จากอัตราความเครียดที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย ทำให้เราอยากแบ่งปันวิธีคิดที่ คิดอย่างเป็นระบบ(Systematic Thinking) เพื่อให้คนที่ได้เข้ามาอ่านจะได้นำไปประยุกต์ใช้ บอกต่อ และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ การคิดแบบเป็นระบบ คือ การคิดจนเกิดทักษะ การคิดจนเราสามารถมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราคิดได้ ซึ่งสามารถแบ่งการคิดได้ 5 ประเภท ซึ่งเราจะเรียกโดยรวมนี้ว่า PRICE Taxonomy
• Information-Processing skills: การสัมภาษณ์เพื่อรับเอาข้อมูลมา
• Reasoning skills: การหาเหตุผลของปัญหา ว่าปัญหาคืออะไร แก้ไขอย่างไร
• Inquiry skills: การตั้งคำถามแบบที่เราต้องรู้ว่าจะถามไปทำไม เพื่ออะไร
• Creative Thinking skills: การคิดกิจกรรมบำบัดที่สร้างสรรค์
• Evaluation skills: การนำกิจกรรมรอบ ๆ ตัวมาประเมินเป็นตัวเลข
การคิดแบบเป็นระบบ จะนำมาเป็นพื้นฐานการคิดของนักกิจกรรมบำบัด ซึ่งการคิดแบบเป็นระบบนี้จะสามารถทำให้เราเอาความรู้ไปเชื่อมโยง วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาได้โดยมีโครงสร้างของ “Three-Track Mind” ย่อว่า “TTM” มาใช้อธิบายให้ชัดเจนมากขึ้น ในวิชากิจกรรมบำบัดนั้นมันคือ การให้เหตุผล 3 ประเภทที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่นักกิจกรรมบำบัดจะนำมาใช้ เมื่อผู้รับบริการของเรามีปัญหา
TTM สามารถแบ่งออกได้ 3 อย่างคือ
Interactive Reasoning จะถูกใช้เมื่อเราต้องการที่จะทำความเข้าใจกับผู้รับบริการ โดยผ่านการประเมินด้วยวิธีการดังนี้
• Needs Assessment (การประเมินค่าตามความต้องการ): ความต้องการ ความจริง ความเข้าใจ ความรัก ความศรัทธา ความไม่รู้
• Impact Assessment (การประเมินค่าตามผลกระทบ): ผลกระทบต่อความสุขความสามารถในการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต
• Occupational Assessment (การประเมินค่าตามหลักการกิจกรรมบำบัด): อ้างอิงหลักการกิจกรรมบำบัด ให้เห็นภาพรวม PEOP (Person-Environment-Occupation-Performance Model)
2. Conditional Reasoning (Because of ...): การให้เหตุผลเชิงเงื่อนไข
Conditional Reasoning จะถูกใช้เมื่อเราตั้งคำถามกับปัญหาได้แล้ว ว่าทำไมถึงมีปัญหา และเราต้องมาหาคำตอบ โดยผ่านการประเมินด้วยวิธีการดังนี้
• Temporary Vs Permanent: ความชั่วคราว กับ ความถาวร
• Impairment Vs Disability: ความบกพร่อง กับ ความพิการ
• Balancing: Creative & Critical Thinking on Big Data Management (Systematic Thinking) การคิดแบบเป็นระบบแบบสมดุลทั้งความคิดสร้างสรรค์และการคิดแบบใคร่ครวญ รอบคอบ
3. Procedural Reasoning (How to): วิธีการ-ขั้นตอนที่เป็นเหตุเป็นผล มีหลักฐานเชิงประจักร เมื่อเราคิดแก้ปัญหาสังคมเชิงระบบ ดังนั้นเราต้องคิดแบบ “Design Thinking” คือการออกแบบความคิดนั้นเอง
• Empathize: การคิดเข้าใจคนไข้ เห็นอกเห็นใจ
• Ideate: การคิดสร้างสรรค์เพื่อที่จะช่วยคนไข้
• Prototype: การคิดกิจกรรมที่มีมากกว่า 1 กิจกรรม
• Test: ทดสอบกิจกรรมว่ากิจกรรมไหนดี กิจกรรมไหนต้องปรับปรุง
• Define: ระบุความคิดและกิจกรรมที่ชัดเจน เพื่อนำกิจกรรมไปแก้ไขปัญหา
ตัวอย่าง
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.steroidsocial.org/steroid1.html
https://med.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledge/general/09042014-1017
https://www.bbc.com/thai/international-44466955
ไม่มีความเห็น