป็นส่วนช่วยสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการของผู้รับบริการ
สมาชิก
1. นางสาวมุทิตา โพธิรัตน์ 6223013
2. นางสาวปิยอร ศรีนามวงศ์ 6223026
3.นางสาวสู่ขวัญ ธรรมโม 6223033
ไม่มีความเห็น