…วันเกิดปีนี้ …ทำบุญช้าไปสองวัน เหมือนปีที่แล้ว…ตื่นเช้าเข้าครัวทำอาหาร… มีความสุข สบายใจ…คิดถึงแม่ …คิดถึงเรื่องราวในวัยเด็ก…แม่เป็นแบบอย่างที่ดีงามทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการทำบุญ…ขอใช้คำว่าใส่บาตร เพราะที่บ้านแม่จะจัดถาดมีข้าว อาหาร และขนมเป็นถ้วย ไม่ต้องใช้ทัพพี หรือช้อนตัก…วัยเด็กจนถึงเรียนวิทยาลัยครูสวนสุนันทา มีบ้านพักอยู่ในกรมตำรวจ ปทุมวัน หน้ากรมอยู่ตรงข้ามกับวัดปทุมวนาราม มีพระข้ามถนนเข้ามาเดินบิณฑบาตร ผ่านบริเวณบ่อพระนารายณ์ หน้าสโมสรกรมตำรวจ ซึ่งไม่ไกลจากบ้าน…ตอนนั้นกำลังเรียนชั้นประถม ที่โรงเรียนราชประสงค์วิทยา …เริ่มโตแขนขายาวเก้งก้าง หุ่นผอมสูง…ทำให้อายไม่ชอบที่จะพูดคุยกับใคร และไม่ชอบให้คนมามอง…ที่นี้ถ้าวันเสาร์ อาทิตย์แม่จะให้ออกไปใส่บาตร…ยิ่งมีความรู้สึกอายเพราะเด็กวัดที่ถือปิ่นโตให้หลวงตา เป็นรุ่นพี่เรียนช่างกลอินทราชัย เวลาเดินไปโรงเรียนจะเจอกันประจำ… ชอบมอง และทำหน้าล้อเลียน…พยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากใส่บาตรกับหลวงตา…ทำแกล้งเดินช้าบ้าง แวะเล่นที่กองทรายบ้าง…จนมีอยู่วันเล่นเพลิน พระเดินกลับวัดเห็นจีวรไหวๆ รีบคว้าถาดอาหารพระวิ่งตาม…หกล้ม…ไม่ได้ใส่บาตรซ้ำถ้วยข้าวแตก…กลับเข้าบ้านล้างถ้วยที่เหลือเอาถาดคว่ำเหมือนปกติ…รีบเข้าห้องแคะกระปุกหมูออมสิน ทำด้วยกระดาษทาสีแดง เขียนลวดลายดอกไม้สีชมพูที่ข้างท้อง…น่ารักมาก …พอโตขึ้นถึงรู้ว่าคือ Papermache …พอได้เงินเหรียญก็จัดการเทใส่ผ้าเช็ดหน้าผูกชายผ้าทั้งสี่มุมกันร่วงหล่น…ใส่ในกระเป๋ากางเกงสามส่วน ความยาวเลยเข่ามาหน่อยฝีมือแม่ตัดเย็บเสื้อผ้าให้ใส่…จึงชวนพี่สาวคนโตเดินไปประตูน้ำด้วยกัน…พอใกล้จะถึงร้านใต้ดินสโตร์ เชิงสะพานเฉลิมโลก…ร้านนี้ขายพวกถ้วยชาม และเครื่องแก้วทั้งร้าน…ได้บอกพี่สาวว่าทำถ้วยข้าวใส่บาตรหล่นแตกจะหาซื้อไปแทน แต่ต้องให้เหมือน…ด้วยความที่รักแม่มาก ไม่อยากให้แม่รู้ กลัวแม่เสียใจ…และจำได้มาซื้อถ้วยกับแม่ที่ร้านนี้…แม่จะเรียกว่าถ้วยขอบสีชมพูกลีบกุหลาบ…พี่สาวจึงช่วยหาจนได้เหมือนเป๊ะ…เรื่องนี้สองคนกับพี่สาวไม่เคยบอกแม่ให้รู้…เล่าสู่กันฟังตามประสาสว.ที่มีความสุขกับอดีต…
ไม่มีความเห็น