ในปัจจุบันนี้คนเรานั้นมีความเท่าเทียมกันหมด คนเราทุกคนมีคุณค่า มีความสำคัญ และมีความสามารถเฉพาะตัว ถ้าหากเราเห็นคุณค่าในตัวเองและมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี แม้ว่าจะเจอกับปัญหาที่ยากลำบากก็จะทำให้เรานั้นผ่านอุปสรรคต่างๆมาได้และมีความสุขในการใช้ชีวิต
เราทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กลุ่มเปราะบางก็เช่นกัน พวกเขานั้นก็มีสิทธิ เสรีภาพ ในการเลือกกระทำการต่างๆได้โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ เราก็สามารถนำ MOHO (Model of Human Occupation)มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนากลุ่มเปราะบางได้เช่นกัน
MOHO เป็นการประเมินแยกแยะปัญหาเพื่อตั้งเป้าหมายรายบุคคล เพื่อเพิ่มความสามารถของผู้รับบริการในการแสดงบทบาทที่มีความหมายกับชีวิต โดยใช้สิ่งแวดล้อมเป็นสื่อในการพัฒนาร่วมกับการปรับตัวและทักษะชีวิต
เนื่องจากเราทุกคนนั้นย่อมมีเป้าหมายในชีวิตอยู่แล้ว เหลือเเต่เเค่เราลงมือทำ กลุ่มเปราะบางนั้นพวกเขาก็มีความสามารถ มีทักษะที่ทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตได้ไม่ต่างกับบุคคลคนทั่วไป กลุ่มเปราะบางหลายคนสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตนเอง เเม้ร่างกายอาจมีการบกพร่องไม่เอื้ออำนวยเหมือนคนอื่น เเต่ด้วยความที่เขามีความคิดที่ดี มองโลกในเเง่ดี มีทัศนคติที่ดี ทำให้เขาข้ามผ่านสิ่งนั้นมาได้ ด้วยความตั้งใจ เเละความพยายาม เเละมีอีกสิ่งที่คำสัญเป็นอย่างมากคือการมีสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวที่ดี สามารถเอื้ออำนวยกลุ่มเปราะบางได้ เช่น ทางลาดรถวีลแชร์ อักษรเบรลล์สำหรับผู้พิการทางสายตา หรือการให้โอกาสในการแสดงความสารถของประชาชนที่อยู่ในบริเวณที่ไม่ได้รับการพัฒนา สิ่งเหล่านี้จะสามารถช่วยพัฒนากลุ่มเปราะบางได้
ยกตัวอย่างการใช้MOHO กับกลุ่มเปราะบาง ตัวอย่างที่นำมาวันนี้คือผู้สูงอายุอยากทำอาหาร เนื่องจากตอนนี้มีผู้สูงอายุเป็นจำนวนมากขึ้น
โดยMOHOนั้นประกอบไปด้วย 7 ด้าน ได้เเก่
จะเห็นได้ว่าการใช้MOHOนั้นเป็นเหมือนการตั้งเป้าหมายและรับรู้สามารถของตนเอง เหลือแต่เราที่ต้องลงมือทำ เราต้องคิดว่าเราทำได้ เป้าหมายนั้นอยู่ไม่ไกล เราเพียงต้องพยายามและอดทน สักวันหนึ่งเราจะไปได้ถึงเป้าหมายของเรา
นางสาว ภวิดา รัตนพงษ์วิเศษ
ไม่มีความเห็น