ข้อมูลทั่วไปของผู้รับบริการ
ชื่อ - นามสกุล นาย ก. (นามสมมุติ)
เพศ ชาย
อายุ 69 ปี
การวินิจฉัยโรค Ischemic Stroke (Right hemiplegia)
อาชีพ ปัจจุบันไม่ได้ทำงาน
ข้างที่ถนัด ข้างขวา
ระยะเวลาที่เริ่มมีอาการจนถึงปัจจุบัน 2 ปี 8 เดือน
ประวัติครอบครัว อาศัยอยู่กับภรรยา มีบุตร 2 คน
ประวัติการทำงาน เคยเป็นครูพละสอนมวย และเคยทำธุรกิจเครื่องเงินกับภรรยา
Clinical reasoning
Diagnostic Reasoning
การวินิจทางการแพทย์: Ischemic Stroke (Right hemiplegia)
การวินิจฉัยทางกิจกรรมบำบัด: Occupational Deprivation ผู้รับบริการมีอาการเกร็งที่รยางค์บนซีกขวา และอ่อนแรงที่รยางค์ล่างซีกขวา ทำให้ขาดโอกาสในการทำกิจวัตรประจำวันหรือกิจกรรมที่เคยทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงผู้รับบริการไม่สามารถพูดสื่อสารออกมาเป็นประโยคได้ ทำให้ยากต่อการสื่อสารและบอกความต้องการ
Procedural Reasoning
จากที่นักศึกษาได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวโรคของผู้รับบริการมาคร่าวๆ จึงได้เตรียมแบบประเมิน การสังเกตขณะผู้รับบริการทำกิจกรรม และการสัมภาษณ์ผู้รับบริการและผู้ดูแล โดยใช้ PEOP model ในการคำนึงถึงผู้รับบริการแบบองค์รวมและสามารถมองผู้รับบริการได้รอบด้านโดยใช้เป็นข้อมูลประกอบการให้การบำบัดรักษา ซึ่งได้ผลการประเมินดังนี้
Person
Environment
Physical: นักศึกษาใช้ PEOP model ในการสังเกตและประเมินสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เห็นถึงปัจจัยส่งเสริมและปัจจัยเสี่ยงในการทำกิจวัตรประจำวัน
Social: อาศัยอยู่กับภรรยา ลูกสาว น้องสาวของภรรยา ผู้ดูแล 1 คน
Occupation
เวลา (น.) | กิจกรรม |
7:00-8:00 น. | ตื่นนอน |
8:00-9:00 น. | อาบน้ำ แต่งตัว |
9:00-9:30 น. | เดินเล่นหน้าบ้าน |
9:30-12:00 น. | ดูทีวี |
12:00-13:00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน |
13:00-17:00 น. | ดูทีวี |
17:00-18:00 น. | เดินออกมาดูคนเล่นตะกร้อหน้าบ้าน |
18:00-19:00 น. | รับประทานอาหารเย็น |
19:00-20:00 น. | อาบน้ำ แต่งตัว |
Performance
Activities of Daily Living (ADLs)
Instrumental Activities of Daily Living (IADLs)
แจกแจงปัญหาทางกิจกรรมบำบัดได้ ดังนี้
Narrative reasoning
นักศึกษาได้สอบถามข้อมูลของผู้รับบริการกับภรรยาและผู้ดูแล โดยภรรยาก็เล่าถึงตอนที่ผู้รับบริการมีสัญญาณของอาการโรคหลอดเลือดสมอง ไปจนถึงการเข้ารักษาภายในโรงพยาบาล รวมถึงข้อมูลต่างๆในการดำเนินชีวิตของผู้รับบริการ และเนื่องจากผู้รับบริการเป็น motor aphasia ทำให้สื่อสารได้ลำบาก แต่ผู้รับบริการก็พยายามที่จะพูดคุยเป็นคำสั้นๆ เช่น นักศึกษาถามว่า “เพราะอะไรคุณลุงถึงให้คุณป้าช่วยป้อนอาหารให้คะ” ผู้รับบริการก็ตอบว่า “กินเอง ช้า” ผู้ดูแลก็จะช่วยเสริมว่า “แกถนัดข้างขวา แล้วมือที่ใช้ได้ก็เป็นข้างซ้าย เลยกินข้าวได้ช้า เราเลยช่วยป้อนให้เค้าดีกว่า” ทำให้เห็นว่าผู้รับบริการสามารถใช้มือข้างดีรับประทานอาหารได้ แต่ช้า
Interactive Reasoning
นักศึกษาได้ใช้ RAPPORT (Therapeutic Relationship) เข้าไปคุยกับผู้รับบริการและผู้ดูแลด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ในช่วงแรก นักศึกษาชวนคุยเรื่องทั่วไป เพื่อสร้างความผ่อนคลายและความคุ้นชินกับผู้รับบริการก่อน เนื่องจากผู้รับบริการส่งเสียงออกมาได้ไม่ชัดเจนและไม่คล่องแคล่ว แต่พยายามที่จะพูดคุยกับนักศึกษา ก็จะมีผู้ดูแลที่อยู่ด้วยจนคุ้นชินและสามารถรับรู้ได้ว่าผู้รับบริการต้องการที่จะพูดอะไร ช่วยบอกนักศึกษาอีกที ทำให้การพูดคุยค่อนข้างเป็นไปได้อย่างราบรื่น
Conditional reasoning
นักศึกษาใช้ PEOP model ในการคำนึงถึงผู้รับบริการแบบองค์รวมและสามารถมองผู้รับบริการได้รอบด้านโดยใช้เป็นข้อมูลประกอบการให้การบำบัดรักษา
การตั้งเป้าประสงค์
1.ผู้รับบริการสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองภายในบ้านได้อย่างปลอดภัย ภายในระยะเวลา 6 สัปดาห์ เนื่องจากบริเวณบ้าน ค่อนข้างมีหลายจุดที่อันตราย โดยนักศึกษาใช้ PEOP model ในการวิเคราะห์อย่างองค์รวม โดยแนะนำการปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน (Environment modification) ดังนี้
รวมถึงสอนการเคลื่อนย้ายตัวในที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น การลุก sit to stand โซฟาบริเวณห้องนั่งเล่น การเคลื่อนย้ายตัวที่บริเวณห้องนอน
2.ผู้รับบริการสามารถใช้มือข้างดีอาบน้ำได้โดยได้รับความช่วยเหลือจากระดับ moderate assistance ไปเป็น minimal assistance ภายในระยะ 2 สัปดาห์ เนื่องจากผู้รับบริการไม่สามารถอาบน้ำได้ด้วยตัวเองทุกขั้นตอน และต้องให้ผู้ดูแลราดน้ำให้ นักศึกษาจึงแนะนำการปรับสภาพแวดล้อม (environment modification) และให้อุปกรณ์ช่วย (assistive device) เพื่อเอื้อต่อการทำกิจกรรม ได้แก่
รวมถึงสอนให้ผู้รับบริการทำกิจกรรมอาบน้ำโดยใช้มือข้างเดียว (one hand technique) ด้วยมือข้างดีในการอาบน้ำได้ด้วยตนเอง
3.ผู้รับบริการสามารถใช้มือข้างดีรับประทานอาหารได้ด้วยตัวเอง ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากขณะนี้ผู้รับบริการรับประทานอาหารโดยผู้ดูแลเป็นคนป้อน ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ เพราะผู้รับบริการไม่ถนัดมือซ้าย ทำให้รับประทานอาหารเองได้ช้า นักศึกษาจึงสอนให้ผู้รับบริการทำกิจกรรมรับประทานอาหารโดยใช้มือข้างเดียว (one hand technique) ด้วยมือข้างดีในการรับประทานอาหาร โดยมีอุปกรณ์ช่วย (assistive device) ในการรับประทานอาหาร เช่น แผ่นรองจานเพื่อกันลื่น และแนะนำให้ใช้ชาม ถ้วย หรือจานที่มีขอบสูง และใช้เทคนิค OA relative mastery แนะนำกับผู้ดูแลในการลดการช่วยเหลือ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับประทานอาหารด้วยตนเอง
4.ผู้รับบริการสามารถสื่อสารบอกความต้องการให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ เนื่องจากผู้รับบริการเป็น motor aphasia ทำให้ไม่สามารถพูดสื่อสารออกมาเป็นประโยคได้ แต่สามารถบอกความต้องการเป็นคำๆ นักศึกษาจึงจัดทำอุปกรณ์เสริม (assistive device) เพื่อให้เอื้อต่อการสื่อสาร ได้แก่ communication board โดยนักศึกษาสอนให้ผู้รับบริการใช้เพื่อบอกความต้องการกับผู้อื่นได้อย่างเข้าใจ
Pragmatic reasoning
นักศึกษาได้มีการพูดคุยและปรึกษากับอาจารย์ โดยได้คำเสนอแนะ ดังนี้
SOAP Note ครั้งที่ 1
S: Pt. 69-year old male. Dx. Ischemic Stroke (Right hemiplegia). States onset of Ischemic stroke in February 2018.
O: Brunnstrom right UE stage 4, Brunnstrom right hand stage 3, Showering (ModA), Feeding (MaxA), Functional mobility (indep with tripods cane), Sound out in words or phrases (motor aphasia), Home assessment: The threshold is too high. Shoes blocking the door. The shower head is too high. Sofa seat is too low.
A: The environment around the house is at risk of being dangerous, Pt. can feeding with good hand but slowly, Pt. was unable to shower himself every step, Difficulty in communication.
P: Teaching sit to stand and one hand technique, Provide assistive devices, Recommend environment modification to caregiver. OA relative mastery with caregiver to reduce assistance.
SOAP Note ครั้งที่ 2
S: Pt. 69-year old male Dx. Ischemic Stroke (Right hemiplegia)
O: Pt. can feed food more easily by using one hand technique with assistive devices, Pt. understand how communication board uses but content in it is not suitable to his context. Observe, he is wearing loose shoes while walking outside.
A: The risk of falling because of wearing loose shoes, Content in communication board is not suitable to his context.
P: Education about fall prevention, Adjust content in communication board to match his context more.
Story telling
จากกรณีศึกษานี้ เป็นกรณีศึกษาที่นักศึกษาเคยไปประเมินและให้การบริการทางกิจกรรมบำบัดที่บ้านของผู้รับบริการ ในวิชาการปรับสภาพบ้าน ทำให้ค่อนข้างเจาะจงไปที่ข้อมูลในด้านสิ่งแวดล้อม จึงทำให้การข้อมูลในบางส่วนขาดหายไป ทำให้เห็นได้ว่าการได้ข้อมูลการประเมินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะข้อมูลในการประเมินนั้นจะนำไปสู่การระบุปัญหาและวางแผนการรักษาได้อย่างครอบคลุม ในกรณีศึกษานี้ เป็นโอกาสที่ดีมากของนักศึกษาที่ได้เข้าไปเห็นบริบทจริงของผู้รับบริการ ว่าใช้ชีวิตอย่างไร มีตรงไหนที่เป็นอุปสรรค นักศึกษาได้ conference ร่วมกับอาจารย์และเพื่อนๆ โดยได้คำแนะนำมา ซึ่งอาจจะเป็นจุดที่เราคิดไม่ถึง จากการเรียนการสอนวิชาการให้เหตุผลทางคลินิก นักศึกษาได้เคยเรียนวิชาแบบพื้นฐานไปแล้วในตอนปีหนึ่ง แต่ยังไม่เข้าใจถึงการนำไปประยุกต์ใช้มากนัก ในการเรียนปีสามนั้น ได้มีการเชื่อมโยงเหตุผลทางคลินิกมากขึ้น ในทุกๆการนำเสนอ อาจารย์ได้ช่วยชี้แนะและถามคำถามให้เราคิดถึงการเชื่อมโยงการให้เหตุผล ว่ามีเหตุผลอะไรถึงเลือกสิ่งนี้มา ทำให้นักศึกษาได้คิดเป็นระบบมากขึ้น สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่นักศึกษาค่ะ
นางสาวพรรณราย คำสา 6123028 เลขที่ 27
ไม่มีความเห็น