ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกปี
ผมมีกิจกรรมหนึ่งที่ดีมาก ที่ผมปฏิบัติมาหลายปีแล้ว คือ
การพิจารณาด้วยใจอย่างใคร่ครวญกับคำถามที่ว่า “ชีวิต คือ อะไร ?”
ปีนี้ในวัย 50+
ผมพบว่า .. จากคำถามเดิม ๆ แต่คำตอบจะแตกต่างกันทุก ๆ ปี หนอ
ยกตัวอย่างปีนี้ ตลอดสัปดาห์ผมจะพยายามระลึกพิจารณาด้วยใจอย่างใคร่ครวญกับคำถามนี้
จนเมื่อวานนี้ ได้เข้าไปในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในอำเภอน้ำหนาว
ตอนเดินเข้าไปได้ยินเสียงเพลงบรรเลงด้วยขลุ่ยและกีต้าร์
ตอนแรกนึกว่า เป็นการเปิดเพลง แต่พอเข้าไปใกล้ ๆ ถึงได้ทราบว่า เป็นการเล่นสด ๆ
เจ้าของร้านเป็นคนหนุ่มอายุน่าจะยังไม่ถึง 30 ปี
ส่วนคนที่ร้องเพลงและเล่นดนตรีเป็นคุณพ่อและครูเพลงอีกท่านหนึ่งกำลังร่วมแต่งเพลงกันอยู่
สักพักคุณพ่อก็เดินออกมาแนะนำภาพวาดต่าง ๆ ในแกลอรี่ว่า เป็นฝีมือการวาดของท่านทั้งหมด
มีภาพน้ำหนาวอยู่หลายภาพ สวยมาก ๆ และมีภาพหนึ่งเป็นภาพพระธุดงค์
และท่านได้อธิบายว่า ลูกชายท่านที่ชงกาแฟนั้น เคยบวชมา 7 ปี
คำถามที่ว่า “ชีวิต คือ อะไร” เด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง
ผมเริ่มด้วยการถามว่า .. ทำไมถึงสึก ?
คำตอบ คือ เห็นพ่อกับแม่ในวัยเกษียณออกมาอยู่ป่าน้ำหนาว
จึงสึกออกมาดูแลท่านทั้งสอง ..
ย้อนกลับไปสัปดาห์ก่อนที่น้ำหนาวนี้เช่นกัน
ผมมีโอกาสได้ฝึกลูกเผชิญความยากลำบาก ด้วยการนอนเต้นท์
และในบ่ายวันต่อมาได้เสวนากับนักปั่นจักรยานมืออาชีพ
ที่ท่านนอนเต้นท์มาเป็นเวลาแรมเดือนแล้ว
ยิ่งทำให้ผมอึ้ง และถามท่านว่า .. ชีวิต คือ อะไร ?
ย้อนกลับมาที่ประเด็น
บวช 7 ปี สึกออกมาดูแลพ่อแม่
ในช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้
ก็มีประเด็นข่าวการลาสิกขาของพระมหาสมปอง ซึ่งท่านบวชมาถึง 30 พรรษา
จะสึกด้วยเหตุผลใดก็ตาม + หรือ -
บนเส้นทางธรรมนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หนอ .. ชีวิต คือ อะไร ?
ตลอดทริปสวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๕ เราเปลี่ยนที่พักทุกวัน
ผมได้ข้อสรุปว่า ชีวิต เป็นอนัตตา เปรียบเป็นดั่ง โรงแรม หนอ
ทุกคนที่มีความคิดต้องสร้างคำตอบเอง…ชีวิตคือปัจจุบัน
อยู่กับปัจจุบันขณะ สาธุ