โอมิครอนปาร์ตี้: การทดสอบสมมติฐานทางระบาดวิทยา
โอมิครอนปาร์ตี้
วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์
2 มกราคม 2565
ไม่ว่าจะว่าอย่างไร ประเทศไทยกำลังทดลองทฤษฏีใหม่ท้าทายโควิด โดยเฉพาะการผ่อนคลายเปิดให้ประชาชนจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ทั้งระดับประเทศ เมือง และครอบครัว การเดินทางของประชาชนข้ามจังหวัดเพิ่มขึ้นจนจำนวนคนตายจากอุบัติเหตุจราจรสูงกว่าการตายจากโควิด ผู้คนกล้า ๆ กลัว ๆ ใจหนึ่งก็เกรงว่าจะติดโอมิครอน อีกใจหนึ่งก็คิดว่าคงไม่เป็นไรมั้ง ติดไปก็คงไม่หนักหนาสาหัสมาก ครอบครัวจากแดนไกลก็ได้มาพบกันม่วนชื่น พ่อค้าแม่ขายหายใจหายคอออกหน่อยเพราะผู้คนเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันอีกครั้ง ผมเดาแบบเชื่อขนมกินได้เลยว่าหน่วยงานควบคุมโรคทั้งหลายก็เริ่มคิดว่าจะเลี้ยงฉลองกันแล้วหลังจากเหนื่อยมานาน นี่แหละครับที่ผมเรียกว่าโอมิครอนปาร์ตี้ ขอข้ามเรื่องนี้ไปก่อนเดี๋ยวจะกลับมาคุยเรื่องปาร์ตี้แบบนี้ในตอนท้าย
ข้อมูลล่าสุดที่เราใช้ในการวางแผนส่วนใหญ่มาจากแอฟริกาใต้ เขาบอกว่าคนไข้โอมิครอนที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล เฉลี่ยแล้วอยู่ในโรงพยาบาลแค่สองสามวันก็ออกได้เมื่อเทียบกับเดลต้าที่ต้องอยู่แปดวัน ถึงอยู่โรงพยาบาลก็ต้องการออกซิเจนช่วยไม่ถึงหนึ่งในห้า เทียบกับเดลต้าที่ต้องการออกซิเจนถึงสามในสี่ ที่เข้าโรงพยาบาลก็ตายเพียงไม่ถึงสามเปอร์เซ็นต์เทียบกับเดลต้าที่ตายถึงเกือบสามสิบเปอร์เซ็นต์ โอมิครอนระบาดอยู่ได้เดือนกว่า ๆ แอฟริกาก็บอกว่ามันหายไปเอง ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ปล่อยให้ประชาชนมีกิจกรรมตามสบาย
ส่วนอเมริกากับยุโรปตรงกันข้าม เขาบอกว่าแย่เลย คนไข้อาจจะล้นโรงพยาบาลเพราะโรคระบาดเร็วมาก กิจกรรมเฉลิมฉลองลดลงอย่างมาก บางประเทศอย่างเช่นเนเธอร์แลนด์ก็ดูเหมือนจะล็อคดาวน์ไปเลย อเมริกาก็มีการติดเชื้อรายใหม่แบบนิวไฮทุกวัน ตอนนี้มีรายใหม่เกินครึ่งล้านต่อวันไปแล้ว ซีดีซีของอเมริกาสั่งห้ามไม่ให้คนเดินทางไปกับเรือสำราญ และห้ามคนในเรือสำราญขนาดใหญ่กว่า 80 ลำขึ้นฝั่ง เล่นเอาสมาคมเรือสำราญบอกว่าทำอย่างนั้นได้ไง การติดเชื้อบนเรือไม่ได้ร้ายแรงอะไร และขึ้นฝั่งก็ไม่มีผลอะไรกับคนบนแผ่นดินใหญ่ แต่มีคนที่ขัดขืนกับซีดีซี อย่างเช่นรัฐมิชิแกนบอกว่าขอดูข้อมูลก่อนไม่ขอเชื่อซีดีซีทั้งหมด ส่วนเม็กซิโกฉวยโอกาส บอกว่าแยงกี้มาขึ้นฝั่งในเมืองท่องเที่ยวของเม็กซิโกได้เลย ยินดีต้อนรับ นัยก็คือเอาเงินดอลล์เข้ามาเยอะ ๆ หน่อย ไม่รู้ว่าเม็กซิโกจะรับเงินคริปโตด้วยหรือเปล่าครับ
ที่จีนก็น่าสนใจ ตอนนี้ข่าวใหญ่คือการปิดเมืองซีอานซึ่งมีประชากรสิบสามล้านคน จากรายงานการติดเชื้อเดลต้าไปในราวพันคน ใครก็รู้ว่ารัฐบาลจีนเข้มงวดแค่ไหน ตอนนี้มีเสียงร้องครวญครางของชาวซีอานว่าเข้มงวดเกินไป อาหารก็ขาดแคลน รัฐจะเลี้ยงดูคนสิบสามล้านคนได้ถึงไหน ข่าวไม่เป็นทางการเรื่องโอมิครอนของจีน คือ โดนโอมิครอนเจาะเข้าเมืองจิ่นหงหรือเชียงรุ่งแคว้นสิบสองปันนาเข้าให้แล้ว จีนอุตส่าห์สร้างกำแพงเมืองจีนยุคใหม่ยาวติดต่อกัน 500 กิโลเมตรกั้นชายแดนพม่า มีระบบอิเล็คตรอนิคมเวลาใครปีนจะมีสัญญาณดังขึ้นให้ทหารจากกองทัพประชาชนเข้าไปจับกุม แต่จนแล้วจนรอดก็มีคนสามสี่คนออกไปพม่าแล้วเอาโอมิครอนกลับเข้ามา คงมุดน้ำดิน เหาะเหิรเดินอากาศ หรือ หายตัวข้ามพรมแดนได้ไงก็ไม่รู้
ส่วนเมียนมาร์หรือพม่าเองบอกว่าทั่วประเทศติดโอมิครอนไปแค่สี่คนเท่านั้นเอง แหะ ๆ ผมสงสัยว่าฝั่งจีนสามสี่คนนั่นจะติดจากฝั่งพม่าสามสี่คนนี่ก็ไม่รู้นะ ที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าที่พม่ารายงานโอมิครอนไม่กี่คนนั้นมันต่ำกว่าความเป็นจริงมาก
โอมิครอนข้ามกำแพงเมืองจีนไฮเท็คได้ แล้วจะข้ามสันปันน้ำบนเทือกเขาตะนาวศรีและแม่น้ำน้อยสายต่าง ๆ ระหว่างไทยกับพม่าไม่ได้เชียวหรือ แต่ เอ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโอมิครอนจะข้ามจากพม่ามาไทย หรือ จะข้ามจากไทยไปพม่ากันแน่ โอมิครอนคงจะเหมือนความรักของหนุ่มสาว ไม่ว่าอุปสรรคขวากหนามอะไรก็กั้นไม่อยู่ทั้งนั้น
เพราะมันแพร่ได้เก่งมาก ป่านนี้โอมิครอนคงแพร่ไปในเมืองไทยมากกว่าที่เราเห็นในรายงานหลายเท่า บางคนบอกว่าเรากั้นไม่ได้แล้วจะไปกั้นมันทำไม ปล่อยเลยตามเลย (permissive approach) จะดีกว่าไหม นโยบายเทศกาลปีใหม่ของรัฐบาลก็เข้าทำนองนี้ อย่างที่บอกแล้ว คือ ประเทศไทยกำลังทดลองทางระบาดวิทยาตรวจสอบฤทธิ์เดชของโอมิครอนในช่วงปีใหม่ และคงจะวัดผลประเมินผลในราววันเด็กแห่งชาติกลางเดือนมกราคม ตอนนั้นจะรู้ดำรู้แดงกัน
ถ้าโชคดีเราเป็นเหมือนแอฟริกาใต้ โอมิครอนแพร่เร็วแต่ป่วยน้อยตายน้อยจบโดยไม่เจ็บ เราก็น่าจะต้องมีนโยบายเป็นพิเศษสำหรับโอมิครอน อย่างที่ผมเรียกว่า โอมิครอนปาร์ตี้
มนุษย์มีการเรียนรู้ว่าโรคระบาดหลายชนิด ถ้าป่วยแล้วรอดจะไม่กลับมาป่วยอีกเลย อย่างเช่นไข้ทรพิษหรือฝีดาษ คนที่เป็นฝีดาษแล้วจะไม่ต้องกลัวฝีดาษอีก อย่างจรกาที่ถูกอิเหนาดูถูกว่า “ยามยิ้มเหมือนหลอก หยอกเหมือนขู่ ไม่เคียงคู่พักตร์สมัครสมาน ดังกากาจชาติช้าสารธาร มาประมาณหมายหงส์พงศ์พญา แม้แผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า” อิเหนารู้หรือเปล่าว่าถ้าฝีดาษระบาด อิเหนานั่นแหละจะต้องตายอย่างไม่น่าดู ส่วนจรกาจะไม่เป็นไรเลย
นอกจากโรคฝีดาษแล้ว ยังมีไข้ของเด็ก ๆ อีกหลายอย่างที่เป็นแล้วจะไม่เป็นอีก เช่น หัด หัดเยอรมัน อีสุกอีใส สมัยก่อนไม่มีวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันและอีสุกอีใส และหมอบอกว่าโรคติดเชื้อพวกนี้เด็ก ๆ รับแล้วไม่เป็นไร แต่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วป่วยจะมีปัญหา อย่างเช่น ถ้าติดเชื้อหัดเยอรมันตอน ตั้งครรภ์อ่อน ๆ เด็กที่เกิดมาจะพิการ อย่ากระนั้นเลย เวลามีโรคพวกนี้เกิดขึ้นให้เด็ก ๆ ทั้งหลายมากินเลี้ยงเล่นกันจะได้รับเชื้อไปเลย เรียกกันว่า pox party สำหรับอีสุกอีใส และ rubella party สำหรับหัดเยอรมัน
พูดถึงอีสุกอีใสแล้วขอเล่าประวัติส่วนตัวนิดนึง เมื่อผมยังอยู่ในวัยเตาะแตะผมเป็นอีสุกอีใสน้ำเหลืองจนต้องนอนใบตองเพราะถ้านอนเบาะน้ำเหลืองจะติดเบาะแล้วแกะออกยาก นั่นคือการติดเชื้ออื่น ๆ แทรกซ้อนบนผิวหนังซึ่งสมัยนั้นบ้านนอกยังไม่มีแอนตี้ไบโอติกซึ่งได้ผลดีในการรักษาเชื้อแทรกซ้อน โตขึ้นแล้วยังมีแผลเป็นอยู่บนใบหน้านิดหน่อยจนแตกเนื้อหนุ่มแล้วแผลเป็นตื้น ๆ ก็ค่อยหายไปจนมองไม่เห็น และก็ดีใจที่ใคร ๆ บอกว่าจะไม่เป็นอีสุกอีใสอีกแล้ว จนเข้าเรียนแพทย์ถึงรู้ว่าเชื้ออีสุกอีใสไม่ได้หายไปทั้งหมด วันหลังจะแสดงตนเป็นงูสวัดที่มีเม็ดใส ๆ ปวดแสบปวดร้อยขึ้นตามแนวเส้นประสาท (dermatome) ซึ่งงูสวัดเป็นแล้วเป็นอีกได้ ผมเป็นงูสวัดตอนเป็นอาจารย์แพทย์แล้วอยู่สองสามครั้ง ครั้งแรก ๆ กินยาพาราเซ็ตตามอลไปสิบสี่เม็ด ไม่ยอมกินยา acyclovir ที่ใช้ฆ่าเชื้อไวรัส ก็หายดี ช่วงนั้นโรคเอดส์ระบาดในประเทศไทยและงูสวัดเป็นอาการอย่างหนึ่งของโรคเอดส์ ผมไปเจอเพื่อนผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ เธอจะจับผมเจาะหาเชื้อเอ็ชไอวีเสียให้ได้ เพราะที่เธอเจอเชื้องูสวัดส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้เอดส์ซะเยอะ ผมบอกเธอว่าถ้าผมเป็นเอดส์และติดงูสวัดจะไม่หายเร็วแบบนี้หรอก และผมก็ไม่ได้เจาะตรวจเชื้อเอดส์ให้มันเสียเวลา ทุกวันนี้เจ้าเชื้ออีสุกอีใสหรืองูสวัดที่ซ่อนอยู่ในสังขารของคนรุ่นเก่าจำนวนมาก ก็แอบปลิดชีวิตเมื่อพวกเขาภูมิต้านทานต่ำ ไม่เฉพาะจากเอดส์เท่านั้น แต่ทุก ๆ สถานะภาพรวมทั้งมะเร็งชนิดต่าง ๆ และยารักษามะเร็งด้วย โดยเชื้อนี้อาจจะกระจายเข้าไปในสมองและอวัยวะภายในไม่ได้อยู่เฉพาะผิวหนังเท่านั้น อย่าเผลอก็แล้วกัน
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันอีสุกอีใส ฉีดแล้วป้องกันไม่เป็นอีสุกอีใส และไม่เป็นงูสวัด แถมไม่ต้องตายด้วยไวรัสนี้ตอนที่ป่วยแล้วภูมิต้านทานต่ำ เรามีวัคซีนป้องกันหัดและหัดเยอรมัน ฉีดไปแล้วไม่ต้องกลัวติดเชื้อหัดเยอรมันตอนตั้งครรภ์ ฉีดวัคซีนจึงน่าจะดีกว่าการจัด pox party หรือ rubella party นะครับ
มาลงท้ายที่โอมิครอนปาร์ตี้ เราจะจัดดีไหมเนี่ย ความจริงไทยเราจัดโอมิครอนปาร์ตี้อย่างไม่เป็นทางการมาแล้วในช่วงปีใหม่ คอยติดตามดูข่าวก็แล้วกันว่าจะไปติดโอมิครอนในปาร์ตี้ไหนบ้าง ใครติดโอมิครอนไปบ้างก็ไม่ต้องไปตำหนิกันนะครับ ถือซะว่าได้ร่วมทดสอบสมมติฐานทางระบาดวิทยาที่สำคัญ
ข้อมูลที่เราต้องรอดูนับจากวันนี้ไปถึงช่วงวันเด็กแห่งชาติ ก็คือ โอมิครอนจะระบาดหนักในไทยหรือไม่ อัตราการเข้าโรงพยาบาลเพราะป่วยหนักมากน้อยเพียงไร ถ้าโอมิครอนระบาดหนักอย่างยุโรปและผู้คนต้องป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลกันมาก รัฐบาลก็คงประกาศล็อคดาวน์กันใหม่ คราวนี้กว่าจะปล่อยจากล็อคดาวน์ก็อาจจะต้องพ้นตรุษจีนไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนยังลุ้นว่าเมืองไทยจะไม่เป็นอย่างนั้น
ทีนี้ถ้าเราเกิดโชคดีแบบแอฟริกาใต้ล่ะ คือ ป่วยก็ไม่หนัก ระบาดแพล็บเดียวก็หายไป จะทำอย่างไรดี ผมว่าตอนนั้นต้องวิเคราะห์ข้อมูลว่าวัคซีนที่ฉีด ๆ กันอยู่ป้องกันโอมิครอนบ้างสักเท่าไร ถ้าคนติดเชื้อโอมิครอนส่วนใหญ่ไม่เคยรับวัคซีน ส่วนผู้สัมผัสโรคที่รับวัคซีนมาก่อนหน้านี้แล้วไม่ค่อยติดเชื้อโอมิครอน แสดงว่าวัคซีนได้ผล เราก็(อัด)ฉีดวัคซีนให้คนที่ยังไม่เคยฉีดให้เต็มที่
แต่ถ้าผลปรากฏอย่างในสหรัฐว่าวัคซีนที่เคยฉีดกันป้องกันโอมิครอนไม่ได้ แล้วคนติดเชื้อก็อาการน้อย อย่างนั้นก็อย่าเสียเวลาไปฉีดวัคซีนเลย จัดโอมิครอนปาร์ตี้ทั่วประเทศแทนฉีดวัคซีนซะเลยจะดีกว่า บอกทางอเมริกา อังกฤษและจีนไปเลยว่าวัคซีนอีกร้อยกว่าล้านโด๊สนั้น ยกให้พวกคุณไปฉีดกันเถอะ เราใช้โอมิครอนปาร์ตี้ฉีดแทนวัคซีน และได้ผลกระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วย
บางคนบอกว่าเจ้าโอมิครอนอาจจะเป็นฉากสุดท้ายของโควิดแล้ว เพราะมันแพร่ได้เร็วและช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ให้กับชาวโลกไปด้วย
ช้าก่อนครับท่าน ถ้าวัคซีนไม่ได้ผลโควิดของโลกก็จะยังไม่จบง่าย ๆ หรอกครับ ยังมีประชากรของโลกอีกหนึ่งในห้าหรือยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้รับเชื้อโควิดจริง ๆ ซะที เอาแต่ฉีดวัคซีนและยืนยันนโยบายซีโร่โควิด ประเทศจีนไงล่ะครับ โลกมีประชากรเจ็ดพันล้าน เป็นประชากรจีนซะหนึ่งจุดสี่ล้านหรือหนึ่งในห้า จีนเคยล็อคดาวน์โควิดครั้งแรกที่อู่ฮั่น จบแต่เจ็บ แต่ตอนนี้เดลต้าที่ซีอานห่างจากอู่ฮั่น (ประชากรราว 11 ล้านคน) ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราวหกร้อยกว่า กม. อาเฮียแกกำลังภายในกล้าแข็งคงล็อคดาวน์คนซีอาน 13 ล้าน หรือเกือบหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของประเทศได้สำเร็จ อาจจะสามารถต้านไม่ให้ระบาดก่อนโอลิมปิคฤดูหนาวที่ปักกิ่งได้ไหว
แต่ตอนนี้จีนโดนโอมิครอนเจาะยางซ้ำสองที่สิบสองปันนาซึ่งเป็นชนชาติไต (ไทลื้อ) ส่วนน้อย ก็ต้องดูต่อไปว่าจะไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวหรือจีนทำท่าจะเหนื่อยมาก และข้อมูลจากบ้านเราตอนตรุษจีนเกิดบ่งบอกจัดเจนว่าโอมิครอนไม่เป็นไรมาก รัฐบาลเราก็ควรจะแนะนำประเทศจีนส่งนักท่องเที่ยวมาเล่นสงกรานต์จัดโอมิครอนปาร์ตี้ไปซะเลย คนจีนและไทยจะได้คลายเครียดไปพร้อม ๆ กัน อย่างนี้เข้าท่าไหมครับ
เขียนอ่านสนุก .. ร่วมลุ้น พร้อมกับการรอคอยอย่างตื่นเต้น เพราะมีส่วนได้เสียกับปาร์ตี้ครั้งนี้ด้วยค่ะ